บทที่ 10 มันไม่ง่ายอย่างที่คิด
บ้านเดชาฤทธิกร
“หม่ามี๊…เมื่อไหร่เราจะกลับบ้านกันฮะ? ไอคิดถึงเพื่อนๆ แล้วนะ” โอลาฟที่นั่งกินไอศกรีมอยู่บนตักอลินเอ่ยถาม พลางหันไปมองหน้าผู้เป็นแม่ โดยที่มีคุณยายและคุณตานั่งดูโทรทัศน์อยู่ด้วย
“หืม? โอลาฟอยากกลับแล้วเหรอครับ?” อลินถามกลับ พลางเช็ดคราบไอศกรีมที่ข้างปากลูกชาย
“ฮะ” เจ้าตัวอ้วนวัยเก้าขวบพยักหน้าหงึกๆ
“อะไรกัน? แล้วที่นี่ไม่ใช่บ้านหรือไง? โอลาฟจะทิ้งยายกับตาไปแล้วเหรอ?” ไอรดา คุณยายยิ้มถาม แกล้งทำเป็นน้อยใจ
“ถ้าโอลาฟกลับลอนดอน แล้วใครจะเล่นกับตาล่ะ?” อลงกตผู้เป็นตาเสริม
“เดี๋ยวแกรนด์พากับแกรนด์มา ก็มีคนให้เล่นด้วยแล้วฮะ น้าเอวากำลังจะมีลูกแล้ว…ขอโอลาฟกลับไปเรียนก่อนนะฮะ ไว้โตแล้วจะกลับมาหา” เจ้าตัวอ้วนช่างรู้จักพูด ปากเลียไอศกรีมแผล็บๆ
“กว่าจะโตก็อีกนานแล้วนะ ป่านนั้นตากับยายก็แก่ก่อนพอดี”
“อีกไม่กี่ปีหรอกฮะ”
“โอลาฟไม่อยากมาอยู่เมืองไทยเหรอ? พอน้าเอวาคลอดน้องออกมา โอลาฟก็จะมีน้อง ย้ายมาอยู่ที่นี่กับตาดีไหม? ตาจะพาไปดูโรงเรียนดีๆ แล้วก็จะมีเพื่อนคนไทยเยอะๆ เลย ตาจะซื้อของเล่นให้ด้วย” ได้โอกาส คุณตาก็หว่านล้อมทันที
“อืม…” เจ้าตัวอ้วนทำท่าทางครุ่นคิด หันไปมองหม่ามี๊ของตัวเอง “อันนี้โอลาฟตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ฮะ โอลาฟต้องปรึกษาหม่ามี๊ก่อน แต่ตอนนี้…ขอไปเอาไอศกรีมอีกแท่งก่อนนะฮะ” ว่าแล้วเจ้าตัวอ้วนจอมฉลาด รู้จักพูด รู้จักคุยก็กระโดดลงจากตักอลิน แล้ววิ่งหายเข้าไปทางห้องอาหาร
“ย้ายมาอยู่นี่เลยดีไหม? โอลาฟยังเด็ก…ปรับตัวง่าย ภาษาไทยก็พูดคล่อง ไม่ลำบากหรอก” พอเหลือแต่ผู้ใหญ่ อลงกตก็พูดขึ้นอีกครั้ง
“…” ทว่าอลินไม่ตอบอะไร เพียงถอนหายใจออกมา
“พ่อจะเปิดห้องเสื้อให้แก กลับมาอยู่บ้านเราเถอะ แกออกไปอยู่คนเดียวมาเป็นสิบปีแล้วนะอลิน”
“พ่อสัญญากับแม่แล้วล่ะลูก ว่าพ่อจะไม่พูดถึงเรื่องเก่า และจะไม่อยากรู้เรื่องพ่อของโอลาฟ ถ้าอลินห่วงเรื่องนั้น…แม่ขอยืนยันว่าเราจะไม่ทำให้ลูกต้องลำบากใจ” แม่วางมือลงบนหลังมือของลูกสาวเพื่อยืนยันคำพูด แต่แล้วช่องโทรทัศน์ก็เปลี่ยนจากรายการข่าวเป็นรายการซุบซิบบันเทิง
‘สวัสดีค่ะคุณผู้ชม กลับมาพบกับแอนนี่อีกแล้วนะคะ กับรายการ…เมาท์มันส์! วันนี้แอนนี่ขอไม่พูดพร่ำให้เสียเวลานะคะ มาเข้าเรื่องประเด็นร้อนกันก่อนเลย กับข่าวใหญ่ที่ดังกระหึ่มทั่วโซเชียลเมื่อเช้านี้…นั่นก็คือข่าวการแต่งงานของพระเอกคนดังมาดขรึมของเรา ลี วิริยะกุล นั่นเองค่ะ! เรียกได้ว่าสาวๆ พากันร้องห่มร้องไห้ใหญ่เลยนะคะ เพราะล่าสุด…หนุ่มลีได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเขากำลังจะแต่งงานกับหญิงสาวนอกวงการที่ยังไม่ขอเอ่ยนามค่ะ แต่เรื่องราวเป็นมายังไง ทำไมอยู่ถึงมีการประกาศแต่งงานสายฟ้าแลบแบบนี้ ทางหนุ่มลีขอยังไม่พูดถึงรายละเอียดค่ะ แต่ก็ได้ยืนยันมาแล้วว่าไม่ใช่ท้องก่อนแต่งอย่างที่หลายคนคิดแน่นอน ยังไงเราก็ต้องรอติดตามกันต่อไปนะคะ ทั้งนี้และทั้งนั้น..ถึงเราจะเสียหนึ่งในสามีแห่งชาติไปแล้วอีกคน เราก็ยังต้องแสดงความยินดีกับเขานะคะทุกคน…’
“ลี…ดาราคนนี้มันเพื่อนสมัยเรียนของลูกไม่ใช่เหรออลิน? เขาเป็นลูกชายของ ส.ส.การันต์ด้วยใช่ไหม?” ไอรดาหันมาถามลูกสาว
“ค่ะ”
“แม่ชอบเขานะ เคยดูหนังที่เขาแสดง…หล่อใช้ได้เลย แสดงดีด้วย”
“หนูขอไปดูโอลาฟก่อนนะคะแม่…เดี๋ยวจะกินไอศกรีมหมดตู้เย็นซะก่อน” ว่าแล้วอลินก็ลุกออกมาจากห้องนั่งเล่น แต่เธอไม่ได้เข้าครัวไปหาลูกชาย เพียงเดินออกมาที่ริมสระว่ายน้ำ ทอดสายตามองออกไปยังความว่างเปล่า เป็นจริงอย่างที่โปรดพูด…ลี กำลังจะแต่งงาน แต่นั่นมันก็เรื่องของเขา มันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลยสักนิด ทำไมเธอจะต้องรู้จักจุกๆ กับข่าวที่เพิ่งได้ยินด้วย?
ครืด ครืด ครืด
เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือปลุกให้อลินตื่นขึ้นมาจากภวังค์ พอเห็นว่าหน้าจอมือถือเป็นชื่อของอิงฟ้า เพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันตอนไฮสคูล เธอก็รีบรับสายทันที
“ว่าไงอิง? แกกลับมาจากถ่ายปกหนังสือที่เกาหลีแล้วเหรอ?” อิงฟ้าเป็นดาราดัง ชื่อเสียงพอๆ กับลีเลยก็ว่าได้
[อืม เครื่องเพิ่งแลนด์เลย แล้วฉันก็โทรหาแกเป็นคนแรก เพราะเรื่องข่าวนั่น]
“ข่าวอะไร?”
[ข่าวลีไง! นี่แกยังอยู่เมืองไทยใช่ไหม? แกต้องเห็นข่าวลีสิ เหอะ! ฉันล่ะอยากจะบ้า แกรู้ไหมว่าคนที่ลีจะแต่งงานด้วยคือใคร?]
“ไม่รู้…แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วย”
[เดี๋ยวนะ ฉันมีสายซ้อน แกอย่าเพิ่งวางสาย…ขอเวลาฉันสองนาที] แล้วดาราสาวก็พักสายของอลิน ไปรับสายซ้อน ไม่เกินสองนาทีเธอก็กลับมาอีกครั้ง [นี่อลิน! อีเคทมันโทรหาฉัน…บอกว่าคืนพรุ่งนี้เรามีนัดรวมรุ่นกัน]
“ฉันไม่ไป”
[ไม่ได้! แกอยู่เมืองไทยนี่ แกต้องไป! งานนี้สนุกแน่]
“อิง…ฉันไม่อยากไปจริงๆ แกก็รู้ว่าฉันไม่เจอเพื่อนมาเป็นสิบปี…ถ้าฉันไปก็จะอึดอัดเปล่าๆ”
[แกต้องไป! เพราะฉันไม่ชอบเดินเข้างานคนเดียว…แค่มาแล้วเดินเข้างานเป็นเพื่อนฉัน แล้วแกจะกลับไปก็แล้วแต่แกเลย]
“…” แต่ไหนแต่ไร อิงฟ้ามักจะเป็นแบบนี้เสมอ ทำอะไรเอาแต่ใจตัวเอง โดยไม่แคร์ว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไง
[แล้วแกคงไม่อยากให้เพื่อนๆ รู้หรอกใช่ไหมว่าฉันเจอใครอยู่กับแก ตอนที่ไปช้อปปิ้งที่ลอนดอนเมื่อปีก่อน] และนี่ก็คือขู่ เป็นคำขู่ที่หมายความว่าหากอลินไม่อยากเพื่อนๆ รู้ว่าเธอมีลูก คืนนี้เธอก็จะต้องไปงานเลี้ยงรุ่นกับอิงฟ้า
โรงพยาบาล
“เห้อ! เหนื่อยชะมัดเลย!” เวลาหกโมงเย็นเป็นเวลาที่ของขวัญเพิ่งจะได้พัก วันนี้มีเคสใหญ่เข้ามา ทำให้เธอยุ่งอยู่ตลอดทั้งวัน แม้แต่ข้าวสักคำก็ยังไม่ได้กิน เธอเหนื่อยราวกับจะไม่เหลือแรง รู้สึกเหมือนหน้าจะมืดอยู่ตลอดเวลา พอคนไข้เริ่มซา ก็รีบแอบออกมานั่งที่สวนด้านนอกโรงพยาบาลทันที
“ได้ยินว่าจะแต่งงานเหรอ?”
“คุณ?!” แต่เหมือนว่าเธอจะไม่มีโอกาสได้พัก เพราะอยู่ๆ ตัวร้ายก็เดินออกมาจากหลังต้นไม้ใหญ่ มองเธอด้วยการเหยียดยิ้ม
“ว่าไง? จะแต่งงานเหรอ? กับไอ้ลี…ลูกชาย ส.ส.การันต์ใช่ไหม? ได้ทีก็เล่นของสูงเลยนะ เข้าให้ค่าสินสอดเท่าไหร่ล่ะ?”
“ก็คิดว่ามากพอที่จะชดใช้หนี้ให้กับคุณนะคะ” ของขวัญตอบกลับเสียงแข็ง เตรียมที่จะลุกหนี แต่แล้วมาเฟียหนุ่มก็เข้ามารั้งแขนของเขาเธอไว้
“กล้ามากนะที่คิดจะเดินหนีฉัน!”
“ฉันเจ็บนะคะ! เคยบอกไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าถึงฉันจะเป็นลูกหนี้คุณ! แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายร่างกายฉันแบบนี้! ปล่อยนะคะ!” เธอนิ่วหน้ามองเขาด้วยความไม่พอใจ มันเหลืออดเหลือทนแล้วจริงๆ กับคนคนนี้
“คิดเหรอว่าแต่งงานได้เงินห้าสิบล้านมาคืนฉันแล้วเธอจะรอดไปได้? คิดว่ามันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?!”
“ง่ายหรือไม่ง่าย ฉันไม่รู้ค่ะ! แต่ที่รู้…คือฉันแค่พยายามจะทำตามหน้าที่ของตัวเอง คือการหาเงินมาใช้หนี้คุณ! ถ้าคุณคิดจะขัดขวาง…”
“หึ! อย่าใช้คำว่าขัดขวางเลย! เพราะฉันจะพังทุกอย่าง! เธอจะไม่ได้แต่งงาน เพราะเงินห้าสิบล้านมันแพงเกินไปสำหรับพยาบาลธรรมดาๆ อย่างเธอ! ให้ตายยังไงชาตินี้เธอก็ใช้หนี้ฉันไม่หมด! ต่อให้หาเงินห้าสิบล้านมาได้! ก็ยังมีหนี้ชีวิตที่ติดค้างกันอีกอยู่ดี! แล้วฟังนะ…ถ้าเธอคิดว่าการไปอยู่ใต้ร่มอำนาจของ ส.ส.การันต์ แล้วจะรอดไปจากมือฉันได้ ฉันก็จะบอกว่าเธอคิดผิด! ไม่มีใครเป็นที่พึ่งพิงให้เธอได้!”
“ปะ…ปล่อยค่ะ” ในตอนที่โปรดพูดออกมายาวเหยียด ของขวัญเพียงรับฟัง แต่ไม่มีเรี่ยวแรงจะเก็บมาคิด เพราะเธอรู้สึกวิงเวียน หน้ามืดจนเหมือนจะล้มลงไปแล้ว
“หึ! ไม่ต้องมาทำเป็นสำออย! จะเป็นลมงั้นเหรอ?! คิดว่าฉันจะเชื่อการแสดงง่อยๆ ของเธองั้นสิ?!”
“คะ…คุณ…ฉะ…ฉัน…” หญิงสาวไม่เหลือแรงที่จะพูดอะไรอีกต่อไปแล้ว ร่างบางซวนเซ สุดท้ายก็หลับตาแล้วร่วงลงสู่พื้นหญ้า ทว่าโปรดนั้นเร็วอยู่ไม่น้อย เขารับเธอไว้ในอ้อมกอดได้สำเร็จ
หมับ!
“เธอ! เห้ย! ของขวัญ! ยายบ้านี่!”
“เกิดอะไรขึ้นครับนาย?!” โรมที่แอบสังเกตการณ์อยู่รอบนอก รีบเข้ามาในทันที
“เป็นลม…น่าจะเหนื่อยจนหมดแรง มึงไปเตรียมรถไป!”
“แต่ที่นี่โรงพยาบาลนะครับนาย…ทำไมเราไม่พาเธอไปส่งหมอล่ะ?”
“กูบอกให้มึงไปเตรียมรถ!”
“ครับ…แต่ให้ผมช่วยอุ้มเธอไปเลยไหม?”
“ไอ้เหี้ยโรม! ไปเอารถมา!”
“ครับ!”
