บทนำ โอบรักด้วยรัก (2)
พอถึงเวลาเลิกงานฝนก็ตกลงมาอีกครั้ง ขากลับจึงเป็นการเดินทางที่ชุ่มฉ่ำไม่ต่างจากยามเช้า ต้องรักต้องนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้าบ้าน
แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่มีรถมอเตอร์ไซค์วินแล่นผ่านมาเลยสักคันซ้ำฝนก็ตกหนักกว่าเมื่อเช้า ที่แย่ไปกว่านั้นคือ เธอดันลืมเสื้อกันฝนไว้ที่ออฟฟิศ
เอาไงดีล่ะ... หญิงสาวถามตัวเอง
ครั้นจะเดินกลับบ้าน มีหวังได้เป็นหวัดแน่เพราะเธอไม่ค่อยถูกกับน้ำฝนเท่าไหร่นัก ครั้นจะยืนรอจนฝนหยุดก็ไม่เห็นเค้าว่าฝนจะหยุดแม้แต่น้อย
ระหว่างลังเลไม่แน่ใจ อยู่ ๆ ก็มีรถปิคอัพแล่นมาจอดตรงหน้าพร้อมกับเสียงบีบแตรเรียก
‘ไม่ไปเว้ย!!’ หญิงสาวพูดในใจ มองรถที่ไม่คุ้นตาอย่างไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่แล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
ทว่าคนขับก็ยังบีบแตรเรียกซ้ำอีกครั้ง พอหันไปมองครั้งนี้กระจกรถยนต์ถูกเลื่อนลงต้องรักจึงเห็นหน้าคนขับ เพียงเท่านั้นหัวใจของเธอก็กระตุกวูบขึ้นมา
“พี่โอบ” ดวงตาคู่สวยเอาแต่จ้องมองเขา ราวกับห้วงเวลาหยุดหมุนเมื่ออยู่ ๆ เขาปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางสายฝน
“ขึ้นมาสิ”
ต้องรักทำตามที่เขาบอกอย่างไม่ลังเล พอปิดประตูรถแล้วเธอก็นั่งเงียบไม่กล้าแม้แต่หันไปมองหน้าคนขับ จริงอยู่ว่าเธอชอบเขา และเคยสนิทสนมกับเขามาก ๆ แต่นั่นก็เมื่อหลายปีมาแล้ว...
“ทำไมกลับเย็นนักล่ะ”
หญิงสาวมองเขาแวบหนึ่ง “รักติดฝนค่ะ”
“ไงไม่เจอหน้ากันตั้งนาน ดูเป็นผู้หญิงขึ้นเยอะเลยนะเรา”
คนถูกชมยิ้มแหย ๆ เพราะคำชมของเขามันทะแม่งหูเหลือเกิน เขาพูดราวกับเธอเป็นผู้ชายซะอย่างนั้น หรือเพราะความเข้าใจผิดในตอนเด็ก เขาเลยไม่เคยคิดว่าเธอเป็นผู้หญิง
ต้องรักก้มมองหน้าอกของตัวเอง แม้จะไม่ใช่สาวอกภูเขาไฟแต่มันก็พอมีให้พอชื่นใจอยู่บ้าง แล้วเธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะจากเขา พอหันไปมองใบหน้าคมเข้มคล้ำแดด แก้มที่ชื้นน้ำฝนก็ร้อนผ่าวขึ้นมา
“พี่โอบขำอะไร”
“พี่นึกถึงตอนที่รักเตะฟุตบอลน่ะ บอกตรง ๆ ตอนนั้นพี่ไม่คิดว่ารักเป็นผู้หญิงเลยนะ”
“อ้าว รักเป็นผู้หญิงนะพี่”
เถียงไปแบบนั้น เขากลับหัวเราะแล้วหันมามองเธอแวบหนึ่ง
วินาทีที่ตาสบตา หัวใจดวงน้อยของหญิงสาวก็สั่นระรัว แถมใบหน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง
“เนี่ยเหรอผู้หญิง”
“ก็ผู้หญิงน่ะสิ ใส่กระโปรงแล้วเห็นมั้ย หรือพี่โอบไม่เคยเห็นรักเป็นผู้หญิงเลย” ถามออกไปแล้วต้องรักก็รอฟังคำตอบจากเขาอย่างใจจดใจจ่อ
โอบพสุหัวเราะหึหึในลำคอ “บอกไม่ถูก... ตอนรักหัวเกรียน พี่คิดว่ารักเป็นผู้ชายจริง ๆ นะ”
เวรกรรม! เธอแค่ถูกพ่อไถหัวจนเกรียนเพราะติดเหาจากเพื่อน
“แล้วตอนนี้ล่ะ”
ชายหนุ่มชำเลืองตามามอง เขาอมยิ้มไม่ตอบคำถาม แต่เปลี่ยนเรื่องคุยแทน
“ได้ข่าวมาว่ารักจะย้ายบ้านเหรอ”
“ค่ะ” ต้องรักตอบสั้น ๆ แล้วชำเลืองตาไปมองเขา แต่เธอก็ไม่เห็นปฏิกิริยาใด ๆ จากโอบพสุ
“ย้ายบ้านแต่ละทีเรื่องใหญ่เนอะ มีอะไรให้ช่วยก็บอกพี่ก็แล้วกัน”
“บอกแน่ รักจะใช้พี่โอบขนตู้” หญิงสาวแกล้งว่า
“ได้สิ ขนเตียงนอนให้เราก็ยังไหว ว่าแต่เรียนจบหรือยัง”
“วันนี้ฝึกงานวันสุดท้าย เหลือสอบปลายภาคก็จบแล้วค่ะ ว่าแต่พี่โอบกลับมาบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เห็นแวะไปทักทายกันบ้างเลย”
“เพิ่งถึงบ้านเมื่อเช้ามืดน่ะ มาถึงก็ฝนตก พี่เลยไม่ได้ออกไปไหน”
“แล้วนี่พี่โอบไปไหนมา”
“แม่ใช้ให้มาซื้อกับข้าวน่ะ ไปกินข้าวบ้านพี่ไหม” เขาชวนอย่างมีน้ำใจเหมือนเคย
“แม่คงทำกับข้าวไว้รอรักแล้วล่ะ เอาไว้วันหน้าเนอะ”
ถึงจะปฏิเสธเขา แต่ต้องรักก็หัวใจพองโตมีความสุขไม่น้อย ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีโอบพสุใจดีกับเธอเสมอ
เพราะความใจดีของเขานี่ล่ะ ถึงทำให้เธอรักเขาไม่เปลี่ยนแปลง คิดแล้วเธอก็อยากให้ถนนเส้นนี้ทอดยาวจนสุดขอบจักรวาลเหลือเกิน เพื่อที่ว่าเธอจะได้อยู่ใกล้ชิดเขานาน ๆ
แต่ในความเป็นจริง เธอทำได้แค่นั่งอยู่ในรถของเขาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
“พี่โอบจอดหน้าบ้านพี่โอบเลยก็ได้ เดี๋ยวรักเดินไปบ้านเอง”
“รับมาแล้วจะปล่อยลงบ้านพี่ได้ไง เดี๋ยวก็จับตัวไว้ซะเลยนี่”
“รักไม่ใช่เด็กแล้วนะ”
“รักยังเป็นเหมือนเดิมในสายตาพี่”
ต้องรักไม่ได้ต่อปากต่อคำด้วย แล้วโอบพสุก็เอารถไปจอดที่หน้าบ้านเธอ
ก่อนลงจากรถเขาก็กำชับด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “รีบอาบน้ำสระผมด้วยล่ะ เดี๋ยวไม่สบายเอา”
“ค่า ขอบคุณที่รับมาส่งนะคะ” ยกมือไหว้เขา โอบพสุก็ส่งยิ้มละไมมาให้
ละลาย... หัวใจแทบละลายไปกับน้ำฝน
ไม่ว่าจะผ่านมานานกี่ปี พี่โอบของเธอก็น่ารักอบอุ่นไม่เคยเปลี่ยนแปลง...