24 น้าชายของน้องสาวที่สนิทกัน
พอทั้งสองคนไปถึงที่ร้านก็มีคนนั่งทานอยู่แล้วหลายโต๊ะ ทั้งนักเรียน ผู้ปกครอง และยังมีครูบางคนที่มองเขากับหญิงสาวด้วยสีหน้าสงสัย กัลยณัฏฐ์ยิ้มให้ครูที่นั่งอยู่ถัดไปอีกสองโต๊ะ จากนั้นพ่อค้าวัยกลางคนแต่งตัวสะอาดสะอ้านก็เดินมารับออเดอร์
“คุณแนะนำหน่อยสิ ที่นี่อะไรอร่อย” ชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้แล้วกระซิบเบาๆ
“ที่นี่อร่อยทุกอย่างค่ะ” กัลยณัฏฐ์กระซิบตอบ
“ผมเอาเหมือนคุณเลยละกันนะครับ ขี้เกียจคิดน่ะ” เขาตอบแล้วหันไปยิ้มโปรยเสน่ห์ให้กับครูสาวอีกสองท่านที่เดินเข้ามาทีหลัง
เมื่อหญิงสาวสั่งกาแฟและไข่กระทะสำหรับตัวเองและชายหนุ่มแล้วก็มีความรู้สึกเหมือนมีใครกำลังจ้องอยู่ พอหันไปมองยังโต๊ะที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่เธอก็ยิ้มทักทาย
“ครูโบว์ ครูแมว สวัสดีค่ะ หญิงสาวหันไปกล่าวทักทายเพื่อนร่วมงาน ที่ไม่สนใจเธอเท่าไหร่ เพราะสายตาของคนทั้งคู่นั่นจ้องไปที่บุรุษหนุ่มรูปงามที่นั่งอยู่ด้านขวามือของเธอมากกว่า
ปุณณวิชญ์ยิ้มทักทาย อย่างคนมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี
“กาแฟกับไข่กระทะสุดอร่อยมาแล้วครับ” พ่อค้ายกกาแฟที่ยังมีควันลอยขึ้นมาจากแก้วส่งกลิ่นยั่วน้ำลายวางตรงหน้าหนึ่งหนุ่มกับหนึ่งสาวแล้วหันไปรับออเดอร์โต๊ะข้างๆ
“หน้าผมมีอะไรติดไหม” เขายื่นหน้ามาใกล้ๆ จนเธอได้กลิ่นอาฟเตอร์เชฟจางๆ มาปะทะจมูก
“ไม่มีค่ะ” พูดพลางคนกาแฟพลาง ตอนนี้ใจเธอเต้นเร็วและแรงแทบจะทะลุออกมาแล้ว
“แล้วทำไมผู้ชายคนนั้นจ้องหน้าผมจัง” เขากระซิบ
“คนที่ใส่เสื้อสีแดงใช่ไหมคะ” เธอเห็นครูผู้ชายท่านหนึ่งใส่เสื้อประจำสีแดง
“ใช่ๆ คนนั้นแหละ”
“ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นครูสอนพละนะคะ ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะไม่เคยคุยด้วยค่ะ” ที่โรงเรียนมีครูหลายแผนก แค่ลำพังแผนกภาษาต่างประเทศเองก็เกือบสิบคนแล้ว เธอจึงไม่ค่อยรู้จักครูจากแผนกอื่นมากเท่าไหร่นัก
“ครับ” เขานั่งทานไปเรื่อยๆ โดยหันไปมองชายคนนั้นเป็นระยะ ผู้ชายคนนั้นเลิกจ้องหน้าเขาแล้วแต่กลับมองมาทางหญิงสาวบ่อยๆ แต่เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่สนใจที่จะมองไปทางนั้นเขาก็เบาใจ แต่ก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมตัวเองต้องหงุดหงิดที่มีคนมามองกัลยณัฏฐ์
“มื้อนี้ปอเลี้ยงนะคะ” เสียงของหญิงสาวทำให้เขาเลิกสนใจผู้ชายคนนั้น
“ไม่ได้หรอกครับผมเป็นผู้ชาย ให้ผมจ่ายดีกว่า” เขารีบหยิบกระเป๋าสตางค์สีดำออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์แล้วยื่นให้พ่อค้า
“134 บาทครับ” พ่อค้าบอกหันมาบอกเขาที่ยื่นธนบัตรฉบับละหนึ่งพันบาทส่งให้
“นี่ค่ะ ไม่ต้องทอนนะคะ” หญิงสาวส่งธนบัตรสีแดงและสีฟ้าให้พ่อค้าอย่างละฉบับ พ่อค้ารีบหันไปรับแล้วกล่าวขอบคุณ
ปุณณวิชญ์เดินตามหญิงสาวออกมาจากร้านกาแฟ เขาแกล้งเงียบเพื่อดูปฏิกิริยาของคนที่ขึ้นมานั่งข้างๆ
“น้าวิชญ์โกรธอะไรปอเหรอคะ”
“เปล่านี่ครับ”
“ไม่โกรธ แต่ทำไมตั้งแต่ออกจากร้านมาเงียบผิดปกติล่ะคะ เรื่องที่ปอแย่งจ่ายเงินใช่ไหมคะ” กัลยณัฏฐ์ไม่อยากให้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ทำให้อารมณ์ของใครต้องขุ่นมัว หญิงสาวเลือกที่จะถามออกไปตรงๆ
“ก็ผมบอกว่าจะจ่ายเอง แต่คุณก็แย่งผมจ่าย” เขาเถียงอย่างไม่จริงจังนัก
“ก็ปอมีพอเงินดี พ่อค้าไม่ต้องเสียเวลาหาเงินทอน วันนี้ปอจ่ายน้าวิชญ์ค่อยจ่ายวันอื่นก็ได้นี่คะหรือว่าจะมาทานด้วยกันแค่วันเดียว” คำพูดของเธอทำให้เขายิ้มกว้างเพราะนั่นหมายถึงว่าจะมีการมาทานอาหารด้วยกันในครั้งต่อไปอีกอย่างแน่นอน
“จริงนะ งั้นเพื่อเป็นการทำโทษคุณต้องให้ผมเลี้ยงตลอดไป”
“มีใครที่ไหนเค้าทำโทษกับแบบนี้ จอดข้างหน้าเลยค่ะว่างพอดี” หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นที่ว่างริมถนนก่อนถึงประตูโรงเรียนไม่ไกลมาก
ปุณณวิชญ์หักพวงมาลัยเข้าจอดตามที่เธอบอก
“วันนี้ผมทำงานที่ไซต์ในตลาด ที่ชี้ให้ดูวันก่อน ถ้าให้มารับตอนไหนก็บอกนะครับ”
“น้าวิชญ์ไปรับที่ร้านอาหารเลยได้ไหมคะ”
“อ้าวแล้วจะไปร้านอาหารยังไง อย่าบอกว่าจะไปกับครูหนุ่ย” น้ำเสียงติดประชดเล็กน้อย จนคนฟังหันมามองหน้าอย่างไม่แน่ใจ
“ไปกับครูโบว์ค่ะ” กัลยณัฏฐ์รีบบอก
“ครับ” เขารับคำพร้อมรอยยิ้มพราวบนใบหน้า
“ปอไปนะคะ” วันนี้เธอโบกมือให้เขาอย่างสนิทสนม ไม่ได้ยกมือไหว้อย่างครั้งก่อน นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีไม่น้อยเขายิ้มกว้างโบกมือตอบเช่นกัน
กัลยณัฏฐ์เดินเข้าประตูโรงเรียนแล้วตรงไปยังเต็นท์ของกองเชียร์สีฟ้าเพื่อเช็คชื่อนักเรียน ก่อนเริ่มแข่งขันกีฬาชนิดแรกของวัน นักเรียนยังมากันไม่ครบ ครูโบว์และครูแมวเดินตามเข้ามานั่งเก้าอี้ตัวข้างๆ ที่ยังว่างอยู่
“ไปทานไข่กระทะกับใครมาเอ่ย” ครูโบว์ทักทาย
“น้าชายของน้องสาวที่สนิทกันค่ะ”
“ตอบซะคนฟังงงเลยนะคะ” ครูแมวที่นั่งรอฟังคำตอบหัวเราะ
หญิงสาวหัวเราะ “ปอก็ไม่รู้จะเรียงลำดับยังไง คือปอมีน้องที่สนิทอยู่คนหนึ่งชื่อหนูดี ผู้ชายคนนี้ก็เป็นน้าของน้องหนูดีค่ะ” คนตอบก็เริ่มจะงงกับคำพูดของตัวเอง
“พี่ว่าดูยังไม่แก่ขนาดนั้นนะคะ เรียกพี่ก็มั้งคะครูปอ”
“ปอก็ไม่ค่อยกล้าถามเรื่องอายุ เลยเรียกไปแบบนั้นตามที่หนูดีเรียกค่ะครูโบว์”
“นี่ถ้าไม่เห็นหน้า แล้วได้ยินครูปอเรียก ต้องคิดว่าแก่แน่ๆ เลยค่ะแต่ที่ไหนได้ ทั้งหนุ่มทั้งหล่อ แบบนี้ชายในฝันครูเลยค่ะ” ครูโบว์แสดงท่าทางชื่นชมชายหนุ่ม
“เย็นนี้ชวนทานข้าวด้วยกันสิคะ ครูก็ชวนแฟนมาเหมือนกัน” ครูแมวเอ่ยขึ้นบ้าง
“ใช่ค่ะ เมื่อเช้ายังไม่ทันได้ทักทายกันเลยค่ะ พ่อค้าสิมารับออเดอร์อะไรตอนนั้นก็ไม่รู้นะคะ”
“คุยอะไรกับอยู่ครับสาวๆ ผมซื้อน้ำส้มมาฝาก เจ้านี้คั้นสดๆ เลยนะครับ ผมไปยืนรอตั้งนาน แต่เพื่อสาวๆ นานแค่ไหนผมก็รอได้” ครูหนุ่ยเดินถือถุงใส่ขวดน้ำส้มคั้นเข้ามายังจุดที่สามสาวนั่งอยู่
“ขอบคุณนะคะครูหนุ่ย” ครูโบว์รับถุงน้ำส้มไปแช่ไว้ในกระติกน้ำแข็งหลังเต็นท์
“เมื่อวานครูปอสวยมากเลยนะครับ” ครูหนุ่ยเอ่ยชม กัลยณัฏฐ์ทั้งๆ ที่เมื่อวานก็ชมไปแล้วหลายรอบ จนหญิงสาวเริ่มรำคาญกับคำชมพร่ำเพรื่อ
“ขอบคุณค่ะ” ด้วยมารยาทเธอต้องตอบไปอย่างนั้น แต่เหมือนเขาจะไม่รู้ตัวเลยว่าเธอไม่ค่อยอยากจะคุยด้วย
“วันนี้ครูไม่ได้ขับรถมาใช่ไหมครับ” ครูทุกคนจะมีที่จอดรถประจำซึ่งทำให้เขารู้ว่าวันนี้เธอนั้นไม่ได้ขับรถมา
“ค่ะ”
“ดีเลย ตอนเย็นเราจะได้ไปร้านอาหารด้วยกัน”
“ขอบคุณนะคะ แต่ฉันนัดกับครูโบว์และครูแมวไว้แล้วค่ะ เอาไว้โอกาสหน้านะคะ นู่นเด็กๆ กำลังจะเริ่มเชียร์กันแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ”
“เล่นตัวแบบนี้แหละ ผมชอบ” เขาพูดเมื่อเธอเดินออกไปไม่ไกลนักแต่เสียงเด็กๆ ที่เริ่มร้องเพลงเชียร์ทำให้ไม่มีใครได้ยิน
หลังจากส่งหญิงสาวที่หน้าโรงเรียนปุณณวิชญ์ก็มาที่ไซต์งานแต่เช้า คนงานเริ่มทำงานกันได้สักครู่ เขาเดินตรวจดูความเรียบร้อยและทักทายคนงานอย่างที่เคยทำเป็นประจำ
“มีใครเห็นอาธรบ้าง” เขาถามกลุ่มคนงาน
“ยังไม่เห็นเลยครับ” คนงานตอบ
“ปกติเค้ามาสายแบบนี้ไหม”
“ไม่ครับ ปกติมาเช้ามาก” คนงานอีกคนตอบ
ปุณณวิชญ์พยักหน้า แล้วเขาก็เดินดูคนงานทำงานไปเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงก็เห็นชายหนุ่มที่ถามถึงเมื่อสักครูเดินเข้ามา
“สวัสดีครับพี่ ขอโทษนะครับ มาสายไปหน่อยผมพึ่งพาแม่ไปส่งโรงพยาบาลมา”
“แม่เป็นไรมากไหมวันนี้จะลาก็ได้นะไปดูแลแม่เถอะ” เขาไม่ใช่เจ้านายใจร้าย
“ไม่เป็นไรครับ แม่อยู่กับแฟนผมตอนเย็นเลิกงานผมค่อยไปก็ได้ อยู่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร” อาธรตอบ แต่สีหน้ายังดูกังวล
“อือ ขาดเหลืออะไรก็บอกพี่ได้นะหรือวันไหนอยากลาก็ไม่ต้องเกรงช่วงนี้พี่ไม่เข้ากรุงเทพฯ”
“ขอบคุณครับพี่ ผมขอตัวก่อนนะครับ” แล้วชายหนุ่มก็เดินไปสบทบกับกลุ่มคนงาน
ปุณณวิชญ์โทรคุยกับดารณีเพื่อสั่งงาน จากนั้นก็เดินข้ามถนนไปยังตลาดสด เขาแวะร้านอาหารตามสั่ง จดรายการอาหารยื่นให้แม่ค้า
“ผมขอจ่ายไว้ก่อนเลยนะครับ ส่วนอาหารเดี๋ยวตอนเย็นจะให้คนมาเอา”
แม่ค้ารีบคิดเงินอย่างรวดเร็ว ปุณณวิชญ์จ่ายเงินค่าอาหารเกินจำนวนที่แม้ค้าแจ้งนิดหน่อย พอเรียกยิ้มหวานๆ จากแม้ค้าได้ จากนั้นก็เดินกลับมาที่ไซต์งาน
“เดช เดช”
“ครับพี่วิชญ์” เด็กหนุ่มชื่อเดชเดินมาตามเสียงเรียก
“เดี๋ยวเย็นนี้ไปเอาอาหารร้านนี้นะ พี่สั่งไว้แล้วจะได้ทานกันก่อนกลับบ้านแล้วถ้าไม่พอก็สั่งมาเพิ่มได้เลย ส่วนเครื่องดื่มก็ถัดไปอีกสองร้าน บอกเค้าจะเอาอะไรบ้าง ให้ลงบิลพี่ไว้คนขายเค้ารู้จักกันดีกับพี่” สั่งงานเสร็จก็เห็นแววดีใจจากเด็กหนุ่ม
