ตอนที่ 7 ไม่อยู่เคียงข้าง
หลายปีก่อน
เวลาตีสอง
แฟลตห้าชั้นในชุมชนห้องเล็ก ๆ ที่ถูกแบ่งเป็นที่นอนครัวห้องน้ำภายในพื้นที่ใช้สอยมีจำกัด ที่นอนเป็นลูกฟูกที่ใช้พับเก็บให้มีพื้นที่กินข้าวและโล่งขึ้นและจะปูฟูกเมื่อถึงเวลานอน
มารินมัดผมรวบไว้ด้านหลังสีหน้าอิดโรยหลังจากทำงานทั้งวันเธอสวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นกางเกงสีดำรองเท้าหุ้มส้นเดินถือถุงกับข้าวขึ้นบันไดไปยังห้องที่อยู่ชั้นสาม เมื่อเปิดประตูห้องพักเห็นพสุธรนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะท่าทางขะมักเขม้น เธอสีหน้าเหนื่อยล้าวางถุงกับข้าวลงกลางห้องแล้วเดินไปหยิบผ้าขนหนูเข้าไปอาบน้ำชะล้างร่างกายที่เต็มไปด้วยเหงื่อไคล ก่อนจะออกมาสวมชุดนอนมองถุงอาหารยังวางอยู่ที่เดิม ร่างบางเดินอ่อนแรงไปหยิบช้อนและจานชามมาที่กลางห้องนั่งขัดสมาธิแกะถุงเทอาหารและข้าวสุกใส่จาน
“กินข้าวกัน” มารินน้ำเสียงอ่อนล้า
“รินกินก่อนเลย ทิ้งโค้ดตัวนี้ไม่ได้ต้องทำให้เสร็จทีเดียว” พสุธรตอบกลับจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่หันมามองหน้าหญิงคนรักที่มองเขาด้วยสีหน้าอ่อนเพลียแทบไร้เรี่ยวแรง
เช้าวันต่อมาเวลาเก้านาฬิกา
มารินสะดุ้งตื่นตามเสียงนาฬิกาปลุก เธอนอนลืมตาเฉย ๆ ไม่ขยับเขยื้อนลมหายใจอ่อนเหนื่อยล้ายังนอนไม่เต็มอิ่มแต่ต้องลุกขึ้นไปทำงานกะกลางวันที่ร้านสะดวกซื้อใต้แฟลต เธอหันมองแฟนนอนหลับอยู่ข้างกายแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นอย่างขี้เกียจรู้สึกเจ็บแปลบที่ท้องน้อยเลยนั่งพักสักครู่ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวสวมชุดร้านสะดวกซื้อพับชุดทำงานเสิร์ฟในตอนเย็นใส่ถุงผ้าอีกใบเพื่อหารายได้ให้พอกับค่าใช้จ่าย ก่อนออกจากบ้านมารินไม่ลืมที่จะวางเงินหนึ่งร้อยบาทหน้าโทรทัศน์สำหรับให้เขาใช้ระหว่างวัน แล้วเดินลากเท้ายกขาไม่ค่อยขึ้นออกไปทำงานโดยไม่ปลุกเขา
ร้านสะดวกซื้อใต้ถุนแฟลต
แยมเพื่อนพนักงานจัดเรียงสินค้าขึ้นชั้นวางหันไปเห็นมารินเดินอ่อนเพลียเข้ามาในร้านสีหน้าซีดเซียวกว่าทุกวัน
“ไหวไหมเนี่ย” แยมเข้าไปจับแขนเพื่อนด้วยความเป็นห่วงช่วงหลังเพื่อนหักโหมทำงานหนักจนสีหน้าแย่ลงทุกวัน ๆ
“ไหวอยู่กินข้าวเดี๋ยวก็มีแรง” มารินน้ำเสียงอ่อนล้าริมฝีปากซีดเป็นขลุยแววตาที่เคยสวยสดใสไม่สดชื่นเหมือนก่อน
“พักผ่อนไม่พอมันส่งผลกับสุขภาพตอนอายุมากขึ้นนะ เจ๊ก็เคยเป็นเหมือนแกทำงานหามรุ่งหามค่ำแล้วเป็นไงตอนนี้เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น” เจ๊ปลานั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์คิดเงินพอเห็นสภาพลูกน้องก็หนักใจ หลัง ๆ มารินทำงานได้ไม่เต็มที่ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงแต่ที่ยังจ้างไว้เพราะเป็นเด็กดีไว้ใจได้อีกทั้งยังสงสารที่ต้องทำงานหนักหาเงินเลี้ยงครอบครัว
“เอาไว้ตอนอายุมากค่อยว่ากันนะเจ๊ ตอนนี้แค่ไม่อดก็พอ” มารินหันไปคุยกับเจ๊แล้วกำลังก้าวเดินจะเอากระเป๋าสะพายกับถุงผ้าไปเก็บด้านหลังร้าน
“ให้ผัวช่วยทำงานสิ ทำตามฝันก็ทำไปแต่ก็ต้องหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเองไม่ใช่รอให้เมียเลี้ยง” เจ๊บ่นตามหลังทั้งที่รู้ว่าพูดไปมารินก็ไม่สนใจแต่ก็อดไม่ได้ ด้านพสุธรยืนอยู่หน้าร้านได้ยินเจ๊ต่อว่าตัวเองพอดี
“ผมต้องทำงานให้สำเร็จ อีกหน่อยถ้างานขายได้รินก็สบาย!” เขาเสียงดังหน้าบึ้งไม่สบอารมณ์ที่โดนนินทาลับหลัง มาริน แยม และเจ๊หันขวับไปมองหน้าร้านพร้อมกัน
“สบายในโลงศพล่ะสิ กว่าเอ็งจะขายเกมพวกนั้นได้ ไอ้รินมันคงตายก่อน” เจ๊เท้าเอวพูดกระแทกหน้าตาขึงขัง
“ไม่รู้อะไรอย่าพูดดีกว่า!” พสุธรแววตาแข็งกร้าวตวาดลั่นร้าน
“อ้าว ไอ้เด็กเวรกูพูดเพราะหวังดี!” เจ๊ตวาดกลับถลึงตาหายใจแรง มารินหน้าเสียรีบเดินมาหาดันตัวแฟน
“กลับไปก่อน”
“รินลืมโทรศัพท์เลยเอามาให้” เขาเสียงเหวี่ยงเหลือบมองคนรักก่อนจะยื่นโทรศัพท์ให้ แล้วเงยจ้องหน้าเจ๊
“กลับห้องเถอะนะธร” มารินส่งสายตาอ้อนวอน ไม่อยากให้มีเรื่อง ธรมองเธออย่างหงุดหงิดแล้วยอมเดินไปแต่โดยดี
“ปกป้องมันเข้าไป นี่มันผัวเทวดาชัด ๆ เมียจะเหมือนศพเดินได้อยู่แล้วถ้าวันหนึ่งเมียล้มป่วย มึงนั่นแหละที่จะมานั่งเสียใจทีหลัง!” เจ๊ยังไม่หยุดต่อว่าเสียงดังตามหลังหวังให้พสุธรได้ยินและปรับปรุงตัวช่วยเหลือเมียบ้าง
พสุธรเดินกำหมัดขอบตาร้อนผ่าวน้ำตาคลอ นอกจากมารินไม่มีใครเข้าใจในสิ่งที่เขากำลังทำอยู่สักคน คอยดูเถอะสักวันเขาต้องประสบความสำเร็จร่ำรวย มารินจะมีชีวิตสุขสบายเพื่อหยามหน้าทุกคนที่ดูถูกว่าเขาเป็นผัวเทวดา
พสุธรกลับมาที่ห้องพักเก็บกวาดทำความสะอาดสักเสื้อผ้าเมียและรีดในช่วงสาย ถึงเขาจะไม่ได้ออกไปทำงานนอกบ้านแต่ทุกอย่างในบ้านเรียบร้อยสะอาดเป็นระเบียบทำหน้าที่ประหนึ่งแม่บ้านแม่เรือนที่เตรียมทุกอย่างไว้ให้เมีย ในทุกคืนเมื่อเขาเลิกทำงานช่วงฟ้าสางสิ่งที่พสุธรทำทุกวันคือนั่งนวดขานวดแขนให้เมียรักเพราะรู้ว่าเธอทำงานหนักเพื่อหาเงินมาจุนเจือครอบครัว
“อดทนอีกนิดนะริน ธรสัญญาว่าจะทำให้รินสบาย” เขามองคนรักนอนหลับสนิทด้วยความสงสารตั้งใจอยากสร้างครอบครัวร่วมกันไม่อยากให้คนรักลำบากแต่ทุกอย่างต้องใช้เวลาและความอดทน ตัวเขาเองต้องตื่นแต่เช้านอนเกือบสว่างสร้างโปรแกรมเกมที่สมบูรณ์แบบเพื่อนำไปเสนอค่ายเกมใหญ่หากผลงานขายได้เม็ดเงินแห่งความพยายามจะเข้ามามากมายทำให้ครอบครัวกินอยู่สุขสบายมีบ้านหลังใหญ่มีสนามหญ้าหน้าบ้านให้ลูกนั่งเล่นภาพความสุขฉายชัดเขาตั้งใจอย่างมากที่จะประสบความสำเร็จแม้ต้องนั่งหลังขดหลังแข็งนิ้วล็อคข้อมือขึ้นพังผืดจนต้องผ่าตัดก็ตาม
ปัจจุบัน
พสุธรยังคงนั่งมองตัวเองในกระจกพลิกฝ่ามือดูร่องรอยการผ่าตัดจากกลางมือและข้อมือ ซึ่งไม่ใช่แค่แผลเดียวเขาทำงานจนมือขึ้นพังผืดทำให้เจ็บปวดต้องผ่าตัดแล้วก็ฝืนทำงานอีกเลยโดนผ่าตัดซ้ำ ๆ แต่เขาก็ยังพยายามที่จะสร้างโปรแกรมเกมที่ดีที่สุดด้วยความตั้งใจและเป้าหมายที่วาดหวังคือให้ครอบครัวสุขสบาย ทว่าสุดท้ายแล้วเมื่อเขาประสบความสำเร็จผู้หญิงที่เขารักกลับไม่อยู่เคียงข้างอีกแล้ว............. (ทำไมไม่อดทนรอ อีกแค่นิดเดียวเราก็จะมีความสุขร่วมกัน ทำไมถึงทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียวมาริน........)
