ความรัก
Chapter 1
“พี่ไค” น้ำเสียงหวานใสเอ่ยเรียกทำให้เด็กหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาหันไปมอง ร่างผอมเพรียวในชุดนักเรียนมัธยมปลายวิ่งฉับ ๆ เข้ามาหา พร้อมกับรอยยิ้มสวยระบายเต็มดวงหน้า
“อ้าว พราว พี่กำลังจะโทรหาพอดี” เขายิ้มด้วยรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นให้กับเด็กสาวที่วิ่งมาหยุดอยู่ข้าง ๆ
“วันนี้พราวมาเช้าค่ะ” พราวนภายิ้มให้ไคเลอร์
“แล้วหน้าไปโดนอะไรมา?” เขาเอ่ยถาม พลางใช้มือขึ้นมาจับแก้มหญิงสาว เมื่อเห็นร่องรอยแดงเป็นรอยนิ้วเด่นชัด ก่อนใบหน้ายิ้มแย้มเปลี่ยนเป็นถมึงทึง “พ่อพราวทำอีกแล้วใช่ไหม?”
“เปล่าหรอกค่ะ เมื่อเช้าพราววิ่งทะเล่อทะล่าไม่ดูทางไปชนประตูค่ะ” พราวนภาพูดปด เพราะไม่อยากให้คนรักไม่สบายใจ ที่จริงเธอกับพ่อเลี้ยงมีเรื่องทะเลาะกันนิดหน่อย ทำให้ท่านลงไม้ลงมือกับเธอ เรื่องหลักๆก็เป็นขอเงินซื้อเหล้า ซึ่งเธอเองก็ไม่มีให้ทำ ท่านเองก็ทำงานกับเสี่ยในบ่อน เงินเดือนก็ไม่น้อย แต่ก็ชอบมาบังคับเอาเงินกับเธอ
เธอยังเรียนไม่จบ ไปรับจ้างล้างถ้วยกับล้างแก้วกาแฟอยู่ที่คาเฟ่ก็ได้เงินแค่ไม่กี่บาท พอได้ซื้อกับข้าวกับอุปกรณ์การเรียน ได้แบ่งเบาภาระของมารดาก็เท่านั้น ไม่ได้มีเงินทองมากมาย ที่จะให้ท่านเอาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
“พี่ไม่เชื่อ” ไคเลอร์เสียงขุ่น ไม่ใช่ครั้งแรกที่พราวนภาโดนทำร้าย พ่อพราวนภาทำร้ายพราวนภาเป็นประจำ ส่วนมากก็เรื่องเงินทอง เขาเองก็เคยหยิบยื่นเรื่องเงินให้พราวนภา แต่ทุกครั้งที่เขาให้เธอไป เธอไม่เคยได้ใช้ ส่วนมากพ่อของเธอจะเป็นคนแย่งเอาไปซื้อเหล้าทั้งหมด ส่วนพราวนภาเองก็ไม่ได้อยากได้เงินของเขา ทำให้หลังจากนั้น เขาก็ไม่ได้ให้เงินเธอเท่าที่ควร
“พราวไม่ได้โกหกนะคะ”
“ปากบอกว่าไม่ได้โกหก แต่ความจริงมันก็คือความจริงนะพราวนภา”
“พราวรู้ค่ะ แต่มันไม่มีอะไรจริง ๆ” พราวนภาเอ่ยอีกครั้ง ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่อง เพราะไม่อยากให้ชายคนรักหงุดหงิดกับบิดาของตน “พราวว่าเราไปนั่งอ่านหนังสือที่ม้าหินอ่อนดีกว่า”
“อืม ก็ได้” ไคเลอร์พยักหน้าเดินไปนั่งที่ม้าหินอ่อนหน้าตึกใต้ต้นหูกวาง
“พี่ไคเลอร์ พราว มาแต่เช้าเลย” น้ำผึ้งวางถุงขนมลงบนโต๊ะ หย่อนก้นลงนั่งม้านั่งตรงข้าม
“อืม น้ำผึ้งก็มาเช้านะ” พราวนภายิ้มให้เพื่อน แล้วเปิดกระเป๋านักเรียนหยิบเอากล่องเล็ก ๆ ออกมายื่นให้ไคเลอร์ “พราวให้พี่ไคค่ะ”
“อะไรเหรอ?” ไคเลอร์รับมาพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างสงสัย ก่อนจะเปิดกล่องเล็ก ๆ นั่นดู มันเป็นช็อกโกแลตรูปหัวใจหลายชิ้น “น่าอร่อย”
“พราวไม่มีอะไรให้พี่ไคเลย วันนี้เป็นวันปัจฉิมพราวก็เลยอยากมอบมันให้พี่”
“ขอบใจนะ” เขายิ้มให้พราวนภา ก่อนจะหยิบกล่องบางอย่างยื่นให้ “พี่ให้”
“อะ…อะไรคะ?” พราวนภาตาโตรับกล่องมาเปิดดู “พี่ไค มันแพงเกินไปค่ะ พราวรับไม่ได้ค่ะ” พราวนภายื่นกล่องคืน เมื่อเห็นว่าแฟนหนุ่มของเธอมอบโทรศัพท์ยี่ห้อผลไม้แหว่งตัวใหม่ล่าสุด ราคาแพงหูดับให้
“รับไปเถอะ พี่ไม่เคยให้อะไรดี ๆ กับให้พราวเลย พราวรับไปเถอะนะ จะได้มีโทรศัพท์ดี ๆ ใช้กับเขา”
“พี่ไค” พราวนภาเสียงสั่นมองเขาอย่างซาบซึ้งใจ ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยได้รับของของดี ๆ จากพ่อแม่เลย ส่วนมากก็มีแต่ไปทำงานรับจ้าง เก็บหอมรอมริบได้เงินมาซื้อสิ่งที่อยากได้เอง แต่สิ่งของที่เก็บเงินซื้อส่วนมากก็จะเป็นของที่พอใช้ ไม่ได้มีราคาแพงอะไร ยิ่งเป็นของแพงๆ ที่คนตรงหน้าซื้อให้ ยิ่งไม่เคยมีปัญญาซื้อ
“รับไปเถอะ ถ้าพราวไม่รับพี่จะโกรธพราวมาก โทรศัพท์เครื่องนี้พี่ตั้งใจซื้อให้พราว พราวต้องรับมัน”
“ขอบคุณนะคะ” พราวนภาไหว้ขอบคุณ ต่อให้ปฏิเสธ ไคเลอร์ก็ไม่มีทางยอมแน่นอน
“พี่ว่าเราไปที่หอประชุมดีกว่านะ คนอื่น ๆ น่าจะไปรวมตัวกันแล้ว”
“ค่ะ” พราวนภาพยักหน้า “น้ำผึ้งไปที่หอประชุมกัน”
“พราวกับพี่ไคไปก่อนเลย เดี๋ยวเราตามไป” น้ำผึ้งเอ่ยตอบ
“จ้ะ งั้นพราวไปก่อนนะ” พราวนภาเดินเคียงข้างไปกับไคเลอร์ แล้วเม้มปากตัวเองเบา ๆ
งานปัจฉิมนิเทศถูกจัดขึ้น นักเรียนต่างมอบของให้รุ่นพี่ที่เรียนจบ ไคเลอร์รับดอกไม้กับนักเรียนคนอื่น ๆ พร้อมกับถูกเขียนข้อความเต็มเสื้อ
“พราวเขียนให้พี่หน่อยสิ” ไคเลอร์ยื่นปากกาเคมีให้เด็กสาว เธอยิ้มด้วยรอยยิ้มหวานใส เขียนข้อความที่อกข้างซ้ายให้
“หูย คู่นี้หวานกันจังเลย ถ้าพี่ไคทิ้งพราว มาซบอกเราได้นะพราว” ไทเลอร์เอ่ยแกล้งพี่ชาย
“ไอ้น้องเวร!” ว่าแล้วก็เคาะกะโหลกน้องชายสองที จนไทเลอร์ต้องลูบหัวตัวเองปอย ๆ
“พี่ชอบรุนแรงกับน้องทุกที”
“ก็มึงมันชอบกวนตีน”
“พราวดูสิ พี่ชายเราใจร้ายที่สุดเลย” ไทเลอร์หันไปฟ้องแฟนพี่ชาย พร้อมกับทำตาปริบ ๆ คนเป็นพี่เลยกระแทกฝ่ามือเข้าหัวให้ “โอ๊ย พี่ไค”
“ฟ้องเหรอไอ้น้องเวร!”
“ฮ่า ๆ”
“น้ำผึ้งอยากเขียนข้อความบนเสื้อให้พี่ไคจังค่ะ” น้ำผึ้งเอ่ยกับไคเลอร์ เขาจึงยื่นปากกาเคมีให้ เธอมองข้อความบนอกของไคเลอร์แล้วเขียนข้อความอวยพรเขาข้าง ๆ ข้อความพราวนภา
ผ่านไปอีกหลายวัน ไคเลอร์นัดพราวนภามาเดินเล่นกินลมชมวิวแถวแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนจะพาเด็กสาวขึ้นเรือรับประทานอาหารสุดหรู ชมวิวสวย ๆ ยามค่ำคืน พราวนภาเองไม่ได้ทำงานเพราะร้านปิด พ่อเลี้ยงกับแม่ไม่อยู่บ้านหลายวัน เพราะต้องไปงานศพญาติพ่อเลี้ยงที่ต่างจังหวัด พราวนภาจึงได้มาเที่ยวกับไคเลอร์อย่างสบายใจ
“อาหารอร่อยมากเลยค่ะ วิวก็สวย”
“กินเสร็จพี่จะพาไปขับรถเล่น”
“พราวว่าพราวไม่…”
“ห้ามปฏิเสธ” ไคเลอร์พูดดัก เขารู้ว่าพราวนภาจะปฏิเสธเพราะไม่อยากกลับบ้านดึก แต่ไคเลอร์ก็ยังอยากอยู่กับเจ้าหล่อน กว่าจะมีเวลาได้มาเที่ยวด้วยกันมันไม่ง่าย พราวนภาต้องทำงาน ส่วนเขาก็กำลังวุ่นวายกับครอบครัว “พี่ไม่พากลับดึกหรอก ไปนั่งรถเล่นกับพี่นะ”
“พราว…” พราวนภาลังเล เธอไม่เคยกลับบ้านดึก ไม่เคยนั่งรถเล่น ไม่เคยทำอะไรที่ออกนอกลู่นอกทาง
“นะครับ” ชายหนุ่มออดอ้อน “นั่งรถกินลมชมวิวไม่นานหรอก พี่จะกลับไปส่งนะ”
“ค่ะ” พราวนภารับปาก ก่อนจะหันไปมองพลุแสนสวยที่ถูกจุดขึ้นสู่ท้องฟ้า มันพุ่งขึ้นสูงแล้วแตกเป็นประกาย ท้องฟ้าสว่างวาบ เต็มไปด้วยความงดงาม “สวยจังค่ะพี่ไค”
“คนตรงหน้าพี่สวยกว่าเยอะ พลุที่ว่าสวย ก็ยังสวยสู้พราวนภาของพี่ไม่ได้”
“พี่ไค” พราวนภาหน้าร้อน ยิ่งได้หันมาสบสายตาเปิดเปลือยความรู้สึกของคนรัก เธอก็ยิ่งมีความสุข
“พี่รักพราวจัง”
