บท
ตั้งค่า

กันและกัน

Chapter 2

พราวนภามองไปเบื้องหน้า ถนนสายนี้ไม่เคยหลับใหล เพราะรถราคราคร่ำเต็มท้องถนน ไคเลอร์ขับรถออกไปนอกเมือง ท้องฟ้าที่เคยสว่างไสวไปด้วยแสงจันทร์และดวงดาว ถูกปกคลุมด้วยเมฆสีดำทะมึน

“เหมือนฝนจะตก”

“เรากลับกันเลยไหมคะ?”

“ยังไม่กลับครับ เราเพิ่งมาเองนะพราว” ไคเลอร์ยิ้มแล้วขับรถพุ่งทะยานไปเบื้องหน้า ก่อนจะไปจอดข้างทาง เมื่อฝนห่าใหญ่ตกกระแทกกระจกอย่างรุนแรง “ว้า ฝนตกหนักมาก แย่จัง พี่อุตส่าห์จะพาขับรถเล่น กินลมชมวิว”

“ฝกตกหนักขนาดนี้ เรากลับกันเถอะค่ะ”

“ยังกลับไม่ได้ ฝนตกหนักแบบนี้ มองไม่เห็นทางหรอก” ไคเลอร์ยิ้มให้คนตัวเล็ก “เอาไว้ฝนซาก่อนค่อยกลับ น้องพราวหยิบขนมที่เบาะหลังมากินฆ่าเวลาก็ได้ จะได้ไม่เซ็ง”

“พราวยังไม่อยากกินค่ะ” พราวนภามองกระจกที่มีน้ำฝนกระแทกพร่ามัว แล้วถอนหายใจออกมาแรง ๆ มันก็จริงอย่างที่เขาพูด แม้กระจกมีที่ปัดน้ำฝนปัดไปมาแต่ฝนที่ตกลงมาห่าใหญ่ ทำให้มองไม่ค่อยเห็นอะไร พอหันกลับแก้มสวยก็ชนกับจมูกของไคเลอร์ที่ยื่นหน้ามาหาเธอ “อุ๊ย พี่ไคเลอร์”

“แก้มพราวหอมนุ่มมาก” เขาเอ่ยแล้วสบสายตาคนตรงหน้า ที่พยายามหลบสายตาด้วยความขวยเขิน จนเขาต้องช้อนปลายคางเจ้าหล่อนขึ้น “พราวรักพี่ไหม?”

“เอ่อ…” คนถูกถามตรง ๆ ร้อนผ่าวไปทั้งหน้า ยิ่งได้สบสายตาของเขา ใบหน้าก็ยิ่งเห่อร้อน ไคเลอร์เห็นคนตัวเล็กเสียอาการก็จุมพิตที่ปากสวย “พี่ไค…”

“พี่ถามว่ารักพี่ไหม? น้องพราวยังไม่ตอบพี่เลย”

“เอ่อ…พราว” ไม่ใช่ว่าตอบไม่ได้ แต่สมองของหล่อนยังมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“รักไหม?”

“รักค่ะ” เด็กสาวพยักหน้า สบตากับชายคนรัก

“พี่รักน้องพราวมากเลย” เขาจุมพิตที่ปากนุ่มอย่างดูดดื่ม ปรับเบาะหญิงสาวให้เอนราบ แล้วตามไปทาบทับ “พี่รักน้องพราวที่สุด”

“พะ…พี่ไค เราทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ” มือเล็กยันที่อกแกร่งของคนบนร่าง ไคเลอร์จูบตามดวงหน้าสวย แล้วเลื่อนต่ำมาที่ซอกคอ “พี่ไค…”

“พี่รักพราวนะ” ไคเลอร์จูบที่ปากเรียวสวยอีกระลอก คราวนี้รสจูบของเขาเร่าร้อน เว้าวอนให้เธอจูบตอบ มือไม้ใหญ่ลูบไล้ไปทั่วร่างสวย พราวนภาสั่นสะท้าน ความรู้สึกแปลกใหม่เกิดขึ้นในกาย มันร่านร้อน วูบวาบไปทั้งร่าง “พี่รักพราว”

“พี่ไค พะ…พราวว่าเราอย่าทำแบบนี้ดีกว่า” พราวนภาได้สติหลังจากหลงลืมไปกับสัมผัสแสนวาบหวามของชายคนรัก เธอยังเรียนไม่จบเธอยังไม่พร้อม ไม่สมควรทำเรื่องแบบนี้

“พี่ต้องการพราว” ไคเลอร์ไม่อาจทนต่อความต้องการของตัวเอง เขารุกเร้าคนใต้ร่างจนเธออ่อนระทวย ยอมให้เขาตักตวงความหอมหวานจากร่างกาย

——

พราวนภานอนหอบหายใจรัว ๆ หลังจากทุกอย่างจบสิ้นลง ไคเลอร์กอดจูบเธออย่างทะนุถนอม ปากก็พร่ำบอกว่ารักเธอไม่หยุด

“พี่รักพราว”

“พราวว่าเรากลับบ้านกันก่อนดีกว่าค่ะ” พราวนภาหน้าร้อน ไม่กล้าสบสายตาของชายคนรัก บทรักแสนเร่าร้อนยังคงตราตรึง มันเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่เพิ่งได้ลิ้มลอง พราวนภาลุกขึ้นนั่งแล้วใส่เสื้อผ้าของตัวเอง ไคเลอร์เองก็ลุกขึ้นใส่เสื้อมองไปด้านนอก ตอนนี้ฝนยังคงตกปอย ๆ แต่ก็สามารถขับรถกลับได้

ภายในรถเงียบกริบ พราวนภาไม่เอื้อนเอ่ยคำพูดใดออกมา สมองมันตื้อคิดอะไรไม่ออก ไคเลอร์ขับรถไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งไปหยุดอยู่หน้าบ้านไม้สองชั้นของพราวนภา

“พราวโกรธพี่เหรอ?” ไคเลอร์เอ่ยถาม พลางยื่นมือมากุมมือของคนรัก เมื่อเห็นว่าเธอนั่งเงียบไปนาน

“เปล่าหรอกค่ะ พราวแค่รู้สึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันเร็วเกินไป”

“พี่ขอโทษนะ”

คำพูดของชายคนรักทำให้พราวนภาหันไปมองหน้าเขา ที่จริงเธอเองไม่ได้โกรธเขา แต่โกรธตัวเองที่เผลอไผลไปกับสัมผัสแสนหวามนั้น ถ้าเธอห้ามตัวเอง ใจแข็งกับเขาได้ คงไม่เกิดเรื่องพวกนั้นขึ้นมา

“พราวไม่ได้โกรธพี่ แต่พราวโกรธตัวเอง” พราวนภาลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในบ้าน ความรู้สึกมันบอกไม่ถูก แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เธอก็คงกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้

“พราว” ไคเลอร์เดินเข้ามาในบ้าน

“พี่ไคกลับไปเถอะค่ะ”

“วันนี้พ่อแม่ไม่อยู่ไม่ใช่เหรอ? อยู่บ้านคนเดียวมันอันตรายนะ วันนี้พี่จะอยู่เป็นเพื่อน” ที่เขารู้ว่าพ่อแม่เธอไปต่างจังหวัดก็เพราะพราวนภาเล่าให้เขาฟัง ตอนที่เธอไปเดินเล่นกับเขา

“อยู่กับพี่อาจจะอันตรายมากกว่า”

“พี่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะพราว”

“สาบานว่าไม่ได้ทำ” เธอหันมาค้อนเขา ไคเลอร์เดินเข้าไปกอดพราวนภาแล้วหอมแก้มหญิงสาวฟอดใหญ่

บทรักที่เกิดขึ้นบทรถยังซาบซ่านอยู่ในอก ถ้าหากกลับตามคำสั่งคนในอ้อมกอด เขาก็คงไม่ได้ทำรักกับเธออีกนะสิ ไคเลอร์ไม่ยอมกลับหรอก ในเมื่อเขาได้พราวนภาเป็นเมียแล้ว เขาก็อยากตีตราจองหล่อนไปทั้งร่างอีกครั้ง

“งั้นพี่ทำอีก”

“ไม่เอานะคะพี่ไค” พราวนภาปฏิเสธ แต่มีหรือคนที่กอดเธออยู่ในอ้อมแขนจะยอม

วันต่อมาพราวนภาลุกขึ้นแต่เช้าอาบน้ำแต่งตัว เธอมัดผมรวบตึงปล่อยหางม้าด้านหลัง หันไปมองไคเลอร์ที่ยังนอนหลับอยู่บนที่นอนของเธอ เมื่อคืนกว่าจะนอนได้ก็ลากยาวไปเกือบตีสาม คนอะไรไม่รู้หื่นกามเหลือทน

พราวนภาไม่ได้ปลุกแต่ยกอาหารที่เธอทำเสร็จตั้งแต่เช้ามืดมาวางไว้บนโต๊ะให้เขา ก่อนจะหยิบกระดาษเขียนโน๊ตติดไว้ฝาบ้าน แล้วเดินลงบันไดลงไปด้านล่าง เธอหยิบรองเท้าลำลองมาสวมใส่ เดินออกไปจากบ้าน

พราวนภาเดินไปจนถึงคาเฟ่ที่ทำงาน วันนี้ลูกค้าแน่นขนัดแต่เช้า เธอจึงรีบเข้าไปด้านหลังของร้าน แล้วรีบล้างแก้วล้างจานที่ใส่ขนม

“น้องพราว มาช่วยพี่เสิร์ฟน้ำกับขนมหน่อยจ้ะ”

“ได้จ้ะพี่ชมพู” พราวนภารีบเช็ดมือ แล้วสวมเสื้อกันเปื้อน ยิ่งสายลูกค้ายิ่งเยอะ ชมพูจึงมาขอให้พราวนภาช่วยเสิร์ฟ

ไคเลอร์ลุกขึ้นจากที่นอนแล้วกวาดสายตามองหาพราวนภา เมื่อคืนเขาสาดบทรักกับพราวนภาทั้งคืน กว่าจะตื่นก็เกือบเที่ยง ไคเลอร์ลุกขึ้นจากที่นอนแล้วหยิบโน๊ตมาอ่าน

‘พราวไปทำงานก่อนนะคะ พราวทำอาหารไว้ให้ ถ้ากินแล้วก็กลับบ้านนะคะ เดี๋ยวคนที่บ้านเป็นห่วง’

ไคเลอร์ยิ้มแล้วหันไปมองจานอาหารที่พราวนภาทำไว้ให้แล้วยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

“ใช่นังเด็กนั่นไหมหนูปิ่น” คุณหญิงอัมราเอ่ยถามเด็กสาวที่นั่งรถมาด้วย สายคายังคงจ้องร่างระหงของพราวนภาไม่วางตา

“ใช่ค่ะคุณป้า นังเด็กนั่นแหละค่ะ”

“เดี๋ยวป้าจัดการมันเอง”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel