บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8 อกหักจากผู้หญิงคนเดิม

บ้านทาวเฮ้าส์ชั้นเดียว

มารินเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านก่อนจะเข้าไปอาบน้ำสวมชุดนอนแล้วคลานขึ้นบนที่นอนกว้างมองลูกสาวนอนหลับอ้าปากหวอ นิ้วเรียวเกลี่ยปอยผมลูกแผ่วเบาอมยิ้มเอ็นดูลูกสาวตัวน้อยนึกถึงสายตาของพสุธรที่ได้มองสบตากันในรอบหลายปี ในตอนนั้นหัวใจดวงเต้นไม่เป็นจังหวะตื่นเต้นกับการได้พบเจอเขารู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก มารินนั่งหน้าเศร้าขอบตาร้อนผ่าวโมโหตัวเองที่คิดฟุ้งซ่านทำเขาเกลียดจนไม่อยากมองหน้าขนาดนั้นยังจะหวังอะไรอีกแค่เขาไม่ด่าต่อหน้าคนอื่นให้อับอายก็ถือว่าดีเท่าไหร่แล้ว (แกเป็นคนเห็นแก่ตัวริน แกไม่คู่ควรที่จะให้ธรรัก......)

หลายวันผ่านไป

ดานุใส่ชุดทำงานเดินหน้าเคร่งขรึมมาตามทางเดินคอนโดแล้วใส่รหัสผ่านเปิดประตูห้องแล้วตรงเข้าไปเคาะประตูห้องนอนของพสุธร ทว่าไม่มีเสียงด้านในตอบรับดานุถือวิสาสะเปิดเข้าไปในห้องนอนมองเพื่อนนอนซุกตัวอยู่ใต้ผ้านวมสีเข้มยิ่งหงุดหงิดไม่ชอบที่เขาขาดความรับผิดชอบทิ้งทุกอย่างจนงานเกือบล่ม

“ติดต่อไม่ได้ ไม่ส่งต่อโปรเจค ไม่หือไม่อือ ไม่สนโลก นายมีลูกน้องไม่ได้ตัวคนเดียว มีความรับผิดชอบบ้างสิ!” ดานุตะคอกใส่เป็นชุดโมโหเพื่อนไม่มีความรับผิดชอบทำให้งานติดขัดเพราะเขาคือตัวนำของทีมพัฒนาเกม

“เบื่อ........” พสุธรหรี่ตามองตอบสั้น ๆ แล้วพลิกตัวตะแคงนอนต่อ

“เราทำธุรกิจไม่ใช่เล่นขายของที่อยู่ ๆ เบื่อก็เลิกเล่นได้นะโว้ย!” ดานุกระชากผ้านวมที่ปลายเท้าออกอย่างแรง

“............” พสุธรเขยิบลุกนั่งหน้าตาห่อเหี่ยวหนวดเคราขึ้นกรอบหน้าที่เคยหล่อคม ดานุเห็นเพื่อนมีสภาพไม่ต่างจากคนเร่ร่อนก็ชะงักจากโกรธกลายเป็นกังวล

“นายเป็นอะไร ซังกะตายอย่างกับคนอกหัก”

“....อกหัก เหอะ เหอะ......... แกเคยอกหักซ้ำ ๆ จากผู้หญิงคนเดิมไหม ถึงจะผ่านมานาน....แค่เจอหน้าความผิดหวังเสียใจแม่งก็กลับมาหมด.......” เขาหัวเราะเยาะตัวเองแล้วห่อตัวลงสีหน้าหม่นเศร้าแววตาไร้ความสุขจนน่าใจหาย

“นายเจอเมียเก่า?”

“............”

“นายต้องมูฟออน ป่านนี้เธอคนนั้นอาจแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วก็ได้”

“ก็เคยคิดว่าจะมูฟออนได้ แต่พอเจอถึงรู้ว่าทำไม่ได้........แม่งโคตรเจ็บ” เสียงทุ้มอ่อนลงเน้นย้ำประโยคสุดท้ายแล้วน้ำตาหยดลงแก้ม เขารีบปาดน้ำตาหันหน้าหนี

“มีอะไรที่เราพอช่วยได้ไหม อะไรที่จะทำให้นายกลับมาเป็นนายที่เข้มแข็ง” ดานุหน้าเหวอไม่คิดว่าต้องมาเจอเพื่อนเศร้าเขาถึงกับทำตัวไม่ถูกจากที่จะมาต่อว่าต้องเปลี่ยนเป็นปลอบ

“ขอพักอีกสักหนึ่งอาทิตย์” พสุธรทิ้งตัวนอนตะแคงหลับตาหันหลังให้เพื่อน

“พักได้ แต่แน่ใจนะว่าเราจะไม่ต้องมาหามนายไปส่งโรงพยาบาล” ดานุถอนหายใจมองเพื่อนที่ซูบผอมลงไปมาก

“............อื้ม............”

“วันศุกร์นี้ที่บริษัทมีเอ้าท์ติ้ง เราเชิญลูกค้ารายใหญ่กับทีมประกันใหม่ไปร่วมด้วย ถ้านายไม่ไหวก็ไม่เป็นไร เราจัดการเองได้ไม่ต้องห่วง......” ดานุพูดจบก็ทำท่าจะเดินออกจากห้องนอน พสุธรได้ยินคำว่าทีมประกันก็ลืมตาขึ้น

“ลินดาไปด้วยหรือเปล่า?”

“น่าจะไม่ไปเพราะเป็นวันศุกร์ลินดาต้องไปโรงเรียน”

“ปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียวแต่แม่หนีเที่ยวกับผู้ชาย เด็กจะอยู่กับใคร?” พสุธรหันขวับลุกนั่งหน้าตาขึงขังไม่พอใจที่เธอแรดทิ้งลูกไปคั่วผู้ชาย

“คุณรินเขามีแม่ช่วยเลี้ยงให้เวลาที่ต้องไปทำงาน”

“...........” พสุธรนั่งหน้าบึ้งไม่สบอารมณ์

“กลับล่ะ กินข้าวด้วยอย่าให้ต้องมาหามส่งโรงพยาบาล” ดานุมองเพื่อนแสดงอาการคล้ายหึงหวงทำให้เขาสงสัยแต่รู้นิสัยเพื่อนหากไม่อยากเล่าอะไรให้ฟังบังคับยังไงก็ไม่บอกเลยต้องปล่อยให้เพื่อนพร้อมที่บอกเอง.......พสุธรมองตามดานุเดินออกไปจากห้องนอนด้วยแววตาแข็งกร้าวราวกับว่าดานุเป็นคู่แค้นกันมาแสนนาน

สองวันผ่านไป

หน้าปากซอยเข้าหมู่บ้าน

มารินกับลูกเดินซื้ออาหารในตลาดนัด มือข้างหนึ่งหิ้วถุงอาหารมืออีกข้างจับมือลูกสาวไว้ระหว่างที่กำลังยืนรอพ่อค้าทำข้าวโพดอบชีส เมลินดาหันไปเห็นชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาหล่อคมโดดเด่นและแตกต่างจากผู้คนแถวนี้ทำให้เมลินดาสะดุดตาแล้วแย้มยิ้มแววตาสุกใส

“อ้าว! ลินดา” พสุธรยิ้มกริ่มโน้มลงมองเด็กน้อย มารินสะดุ้งตกใจไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่

“ลุงธรอยู่แถวนี้เหรอคะ” เมลินดามองตาแป๋วเอ่ยถามน้ำเสียงสดใส

“เปล่าค่ะ ลุงมาทำธุระ......บังเอิญมากเลยได้เจอกันด้วย....”

“ลุงธรผอมลงนะคะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel