โอบรักด้วยรัก

50.0K · จบแล้ว
อาคาเซีย/แวววิวาห์/สลิลโรส/ผิงอัง
48
บท
1.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ใครบางคนได้กล่าวไว้แม้ไม่ได้เห็นหน้าเห็นแค่ ‘ราวตากผ้า’ ก็ยังดีเพราะ 'กล้า' ที่จะรักแต่ 'ไม่กล้า' ที่จะบอกความรู้สึกดังนั้น... ต้องรักจึงได้แต่เฝ้าราวตากผ้าของเขาต่อไป -..-ครั้นจะสารภาพรักกับเขาโอบพสุ ก็ดันเห็นเธอเป็น ‘เด็กผู้ชาย’ ซะงั้น‘ไม่เอาหรอก รักเตะบอลไม่ได้เรื่อง เล่นเป็นตัวแถมมาตลอด ขืนลงสนามเดี๋ยวทีมก็แพ้พอดี’‘แมน ๆ หน่อยสิ นายเป็นส่วนหนึ่งของทีมวิหคเพลิงนะ’ส่วนหนึ่งของทีม... ฟังแล้วรู้สึกดี๊ดี แต่เธอเป็นผู้หญิงจะเอาอะไรมาแมนเล่า!‘รักทำได้ เชื่อพี่สิ’ได้ยินคำพูดของโอบพสุ ทำให้เธอฮึกเหิมและมีกำลังใจขึ้นมาทันที---------------“เพราะอะไรคะ”“เพราะพายุกลางทะเลมันบ้าคลั่งและน่ากลัวกว่าบนฝั่งหลายเท่า จะหนีก็หนีไม่ได้กลางทะเลมีแต่น้ำกับฟ้า พี่เป็นกัปตันจะทิ้งเรือ ทิ้งลูกเรือได้ยังไง พอเจอพายุบ่อยเข้า เจอซ้ำ ๆ ความกลัวก็เปลี่ยนเป็นความเคยชิน”“พี่โอบเก่งจัง แค่นี้รักก็กลัวจะแย่อยู่แล้ว”“มันมีวิธีนะ ถ้ารักกลัวมากก็ลองเปลี่ยนจุดสนใจดูสิ”“ยังไงคะ” ถามอย่างสนใจแล้วหญิงสาวก็สะดุ้งเฮือกหน้าซีดเผือดรีบกอดกอชายหนุ่มเมื่อฟ้าผ่าลงมาอีกครั้งพอเงยหน้าขึ้นเธอก็พบว่าตัวเองกอดเขาไว้แน่น และเธอก็อยู่ใกล้เขาจนเข้าขีดอันตราย ดวงตาเขาเป็นประกายหวานเชื่อมกว่าทุกครั้ง ที่ทำให้เธอหัวใจเต้นแรงไปกว่านั้นก็คือ เขาจับเธอให้นอนลงแล้วเคลื่อนกายมาทับเธอไว้“ก็แบบนี้ไง”เสียงทุ้มเขาดังอยู่ใกล้หู แต่ริมฝีปากอุ่นก็เลื่อนมาสัมผัสริมฝีปากของเธออีกครั้งจุมพิตในครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งแรก เขาจูบได้เร่าร้อนกว่า อ่อนหวานกว่า และทำให้อารมณ์ของเธอกระเจิดกระเจิงได้มากกว่าริมฝีปากอุ่นทาบทับพร้อมกดน้ำหนักพาให้สั่นสะท้านไปทั้งกาย จากนั้นเขาก็แทรกลิ้นชื้นเข้ามาในปากของเธอ...สัมผัสจากเขาทำเอาเธอเตลิดไกล ทุกความกลัวถูกปัดเป่าออกไปจนหมดสิ้น ต้องรักรู้แค่ว่าเธอคิดอะไรไม่ออก เหมือนสูญเสียความเป็นตัวเองจนหมดสิ้น...

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันกัปตันรักหวานๆรักวัยรุ่นรักแรกพบโตมาด้วยโรแมนติก

บทนำ โอบรักด้วยรัก (1)

เมฆดูคล้ายขนมสายไหมสีเทาลอยเหนือหลังคาบ้านสร้างความเบื่อหน่ายให้ ‘ต้องรัก’ ที่ต้องเดินทางออกนอกบ้านในยามเช้าเป็นอย่างมาก หญิงสาวไม่ชอบหยาดฝนตกสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะฝนตกยามเช้าในช่วงเวลารีบเร่งที่เธอต้องเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปฝึกงาน...

แต่เรื่องดินฟ้าอากาศล้วนเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม แม้จะไม่ชอบ แม้เบื่อหน่ายแค่ไหน แต่ต้องรักก็ทำได้แค่บ่นในใจเท่านั้น

เช้าวันนี้อีกเช่นกันที่หยาดฝนสาดเทลงมาซ้ำยังเป็นฝนนอกฤดูกาล นี่จึงเป็นเรื่องที่ทำให้ต้องรักรู้สึกหงุดหงิดแต่เช้า หญิงสาวรอเวลาที่ฝนหยุดอย่างใจจดใจจ่อ พอฝนซาเม็ดเธอก็รีบออกจากบ้านพร้อมสวมเสื้อฝน

ทว่าเดินออกจากบ้านมาได้ไม่กี่ก้าว ต้องรักก็ต้องมายืนหลบฝนที่หน้าบ้านคล้ายเดือน...

คล้ายเดือนเป็นเพื่อนสนิทในวัยเด็กของต้องรัก และเป็นเพื่อนผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เธอสนิทด้วยที่สุด

พอเจ้าของบ้านเห็นต้องรักมายืนอยู่หน้าบ้าน คล้ายเดือนก็คว้าร่มแล้วรีบมาเปิดประตูรั้วบ้านให้

“เฮ้ยเข้ามาหลบฝนที่บ้านก่อนสิ ฝึกงานเป็นไงบ้าง สนุกมั้ย”

“สนุกดี ได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ เพียบเลย วันนี้ก็ฝึกงานวันสุดท้ายแล้ว เดือนล่ะ ฝึกงานเสร็จยัง”

“ใกล้แล้วล่ะ มา ๆ เข้าบ้านก่อน รถมาค่อยออกไป” เจ้าของบ้านชวนอย่างมีไมตรี

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวรถไม่เห็น ขอบใจนะ แล้วยายเป็นไงบ้าง”

“ก็เหมือนเดิม นี่กำลังจัดยาให้ยายอยู่”

“ไปจัดยาให้ยายต่อเถอะ ฝากความคิดถึงให้ยายด้วย” ต้องรักบอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

เธอสนิทกับยายทับทิม ยายของคล้ายเดือนมาตั้งแต่เด็ก ๆ ท่านใจดี และทำขนมอร่อยมาก แต่ระยะหลังยายของคล้ายเดือนอายุมากขึ้น จึงมีปัญหาเรื่องสุขภาพ บางวันถ้าคล้ายเดือนติดเรียน หรือมีธุระต้องไปทำนอกบ้าน เธอก็จะเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนยาย

“งั้นเดือนไปดูยายก่อนนะ”

“จ้า ไปเถอะ” โบกมือไล่เพื่อนแล้วต้องรักก็หันมาสนใจรถที่วิ่งผ่านไปผ่านมา

คล้ายเดือนเพียงพยักหน้าให้แล้วก็เดินกลับเข้าบ้านไปเงียบ ๆ ส่วนต้องรักได้แต่ยืนทำตาปริบ ๆ มองหยาดฝนที่สาดเทลงมาราวกับฟ้ารั่ว เธอได้แต่ยืนตัวลีบติดกับรั้วบ้านที่ปลูกต้นกระดังงาขดเลื้อยพัน

ระหว่างยืนรอรถหญิงสาวก็มองสายฝนไปเพลิน ๆ แล้วสายตาของเธอก็หยุดที่บ้านฝั่งตรงกันข้าม

บ้านศิวะวโรดม...

บ้านที่เธอเคยวิ่งเล่นเข้า ๆ ออก ๆ ราวกับเป็นบ้านของตัวเองในสมัยเด็ก ไม่ว่ามองไปกี่คราก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจเสียทุกครั้ง

แล้วต้องรักก็เห็นใครบางคนซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้โยกที่ระเบียงบ้านชั้นสองเข้า

แม้จะเห็นไกล ๆ ต้องรักก็มั่นใจได้ทันทีว่าเป็น ‘โอบพสุ’ พี่ชายข้างบ้านที่เธอแอบปลื้มมาตั้งแต่เด็ก ๆ

ที่มั่นใจแบบนั้นเพราะตำแหน่งที่เขานั่งคือระเบียงหน้าห้องนอน และโอบพสุก็เป็นคนที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือมาแต่ไหนแต่ไร เวลาเธอเดินผ่านบ้านก็มักจะเห็นเขานั่งอ่านหนังสืออยู่หน้าบ้านเป็นประจำ และตอนนี้เขาก็กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ประจำ

มองไกล ๆ หญิงสาวไม่มั่นใจหรอกว่าเขาจะเห็นเธอหรือเปล่า

แต่เธอสิ แค่เห็นเขาหัวใจก็เต้นระรัวราวเสียงกลอง ทั้งยังรู้สึกอบอุ่นไปทั้งหัวใจจนเผลอยิ้มออกมาคนเดียว

เขากลับมาแล้ว...

ท่ามกลางสายฝน ความคิดถึงที่อัดแน่นอยู่เต็มเปี่ยมในหัวใจถูกปลดปล่อยออกมาราวกับผีเสื้อที่บินรับแสงอ่อนอุ่นของรุ่งอรุณ ไม่รู้ว่าโอบพสุกลับมาบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่

แต่การได้เห็นเขาอีกครั้งก่อนที่เธอจะย้ายบ้านก็ทำให้เธอมีความสุขไม่น้อย มันทำให้วันฝนตกที่น่าเบื่อหน่ายกลายเป็นวันดอกไม้บาน มีสายรุ้งงาม

ต้องรักยืนยิ้มเล็กยิ้มน้อยอยู่คนเดียวจนมอเตอร์ไซค์รับจ้างวิ่งผ่านหน้าไป หญิงสาวจึงหลุดออกจากภวังค์ความคิด

“อ้าวเฮ้ย! รอด้วย”

แม้จะรีบวิ่งตามไป แต่คนขับก็ไม่แม้แต่จะจอดรถเหลียวมามอง สุดท้ายต้องรักก็ต้องเดินกลับมายืนที่เดิมแบบเก้อ ๆ แล้วรอรถมอเตอร์ไซค์วินคันต่อไป