ตอนที่ 3 แทนไท
ภายในสนามบาส เสียงกรี๊ดดังลั่นจากเหล่านักศึกษาหญิงเมื่อรุ่นพี่แทนไทเดินลงสนามบาสด้วยชุดแข่งที่เรียบง่าย แต่ดูดีจนสะดุดตา เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงสมส่วน กล้ามเนื้อกระชับราวกับถูกปั้นแต่ง หน้าตาหล่อเหลาคมคายเหมือนพระเอกซีรีส์เกาหลี
แทนไทไม่เพียงแค่หน้าตาดี แต่ยังมีความสามารถที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ทุกครั้งที่เขาลงแข่ง ไม่ว่าจะเป็นกีฬาหรือกิจกรรมใด ๆ เขามักจะทำคะแนนสูงสุดและนำทีมไปสู่ชัยชนะเสมอ
“นั่นไง พี่แทนไท!” แพรวากระซิบอย่างตื่นเต้น พลางสะกิดเจที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
“หล่อใจละลายชะมัด แกไม่สนใจพี่เขาเหรอ?”
“ก็แค่คนๆ นึงน่ะ”
แพรวาถลึงตา
“คน ๆ นึงที่ทั้งหล่อ ทั้งเก่ง แล้วก็เป็นขวัญใจสาว ๆ ครึ่งมหา’ ลัยนะ! แกนี่ไม่เข้าใจอะไรเลย!”
เจยักไหล่ไม่สนใจนัก สายตาของเธอมองไปยังสนามอย่างเฉยชา ท่ามกลางเสียงเชียร์และบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
การแข่งขันบาสระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์คอมพิวเตอร์กับคณะบริหารธุรกิจกำลังดำเนินไปอย่างดุเดือด คณะบริหารที่มีผู้เล่นมากประสบการณ์กำลังขึ้นนำอย่างชัดเจน เสียงเชียร์จากฝั่งคณะบริหารดังกึกก้องยิ่งทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้น
“โอ๊ย คณะเราโดนนำ ทำไมกากงี้วะ!” แพรวาพึมพำอย่างหงุดหงิด
ไม่นานนัก โค้ชของทีมวิศวะคอมพิวเตอร์ก็ส่งสัญญาณเปลี่ยนตัว ทันทีที่ชื่อ ‘แทนไท’ ถูกประกาศ เสียงเชียร์จากฝั่งคณะวิศวะก็เปลี่ยนเป็นเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจ
“มาแล้ว! ฮีโร่ของเรา!”
เจหันไปมองตามเสียงเชียร์ ชายหนุ่มร่างสูงในชุดแข่งสีน้ำเงินก้าวลงสนามอย่างมั่นใจ รอยยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้าคมคายของเขาทำให้ผู้ชมที่เป็นสาว ๆ หลายคนกรี๊ดลั่น
เมื่อแทนไทลงสนาม การเล่นของทั้งทีมก็เริ่มเปลี่ยนไปทันที เขาไม่เพียงแต่เล่นเก่งในเชิงรุก แต่ยังควบคุมจังหวะของทีมอย่างยอดเยี่ยม การเคลื่อนไหวของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและไหวพริบ ทุกการส่งลูก การเลี้ยงลูก หรือการชู้ตดูเหมือนคำนวณมาอย่างแม่นยำราวกับเขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นล่วงหน้า
แทนไทเป็นจุดศูนย์กลางของทีม เขาเคลื่อนที่ด้วยความคล่องแคล่วและเฉียบขาด ราวกับนักวางกลยุทธ์ในสนามรบ บางครั้งเขาก็ส่งสัญญาณให้เพื่อนร่วมทีมปรับเปลี่ยนแผนกะทันหัน และทุกครั้งที่เขาตัดสินใจ มันกลายเป็นจังหวะสำคัญที่นำทีมเข้าใกล้ชัยชนะอย่างต่อเนื่อง
“หืม? เขาเก่งแฮะ” เจพึมพำเบา ๆ ขณะที่ดวงตายังคงจับจ้องไปที่สนาม
“ใช่ไหมล่ะ! ฉันบอกแล้วว่าเขาสุดยอด!” แพรวายิ้มกว้าง
สายตาของเจยังคงจับจ้องที่แทนไท ในจังหวะที่เขาลงมือชู้ตลูกสามแต้มสำเร็จ ท่ามกลางเสียงเชียร์ที่กึกก้อง ท่าทางของเขาสง่างามและโดดเด่นราวกับราชาแห่งสนามกีฬา ผู้คนในสนามต่างส่งเสียงโห่ร้องยินดีกับคะแนนที่เขาทำได้
ผลการแข่งขันในท้ายที่สุด ทีมวิศวกรรมคอมพิวเตอร์สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะได้ และก้าวเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของการแข่งขันบาสเกตบอลมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการ
“กลับยัง?”
“เฮ้ย ยัยนั่นใครกัน”
เสียงฮือฮาเริ่มดังขึ้นจากนักศึกษาหญิงที่ยืนอยู่รอบสนาม เจหันไปตามสายตาของแพรวาและเห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่แต่งตัวน่ารัก เดินตรงไปหาแทนไท เธอถือของบางอย่างไว้ในมือ พร้อมกับยื่นให้เขาอย่างตั้งใจ
นักศึกษาหลายคนลุ้นกันแทบหยุดหายใจ สายตาจ้องมองว่าราชาแห่งสนามบาสจะตอบรับอย่างไร
แทนไทเหลือบมองหญิงสาวเพียงนิดเดียว ก่อนจะเดินผ่านไปโดยไม่พูดอะไรหรือแม้แต่หยุดมองของที่เธอยื่นให้ เขามุ่งหน้าเข้าไปยังพื้นที่หลังสนามด้วยท่าทางที่เยือกเย็น
เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เต็มไปด้วยความชื่นชม
“โห! อย่างเท่ เย็นชา แต่เท่มากพ่อ!!!” แพรวาถึงกับกรีดร้องออกมาพร้อมกับยกมือขึ้นทาบอก
“เว่อน่ะ กลับได้แล้ว ฉันหิว!” เจส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ แพรวายังดูตื่นเต้นไม่หยุด แต่ก็ยอมเดินตามเจออกจากสนามบาส ทิ้งเสียงเชียร์และความคึกคักไว้ข้างหลัง
ช่วงบ่าย บรรยากาศในตึกกลางของมหาวิทยาลัยคึกคักกว่าปกติ ผู้คนจำนวนมากมายืนออรออยู่ด้านหน้าห้องประชุมใหญ่ โดยเฉพาะสาว ๆ จากหลากหลายคณะ ทุกคนต่างพากันพูดคุยอย่างตื่นเต้น เจและแพรวาที่เพิ่งมาถึงต่างมองภาพตรงหน้าด้วยความแปลกใจ
“อะไรกันวะ? ทำไมคนเยอะขนาดนี้อะ?” เจพูดพลางขมวดคิ้ว แอบทำหน้าเซ็งกับจำนวนคนที่เบียดเสียดกันอยู่
“นั่นดิ ปกติงานเสวนาเกี่ยวกับระบบเกมไม่น่ามีคณะอื่นมานี่หว่า”
ขณะที่ทั้งสองกำลังสงสัย สายตาของแพรวาก็สะดุดกับหญิงสาวที่ยืนโดดเด่นอยู่กลางฝูงชน
“นั่นมันยัยน้ำค้าง ดาวคณะนิเทศนี่ มาทำไมวะ?” แพรวาสะกิดให้เจดู
“ไม่รู้เหมือนกัน” เจส่ายหน้าอย่างงุนงง
ทั้งสองคนยังคงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างงุนงง จนได้ยินเสียงเรียกดังขึ้นจากอีกฟากของฝูงชน
“อ้าว เจ แพรวา! ทางนี้ๆ”
เจหันไปมองก็พบกับพี่แซน พี่รหัสของเธอที่กำลังโบกมือเรียกอยู่ ทั้งสองรีบมุดฝ่าฝูงชนเข้าไปหา
“พี่แซน ทำไมคนเยอะขนาดนี้คะ?” แพรวาถามทันทีที่เข้าไปถึง
พี่แซนถอนหายใจหนัก ๆ
“เฮ้อ ก็คนที่มาเสวนาวันนี้คือ...”
ก่อนที่พี่แซนจะพูดจบ เสียงกรี๊ดดังสนั่นลั่นห้องประชุมใหญ่จนทุกคนหันไปมอง ทันทีที่ประตูด้านหน้าห้องเปิดออก ชายหนุ่มร่างสูงที่ดูโดดเด่นสะดุดตาเดินเข้ามาในชุดลำลองเรียบง่าย แต่กลับทำให้บรรยากาศรอบตัวเขาเหมือนสว่างขึ้น
“แทนไท!”
ชื่อของเขาดังมาจากเสียงตะโกนของใครบางคนในฝูงชน เจกับแพรวามองหน้ากันด้วยความตกใจ
“อย่าบอกนะ... ว่าคนที่มาเสวนาคือพี่แทนไท” แพรวาเบิกตากว้าง
พี่แซนพยักหน้า
“ใช่ พี่แทนไท รุ่นพี่วิศวะคอมพิวเตอร์ที่ทั้งหล่อ ทั้งเก่ง ทั้งเทพในเกมนั่นแหละ ตอนนี้เขาทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านระบบเกมให้บริษัทเมกาเบิร์ธ สตูดิโอ”
“โอ๊ย ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมคนถึงมาจากทุกคณะ!” แพรวากระซิบกับเจอย่างตื่นเต้น
เจมองแทนไทที่เดินขึ้นไปบนเวทีด้วยท่าทางสง่างาม ท่ามกลางเสียงเชียร์และเสียงกรี๊ดของสาว ๆ รอบตัว เธอไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่าเขากำลังจะพูดอะไรในงานเสวนานี้
แทนไทขึ้นไปยืนหน้าจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ แสงไฟส่องลงมาที่เขา ใบหน้าคมคายของเขามีรอยยิ้มบาง ๆ ที่ดูสุขุมและมั่นใจ เขาเริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวสั้น ๆ ก่อนจะเข้าสู่หัวข้อหลัก
“วันนี้ผมได้รับเชิญมาเพื่อพูดเกี่ยวกับแนวคิดในการพัฒนาระบบเกม โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการวางกลยุทธ์และการออกแบบระบบให้ผู้เล่นมีประสบการณ์ที่ดีที่สุด” น้ำเสียงของเขาหนักแน่นและชัดเจน
ทุกคนในห้องประชุมฟังอย่างตั้งใจ แม้กระทั่งเจที่ปกติไม่ค่อยสนใจคนแบบเขายังเผลอจดจ่อไปกับคำพูดที่ดูจริงจังและน่าสนใจ
“ในการออกแบบเกม สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่กราฟิกสวย หรือระบบที่ซับซ้อน” แทนไทพูดต่อพร้อมฉายภาพประกอบบนจอ
“แต่คือการทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของโลกในเกม รู้สึกว่าเขาสามารถวางแผนและตัดสินใจได้อย่างอิสระ”
แพรวากระซิบข้างหูเจ
“โห ดูเขาพูดสิ หล่อขึ้นไปอีกสิบเท่า!”
เจกลอกตาเบา ๆ แต่ก็ยอมรับในใจว่าแทนไทไม่ได้มีดีแค่หน้าตา ความรู้และทักษะของเขาก็เหนือชั้นอย่างแท้จริง
หลังงานเสวนา ฝูงชนทยอยกันออกจากห้องประชุม บางคนยังพยายามเข้าไปขอลายเซ็นหรือถ่ายรูปกับแทนไท แต่เขากลับขอตัวและเดินออกทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว
“เขาทั้งเก่ง ทั้งดูดี แถมยังถ่อมตัวอีก โอ๊ย ฉันหลงเขาแล้ว!” แพรวาพูดพลางทำหน้าเพ้อฝัน
เจหันมองแพรวาแล้วส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ ก่อนจะมองไปยังทางที่แทนไทเดินหายไป
‘เขาก็น่าสนใจจริงๆ ล่ะ’ เจคิดในใจแต่ไม่ได้พูดออกมา
