บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 เจ้าตัวน้อย

โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง

เสียงออดเลิกเรียนดังขึ้น ไม่นานเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กวัยอนุบาลก็ดังขึ้นเด็ก ๆ ยืนต่อแถวเกาะไหล่เดินมารอผู้ปกครองที่ลานอเนกประสงค์พร้อมกัน

มารินยืนคุยโทรศัพท์กับดานุที่โทรมาบอกข่าวดีว่าเธอได้ทำงานในทีมต่อ มารินดีใจกับค่าตอบแทนที่จะได้รับสายตาสวยมองไปยังลูกสาวตัวน้อยประแป้งขาวทั่วหน้ายิ้มสดใสนั่งเล่นอยู่กับเพื่อนในแถว แม้ค่าเทอมของลูกจะสูงเธอก็พร้อมจ่ายเพื่อซื้อสังคมรอยยิ้มและความสุขของลูก นึกย้อนไปเมื่อสองปีที่แล้วเธอส่งลูกเข้าโรงเรียนแถวบ้าน ลูกกลับมาบ้านด้วยสภาพกระเซอะกระเซิงร้องไห้ตาบวมถูกเพื่อนแกล้งเมลินดาเป็นเด็กตัวเล็กผิวขาวน่าแกล้งเพียงไม่ถึงอาทิตย์ลูกเคยอ่อนโยนน่ารักก็ก้าวร้าวขึ้นเพราะต้องเอาตัวรอดไม่ให้ถูกเพื่อนรังแก พอปรึกษาคุณครูก็ได้คำตอบว่าเด็กเล่นกันเด็กมาจากครอบครัวหลากหลายและยากจนไม่สามารถควบคุมได้เด็กต้องอดทนและปรับตัวให้ได้ ตั้งแต่นั้นมารินจึงยอมจ่ายค่าเทอมที่แพงขึ้นแต่ไม่สูงเท่าของลูกคนรวยเพื่อให้ลูกไม่ถูกรังแกและสิ่งที่ได้กลับมาคือลูกสาวที่น่ารักสดใสของเธอกลับมาคืนมาคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มแต่นั่นก็หมายถึงการทำงานอย่างหนักของแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างเธอ

“แม่ขา....” เสียงสดใสของเจ้าตัวน้อยนำมาก่อนตัวที่กำลังวิ่งยิ้มตรงมาหาแล้วกอดขาแม่เงยมองยิ้มแก้มปริ มารินยิ้มหวานโค้งตัวลงจูบหน้าผากลูกสาวแผ่วเบา

“วันนี้อยากกินอะไรคะ?”

“ข้าวผัดกุ้งร้านยายปั่นค่ะ”

“โอเค ไปกันเลย” เธอยิ้มให้อย่างอ่อนโยนน้ำเสียงสดใสเดินจับมือกันไปที่รถกับลูกสาวตัวน้อย

บ้านชั้นเดียวในหมู่บ้านของคนชนกลางที่มีรถจอดขวางหน้าบ้านจากที่มีทางให้รถวิ่งสวนกันไปมาได้ก็ต้องเข้าออกเบียดกันทีละคัน บ้างก็มีราวตากผ้าวางหน้ารั้วบ้าน ถึงแม้จะดูแออัดก็ยังแบ่งบ้านเป็นสัดส่วนภายในรั้วบ้านที่มีความเป็นส่วนตัวมากกว่าในชุมชนแออัด

มารินอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ลูกสาวเรียบร้อย เข้าไปในครัวหยิบจานมาใส่อาหารตามสั่งที่ซื้อมาจากหน้าปากซอย ด้านเมลินดานั่งทำการบ้านอยู่หน้าโทรทัศน์ สักพักเสียงมอเตอร์ไซต์ที่คุ้นเคยมาจอดที่หน้าบ้าน เมลินดาวิ่งไปยืนรอที่หน้าประตูทันที

“ยายจ๋า” สาวน้อยยิ้มหวานออดอ้อนกอดขายายม้วย

“ยายซื้อส้มมาฝาก” ยายโน้มตัวลงกอดยกถุงส้มที่หลานชอบกินขึ้นมา เมลินดาดีใจยกมือไหว้หอมแก้มยายก่อนจะหยิบถุงส้มเดินเข้าไปวางในครัว

“กินข้าวด้วยกันไหมแม่” มารินเดินถือจานข้าวผัดมาวางบนโต๊ะญี่ปุ่นเล็ก ๆ กลางบ้าน

“เดี๋ยวกลับไปกินที่บ้าน.........พรุ่งนี้จะเอาหลานไปฝากที่บ้านแม่ไหม” แม่เอ่ยถามเพราะปกติวันเสาร์อาทิตย์ลูกสาวจะทำงานเสริมแล้วพาหลานไปฝากบ้านยายที่อยู่ถัดกันไปสองซอยซึ่งเป็นครอบครัวใหญ่มีลูกหลานเยอะ มารินเลยพาลูกแยกออกมาอยู่กันสองคน

“พรุ่งนี้หนูไปคุยงานแค่ช่วงเช้า ว่าจะพาลินดาไปด้วยจ้ะ”

“ก็ดี แม่จะได้ไปเล่นไพ่บ้านยายกอบ..... ยายกลับก่อนนะลูก” ยายม้วยลูบผมหลานสาวตาแป๋วแล้วเดินกลับออกไป มารินเดินตามไปส่งที่หน้ารั้ว

“เมื่อเช้าเจ้าของบ้านเช่าเขาบอกว่าจะขอขึ้นค่าเช่าห้าร้อยนะ”

“อ้าว ไม่เห็นเขาโทรบอกหนู”

“เขาโทรแล้วแต่แกไม่รับ ถ้าไม่ไหวก็ขอเงินพ่อลินดามันสิ ไอ้วินบอกว่าธรมันรวยแล้วนี่ให้มันรับผิดชอบลูกบ้าง” แม่พูดไปขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซต์ไปเตรียมสตาร์ทรถ

“เลิกพูดเรื่องนี้เถอะแม่ หนูหาเงินเองได้ไม่ต้องไปขอ” คิ้วเรียวขมวดแค่เจอหน้ากันก็โดนดูถูกจะแย่ถ้าไปขอเงินเขามีหวังโดนเหยียดจนต้องเอาหน้าซุกดินแน่

“เก่งจริง ๆ ทำงานหนักไม่พักผ่อนระวังจะล้มเอา แม่พูดเพราะเป็นห่วงศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้แกก็รู้” แม่เสียงเหวี่ยงประชดประชันลูกที่ตั้งมั่นว่าจะไม่กวนสามีเก่าทั้ง ๆ ที่ก็เป็นพ่อของลูกเหมือนกัน แม่สตาร์ทรถขี่ออกไปหน้าบึ้งตึง มารินหลบตาลงหน้าเครียดก่อนจะเลื่อนประตูรั้วบ้านปิด เมลินดาเกาะประตูบ้านด้านในมองแม่ด้วยความสงสัย (ยายให้แม่ไปขอเงินพ่อแสดงว่าพ่อของลินดายังหายใจอยู่ไม่ได้หยุดหายใจเหมือนที่แม่เคยบอก)

ยามค่ำคืน ภายในห้องนอนกำแพงห้องเต็มไปด้วยภาพวาดสีและดินสอละเลงไปทั่ว เตียงนอนขนาดหกฟุตเต็มไปด้วยตุ๊กตาน้อยใหญ่ของขวัญจากคนเอ็นดูมอบให้สาวน้อยลินดา ๆ ชอบนอนอยู่ท่ามกลางตุ๊กตาตั้งชื่อให้ตุ๊กตาทุกตัว และตัวโปรดคือพี่ฮิบ เป็นตุ๊กตาฮิบโปตัวแรกที่แม่ให้ตั้งแต่ยังเล็กสาวน้อยนอนกอดเพื่อนตัวแรกทุกคืนด้วยความรัก

แสงไฟสลัวเหลืองอ่อนภายในห้อง ดวงตาโตแป๋วนอนมองแม่นั่งข้างเตียงเปิดอัลบั้มรูปสมัยเรียนทีละใบจนหมดอัลบั้มแล้วเก็บเข้าลิ้นชักหัวนอน แม่นั่งดูอัลบั้มรูปบ่อยครั้งเมลินดาเองก็เคยเห็นรูปเหล่านั้นจนเคยชินตาแม่บอกว่าคิดถึงเพื่อนในวัยเรียนช่วงที่ชีวิตสดใสมีความสุขแค่ตั้งใจเรียนไม่ต้องเครียดและเหนื่อยหนักในการทำมาหากิน

“หนูได้ยินยายบอกให้แม่ไปขอเงินพ่อ พ่อยังหายใจอยู่เหรอคะ”

“ยายพูดเล่นจ้ะ พ่อไม่หายใจแล้ว” มารินน้ำเสียงอ่อนโยนหลบเลี่ยงดวงตากลมโตที่จ้องมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น เมลินดากะพริบตาเชื่องช้าพูดถึงพ่อทีไรแม่หน้าแดงจะร้องไห้ทุกที แม่คงเสียใจที่พ่อไม่อยู่ด้วยเลยไม่ให้เมลินดาดูรูปของพ่อเลยสักครั้งในอัลบั้มรูปก็มีแต่รูปของเพื่อนแม่ สาวน้อยไม่อยากให้แม่เศร้าเลยหลับตานอนไม่ถามต่อเพราะไม่อยากเห็นแม่ร้องไห้ มารินโน้มลงจูบหน้าผากลูกสาวแผ่วเบาก่อนจะเอนตัวลงนอนข้าง ๆ นึกถึงเมื่อกลางวันได้เจอคนรักเก่าดูดีขึ้นมากกว่าก่อนในใจยินดีที่เขาประสบความสำเร็จมีความสุขกับงานที่รัก เขาทุ่มเทและพยายามทำมันมาเนิ่นนานในที่สุดก็สำเร็จดังหวังเสียที แววตาสวยสั่นระริกน้ำตาไหลลงหางตาเคยคิดว่าจะประคับประคองทุกอย่างไว้ให้ได้อยู่ด้วยกันทว่าเมื่อถึงจุดเปลี่ยนเธอจำเป็นต้องตัดเขาและเลือกสิ่งที่สำคัญในชีวิตมากกว่า.........

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel