3 ปิดบัง
Chapter 3
คุณหญิงอัมราเปิดประตูลงจากรถ เดินตรงไปที่คาเฟ่ที่คนกำลังพลุกพล่าน
“รับอะไรดีคะ?” พราวนภาเอ่ยถามพร้อมกับส่งรอยยิ้มให้อย่างเป็นมิตร คุณหญิงอัมราทำหน้าไม่พอใจ แต่ไม่ทันได้พูดอะไร ไคเลอร์ก็เดินเข้ามาในร้าน
“พราว”
“พี่ไครับอะไรดีคะ?”
“อะไรดีล่ะ อะไรก็ได้ ขอขนมสักชิ้น”
“ค่ะ” พราวนภาพยักหน้าแล้วหันไปยิ้มให้คุณหญิงอัมรา “คุณลูกค้าจะรับอะไรดีคะ?”
“เอาอะไรก็ได้มาแล้วกัน”
“อ้าวคุณน้าอัมรามาคนเดียวเหรอครับ?”
“มากับปิ่นอนงค์จ้ะ น้องเขาอยู่ที่รถ”
“อ๋อครับ” ไคเลอร์พยักหน้า
“หลานจะไปเรียนต่อที่อังกฤษมะรืนนี้ใช่ไหม?” คำถามของคุณหญิงอัมราทำเอาคนที่ยกเครื่องดื่มมาเสิร์ฟชะงักปลายเท้า ใบหน้าเจ้าหล่อนซีดเผือด จนเก็บอาการเอาไว้ไม่มิด
“ครับ” ไคเลอร์พยักหน้า หันไปมองพราวนภาที่ยืนทำหน้าตกใจ หล่อนยกเครื่องดื่มมาเสิร์ฟด้วยมือสั่นเทา “พราว”
“…” พราวนภาไม่ได้พูดอะไร แต่เลือกที่จะเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ลูกค้าต่อ พยายามปรามสติของตัวเองที่มันกำลังตกใจ เพราะสิ่งที่ได้รับรู้
“ปีหน้าน้าจะให้ปิ่นอนงค์ไปเรียนที่เดียวกันกับไค”
“ครับ ไทเลอร์เองก็คงไปเรียนพร้อมปิ่นอนงค์”
“จ้ะ” คุณหญิงอัมราพยักหน้า สายตายังคงจ้องมองพราวนภาไม่วางตา วันนี้นังเด็กนั่นรอดไปได้ ไม่เป็นไร วันหน้าก็ยังมี ถ้าไคเลอร์ไปต่างประเทศ นางคงทำอะไรนั่งเด็กนั่นได้ง่ายขึ้น
พราวนภาง่วนอยู่กับงานทั้งวันจนกระทั่งมืดค่ำ ไม่ได้สังเกตว่าไคเลอร์กลับไปตั้งแต่ตอนไหน ร้านปิดแล้วแต่พราวนภาต้องนั่งล้างแก้วอยู่หลังร้านเหมือนเดิม
“พราว”
“คะพี่ชมพู่” เด็กสาวขานรับพร้อมกับคว่ำแก้วใบสุดท้ายที่ล้างเสร็จ
“อันนี้ค่าแรงกับเงินพิเศษของพราว พี่ขอบคุณพราวมากนะ ถ้าไม่ได้พราวช่วยคงแย่”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ชมพู่ อะไรที่พราวช่วยได้พราวยินดีช่วยค่ะ” เด็กสาวยิ้มให้แล้วรับเงินมาใส่กระเป๋า
“จ้ะ ยังไงพี่ก็ขอบคุณพราวมากๆ เออ พี่ซื้อยำมาสองสามกล่อง ซื้อมาเผื่อพราวด้วย พราวไปหยิบเอาสองกล่องนะ”
“ขอบคุณค่ะพี่ชมพู่” พราวนภายกมือไหว้อย่างนอบน้อม แล้วเดินไปหยิบยำสองกล่องใส่ถุง “พราวกลับก่อนนะคะ”
“จ้ะ” ชมพู่พยักหน้ามองตามหลังเด็กสาวอย่างเอ็นดู ชมพู่เห็นพราวนภาตั้งแต่เป็นเด็ก พราวนภาเป็นเด็กน่ารัก เป็นคนขยัน เมื่อก่อนไม่ได้มาทำงานกับเธอ พราวนภาไปรับจ้างล้างชามร้านก๋วยเตี๋ยว พอร้านก๋วยเตี๋ยวย้ายไปที่อื่น ชมพู่ก็เลยให้พราวนภามาทำงานด้วย
พราวนภาเป็นเด็กน่าสงสาร ต้องหาเงินเรียนตั้งแต่เล็กๆ มีแม่ก็เหมือนไม่มี แม่ชอบด่าว่าพราวนภา ไม่ว่าสามีใหม่จะพูดอะไร ก็ไม่เคยโต้แย้ง เออออห่อหมกไปด้วย ทำให้ลูกสาวต้องลำบากตรากตรำทุกอย่าง
พราวนภาเดินกลับบ้านอย่างเงียบ ๆ ในหัวก็คิดวุ่นวายกับเรื่องไคเลอร์ คิดแล้วก็น้อยใจ เขาจะไปต่างประเทศไม่กี่วัน แต่ไม่บอกเธอสักคำ
พราวนภาถอดรองเท้าเดินเข้าไปในบ้าน แล้วเดินขึ้นข้างบน เธอล้มตัวนอนอย่างเหนื่อยล้า ในหัวก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
“พราว” ประตูห้องถูกเคาะเบา ๆ พร้อมกับเสียงของไคเลอร์ที่เอ่ยเรียกเธอ “พราวเปิดประตูให้พี่หน่อย”
“พี่กลับไปเถอะค่ะ” พราวนภาเปิดประตูแล้วเอ่ยลอบกับเขา
“พราวโกรธพี่เหรอ?”
“พราวไม่ได้โกรธ พราวไม่มีสิทธิ์โกรธอะไรในตัวพี่อยู่แล้ว พี่จะไม่บอกพราว เรื่องการไปเรียนต่อต่างประเทศ พราวก็ไม่มีสิทธิ์เรียกร้อง ให้พี่บอกกับพราวหรอกค่ะ”
“พี่ขอเข้าไปหน่อย” ไคเลอร์ว่าแล้วแทรกตัวเข้าไปในห้อง แล้วรั้งร่างบอบบางมากอด “พี่ไม่ได้ตั้งใจจะปกปิด แต่แม่พี่จะให้พี่ไปมะรืน ไปอยู่กับน้าที่โน้นเพื่อเตรียมความพร้อม พี่เองก็เพิ่งรู้เมื่อวาน ทุกอย่างมันเร็วมากพราว พี่ไม่รู้จะเริ่มพูดกับพราวอย่างไรดี”
“แต่พี่ก็เลือกที่จะไม่พูดกับพราว หรือพี่จะไปเลย โดยไม่บอกพราวสักคำ” น้ำเสียงสั่นเครือ เจือปนไปด้วยความน้อยใจ ถ้าเธอไม่รู้จักปากคนอื่น เธอก็คงไม่รู้ว่าเขาจะไปที่อื่น ไปในที่ที่ห่างไกลแสนไกล ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะได้เจอกันอีกครั้ง
“พี่ไม่ได้จะปกปิด พี่แค่ไม่รู้จะเริ่มพูดกับพราวยังไง เมื่อคืนพี่พาพราวไปขับรถเล่น พี่ตั้งใจจะไปพูดเรื่องนี้ แต่ฝนดันตกบรรยากาศพาไป พี่เลยไม่ได้พูดเรื่องนี้กับพราว พราวอย่าโกรธพี่นะ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังพราวจริงๆ”
“…”
“อย่าโกรธพี่เลยนะ พี่ไปแค่ไม่กี่ปี พี่เรียนจบ พี่จะกลับมาหาพราว” ไคเลอร์กอดร่างบอบบางแน่น เขาเองก็ไม่ได้อยากไป แต่ก็ขัดมารดาไม่ได้ ท่านต้องการให้เขาไปเรียนเพื่ออนาคต เขารู้ว่าท่านหวังดี ปฏิเสธไปก็ป่วยการ “พี่ไม่ได้อยากจากพราวเลย พี่รักพราวมาก พราวก็รู้”
“แล้วพี่จะไปเรียนที่อังกฤษกี่ปี” พราวนภาเสียงอ่อย มองหน้าชายคนรัก แค่คิดว่าจะไม่ได้เจอเขา ใจมันก็วูบโหวงจนแทบทนไม่ได้
“เรียนปริญญาตรีสามปีต่อปริญญาโทอีกหนึ่งหรือสองปี พี่ก็ได้กลับมาแล้ว”
“สี่ห้าปี” มันนานมากในความรู้สึกของเธอ ไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง เขาจะลืมเธอไหม เขาจะลืมเธอหรือเปล่าหากต้องไปเจอผู้หญิงสวย ๆ อีกมากมาย “พี่จะลืมพราวไหมคะ?”
“พี่ไม่มีทางลืม พราวสัญญาได้ไหมว่าจะรอพี่กลับมา สัญญาได้ไหม ว่าจะไม่ลืมพี่”
“พราวไม่มีวันลืมพี่ไคเลอร์แน่นอน” พราวนภากอดเขาตอบ ถ้าเขามีเหตุจำเป็นต้องไปเพื่ออนาคต เธอจะงอแงโกรธเคืองเขาที่เขาไม่บอกมันก็ไม่ใช่เรื่อง
“ขอบคุณนะพราว ที่พราวเข้าใจพี่”
“ค่ะพี่ไค”
“งั้นเรามากินข้าวกันดีกว่า พี่ซื้ออาหารมาเยอะเลย”
“ค่ะ” พราวนภาพยักหน้า แล้วไปช่วยเขายกข้าวของมาวางบนโต๊ะ พราวนภาแกะอาหาร ก่อนจะตาโตเมื่อได้เห็นอาหารที่มันละลานตา อาหารที่เขาซื้อมามีแต่ของดี ๆ “กินกันสองคน ทำไมต้องซื้อมาเยอะขนาดนี้คะ?”
“พี่อยากให้พราวได้กินของอร่อย กินเยอะ ๆ นะ กินไม่หมดก็ใส่ตู้เย็นไว้
“ค่ะ”
____
“ตาไคแอบไปหาผู้หญิงที่บ้านเช่าแถวสลัมค่ะคุณพี่” คุณหญิงอัมราเอ่ยกับคุณหญิงสร้อยสุดา “เด็กนั่นออดอ้อน ให้ตาไคซื้อของให้ ตาไคเองก็หลงเด็กนั่นหัวปักหัวปำ ทำให้หนูปิ่นอนงค์เสียใจมาก หนูปิ่นเป็นคู่หมั้นตาไคนะคะ ทำไมตาไคถึงไม่เคยสนใจไยดีเลย มันน่าน้อยใจจริง ๆ”
“ไอ้ลูกบ้านี่ ทำไมชอบไปเกลือกกลั้วกับพวกผู้หญิงชั้นต่ำพวกนั้น ฉันล่ะไม่เข้าใจเลย
“แล้วคุณพี่จะจัดการยังไงดีคะ?”
“ให้ตาไคไปก่อน ฉันจะจัดการนังเด็กนั่นเอง มันต้องเลิกยุ่งวุ่นวายกับลูกชายฉัน”
