บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

หลายวันต่อมา

เจตรินทร์มาร่วมงานธิดาป่าโศกประจำปีพร้อมกับลูกน้องนับสิบคนที่ขอติดรถมาด้วย หวังจะเดินเที่ยวเล่นในงาน ทว่ากลับไร้เงาผู้ช่วยตัวแสบที่ก็ไม่รู้ว่าวันนี้ทั้งวันหายหัวไปไหน ถามจากใครก็ไม่มีใครรู้ว่าหายไปไหน โทรเข้ามือถือก็ปิดเครื่อง มันทำให้เขาหงุดหงิดจนไม่เป็นอันทำอะไรตลอดทั้งวัน สุดท้ายก็ได้แต่นั่งกระดกเหล้าเข้าปากโดยมีกุลธิตา ลูกสาวผู้ว่าที่เข้ามานั่งอิงแอบอยู่ข้างๆ ไม่ยอมให้เขาห่างตัวไปไหนเลยแม้แต่ก้าวเดียว ตั้งแต่เจอหน้ากัน

“ถ้าแว๋วรู้ว่าคุณเจตน์จะมางานนี้ด้วย แว๋วคงลงประกวดไปแล้ว คุณเจตน์ว่าสวยๆ อย่างแว๋ว ถ้าลงประกวดจะชนะไหมคะ” ในชีวิตที่ผ่านมาเขาได้เจอกับผู้หญิงหลงตัวเองมาก็มาก แต่กลับไม่เคยเจอใครที่จะหลงตัวเองได้น่ารำคาญเท่าคนข้างกายนี้อีกแล้ว หากไม่ติดว่าพ่อหล่อนเป็นเพื่อนสนิทพ่อเขาคงลุกหนีไปนานแล้ว

“ไม่รู้สิครับ เผอิญว่าผมไม่ใช่กรรมการ”

“คุณเจตน์น่ะ! ชมให้แว๋วชื่นใจหน่อยก็ไม่ได้ แว๋วน้อยใจแล้วนะคะ” เจตรินทร์ไม่ได้สนใจท่าทีแง่งอนของคนข้างกายเลยแม้แต่น้อย ออกจะรำคาญด้วยซ้ำที่หล่อนเอาแต่ตามติดชนิดเป็นเงาตามตัว เขาจึงเลือกที่จะยกแก้วเหล้าตรงหน้าขึ้นมากระดก เป็นการฆ่าเวลาให้การประกวดตรงหน้ารีบจบๆ ลงไปเสียที จะได้ขอตัวกลับ เพราะหากกลับก่อนงานเลิก คงเป็นการเสียมารยาทมากทีเดียว

‘มาถึงหมายเลขสุดท้ายกันแล้วครับ ขอเชิญทุกท่านพบกันสาวงามหมายเลขสิบสาม นางสาวกวินตา หรือน้องกล้วยครับ’

“พรวด!!!”

“กรี๊ดด คุณเจตน์ ชุดแว๋วเปียกหมดแล้วนะคะ” แม้เสียงของหญิงสาวข้างกายจะดังแสบแก้วหูสักแค่ไหน แต่เจตรินทร์กลับไม่มีเวลาหันไปใส่ใจ เพราะตอนนี้สายตาของเขามันกำลังหยุดอยู่ที่ผู้เข้าประกวดคนสุดท้ายอย่างไม่คิดจะละสายตาไปไหน นานนับนาทีทีเดียวถึงได้เข้าใจถึงเหตุผลของการหายตัวไปของแม่ตัวดีที่ตอนนี้กำลังยืนโปรยยิ้มหวานๆ อยู่บนเวทีในฐานะหนึ่งในผู้เข้าประกวด

สิ่งที่อยากรู้ตอนนี้คือใคร!

ใครอนุญาตให้ยัยนั่นไปประกวด

ด้านกวินตราเองก็ใจเต้นรัวไม่น้อยยามที่ได้เห็นสายตาไม่สบอารมณ์ของผู้เป็นนายเข้า ไม่รู้ว่าเพราะเธออับโชคหรืออย่างไรเมื่อที่นั่งของเขามันถึงได้ตรงกับจุดที่เธอยืนอยู่บนเวทีได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ มันทำให้รู้สึกเสียวสันหลังอยู่ไม่น้อย เพราะดูจากสายตาของเขาที่กำลังจ้องเขม็งมาที่เธออยู่ในตอนนี้นั้น บอกให้รู้ ว่าเขากำลังไม่พอใจมากทีเดียว แต่จะไม่พอใจอะไรนั้นเธอไม่รู้

ยิ่งช่วงจังหวะที่เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้ายิ่งทำให้เธอใจสั่นขวัญเสีย แต่ไม่กี่วินาทีหลังจากนี้นั้นเขาก็ ‘ถีบ’ เธอลงจากฝันด้วยการยื่นกุหลาบช่อใหญ่ที่ได้รับมาตอนเข้างานให้ผู้เข้าประกวดที่ตนชื่นชอบให้แพรวพิณ ผู้เข้าประกวดหมายเลขสิบสองที่ยืนอยู่ข้างกัน

แม้จะได้แค่รางวัลนางงามผิวสวยมาครองแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย มันทำให้เธอรู้สึกมั่นใจในตัวเอง ที่ทำให้ใครต่อใครตาค้างได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เป็นนายที่ตอนนี้ไม่รู้หายไปไหน

เธอคิดพร้อมทั้งพยายามมองหาเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ใครบางคนโผล่เข้ามาหากัน

“ว้าย! แม่แหก! คุณปลัด! ตกใจหมดเลยค่ะ ทำไมโผล่มาเงียบๆ คะ” คนที่จู่ๆ ก็โผล่พรวดออกมาคือ เรืองฤทธิ์ ปลัดหนุ่มรูปหล่อที่มักชอบทำตัวแปลกๆทุกทีที่เจอกัน หลายคนบอกว่าเขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าชอบเธอ แต่เป็นเธอเองที่รู้สึกเฉยๆ กับเขา

“คุณกล้วยจริงๆ ด้วย เห็นตอนแรกผมจำเกือบไม่ได้ ดีที่ผู้ช่วยกระซิบบอกว่าเป็นคุณ” เรืองฤทธิ์ว่าพร้อมทั้งจ้องมองคนตรงหน้าที่วันนี้ดูแปลกตามากกว่าวันไหนๆ อย่างพิจารณา ตอนแต่งตัวปอนๆ ธรรมดาเขาก็ว่าเธอน่ารักแล้ว เห็นแบบนี้ยิ่งน่ารักไปกันใหญ่ อยากให้แม่ไปขอชะมัด! แต่ก็ไม่รู้ว่าสาวเจ้าจะยอมตกลงรึเปล่า

“ถ้าผมมาเร็วกว่านี้ รับรองว่าคุณกล้วยไม่มีทางแพ้แน่นอนครับ” ปลัดหนุ่มยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำคะแนนต่อไปอย่างไม่ลดละ น้อยมากที่เขาจะได้อยู่กับหญิงสาวตามลำพังแบบนี้ มันจึงเป็นโอกาสดีที่จะได้สารภาพความในใจที่มีต่อเธอนานหลายหลายปีออกมา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากวินตราที่น่ารักคงจะคิดตรงกัน

“คุณกล้วยครับ คะ…คือผมชอบ…”

“คันตีนโว้ย! จะกลับไหมบ้าน!” ทว่ายังไม่ทันที่จะได้สารภาพความในใจ เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นตัดหน้าซะก่อน

“นาย!” กวินตราตกใจไม่น้อยเพราะไม่คิดว่า ‘เขา’ จะมาอยู่แถวนี้ ในเวลานี้ได้ เธอคิดว่าเขาจะไปต่อกับยัยคุณแว๋วอะไรนั่นแล้วซะอีก ก็เล่นตัวติดกันราวกับเงาขนาดนั้น ใช้วิชามารขนานไหนถึงสลัดจนหลุดออกมาได้ แถมยังมาเงียบๆ ทำตัวเหมือนผีไม่มีผิด!

“ถามว่าจะกลับ หรือไม่กลับ!”

“กลับค่ะกลับ! กล้วยขอตัวก่อนนะคะคุณปลัด ขอบคุณสำหรับดอกไม้นะคะ สวัสดีค่ะ” เพราะไม่อยากให้คนบ้าอำนาจอารมณ์เสียไปมากกว่านี้เธอจึงรีบตัดบท และไม่ลืมหันไปเอ่ยลาปลัดหนุ่มผู้ใจดี ก่อนจะเดินตามอีกคนไปที่รถที่จอดรออยู่ในทันที

“ใครอนุญาตให้ลงประกวด!” ประโยคแรกในรอบหลายนาทีดังขึ้นเมื่อรถเริ่มเคลื่อนตัวออกมาได้สักพักใหญ่ๆ ฟังจากน้ำเสียงก็พอจะเดาได้อยู่ว่าเจ้าของมันคงกำลังอยู่ในอารมณ์หงุดหงิดไม่น้อย แต่แล้วยังไงล่ะ เธอไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ก็แค่ทำในสิ่งที่เขากับใครหลายคนคาดไม่ถึงก็แค่นั้น เขามีสิทธิ์อะไรมาโกรธ ไม่มีสักนิด!

“ไม่มีค่ะ กล้วยอยากประกวด ก็ประกวด” อีกคนตอบกลับหน้าตาย ไม่ได้สนเลยว่าคำตอบของตัวเองนั้นมันจะยิ่งสร้างความไม่พอใจแก่คนฟังแค่ไหน

“เดี๋ยวนี้เห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอแล้วว่างั้น จะทำอะไรเลยไม่คิดจะปรึกษา!” คำตัดพ้อนั้นไม่ได้ทำให้กวินตรารู้สึกผิดเลยสักนิด หากไม่เพราะเขาพูดจาดูถูกกันก่อน มีหรือเธอจะไปประกวด

ทั้งหมดมันก็เพราะเขาเขาคนเดียวนั่นแหละต้นเหตุของเรื่อง

“ก็ถ้ากล้วยบอกแล้วนายจะให้ประกวดไหมล่ะ” แน่นอนคำตอบของเขาคือไม่! ไม่มีเหตุผลอะไรรองรับทั้งนั้น แค่รู้สึกไม่อยากให้คนข้างกายเป็นที่สนใจของใครต่อใครเหมือนอย่างวันนี้ก็แค่นั้น เพราะ เห็นแล้วมันคันแข้งคันขายังไงชอบกล โดยเฉพาะกับไอ้ปลัดนั่น ที่มันพยายามจะเข้าหาคนของเขาทุกครั้งที่สบโอกาส!

“ครั้งนี้ฉันจะคาดโทษเธอไว้ก่อน อย่าให้มีครั้งหน้าอีก ไม่อย่างงั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน! เข้าใจไหม!” เสียงเข้มกำชับสั่ง ก่อนจะเบือนหน้าหนีทันทีที่พูดจบ เหมือนจะบอกให้อีกคนได้รู้เป็นนัยๆ ว่าเขาไม่สบอารมณ์ ต่อการกระทำในครั้งนี้ของเธอเป็นอย่างมาก

และอะไรก็ตามที่เขาไม่ชอบ...

อย่าหาทำ!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel