ตอนที่ 3 หงุดหงิดทำไม
ภายในห้องทำงานของพสุธร
“คุณอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมตรงส่วนไหนคะ” มารินถือแท็บเล็ตยืนอยู่ด้านหลังแกร่งตั้งหลักว่าเขาจะมาไม้ไหน
“ต้องทำยังไงถึงจะไม่เสนอหน้ามาที่นี่อีก!”
“หากทางฟิวเจอร์เกมซื้อประกันกลุ่มของบริษัท ฉันกับทีมต้องเข้ามาดูแลค่ะ”
“งั้นไม่ซื้อ” เขาค่อย ๆ หันมองสีหน้าแววตาเย็นชา
“ถ้าแค่ไม่พอใจฉัน ฉันถอนตัวออกจากทีมได้แต่อย่าให้คนอื่นต้องเดือดร้อน” เธอพยายามใช้น้ำเสียงที่นิ่งที่สุด
“ก็ดีออกจากทีมซะ ฉันจะให้เงินค่าเสียเวลาแล้วอย่ามาให้เห็นหน้าอีกสะอิดสะเอียนจะอ้วก” ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มเหยียดแววตาของเขาฉายความรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด รินพ่นลมหายใจเงยมองขุ่นเคือง
“ไม่คิดเหรอว่าฉันก็สะอิดสะเอียนคุณเหมือนกัน”
“คนรวยอย่างฉันมีแต่คนอยากเข้าใกล้ มีแต่คนต้องการไม่เหมือนเธอดู....กระจอกเป็นไงที่เธอเคยดูถูกไว้ ดูตอนนี้สิว่าฉันรวยแค่ไหนถ้าวันนั้นเธอไม่ทิ้งไปป่านนี้ก็ได้สุขสบายเป็นคุณนายไม่ต้องลำบากทำงานงก ๆ เหอะ!” เขาแสยะยิ้มเย้ยหยันเธอที่เคยดูถูกเขากลับยังจมปลักจนเหมือนเดิม
“ฉันเลือกถูกแล้วที่เดินออกมา ถ้ามัวแต่รอคงอดตาย”
“โชคดีจริง ๆ ที่ตอนลำบากทำให้เห็นธาตุแท้ ฉันเป็นคนเจ็บแล้วจำยิ่งคนที่ทิ้งไปตอนลำบากฉันยิ่งจำและยิ่งเกลียด!”
“มีเรื่องคุยแค่นี้ใช่ไหม ฉันจะได้เอาเลขบัญชีไว้ให้เลขาคุณ ช่วยโอนภายในวันนี้ด้วย”
“เห็นแก่ตัวหน้าเงิน!”
“แน่นอน ฉันไม่ใช่นางเอกที่เอาเงินมาฟาดหัวแล้วไม่เอา ประสบการณ์ชีวิตมันสอนว่าศักดิ์ศรีกับความรักโง่ ๆ มันกินไม่ได้ เงินเท่านั้นที่เป็นของจริง” คิ้วเรียวยกขึ้นยิ้มมุมปากเหนือกว่าแต่หารู้ไม่ว่าในใจไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย
พสุธรยืนมองสังคมเมืองเต็มไปด้วยตึกสูงผ่านกระจกบานใหญ่ในห้องทำงาน จิตใจของเขากำลังวุ่นวายสับสนไม่มีสมาธิ นัยน์ตาคมคลอไปด้วยน้ำตาอดีตเจ็บปวดจากหญิงที่รักทอดทิ้งในวันนั้นยังฝังอยู่ในใจไม่อาจลืมและไม่เปิดใจรับผู้หญิงคนไหนเข้ามาในชีวิตอีกเลย
ดานุเคาะประตูห้องแล้วเดินพรวดเข้ามาหน้าตาขึงขัง พสุธรเหลือบมองเล็กน้อยก่อนจะหันกลับถอนหายใจเบา ๆ ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์คุยกับใครทั้งนั้น
“ทำไมต้องให้คุณรินออกจากทีมประกัน”
“ไม่ชอบหน้า” พสุธรน้ำเสียงเรียบเฉยไม่หันมองดานุ
“เพราะเธอสวยเกินไปใช่ไหม นายเกลียดคนสวยเพราะเมียนายที่เลิกไปก็สวย พอเห็นคนสวยนายก็เลยหงุดหงิด”
“พวกนี้สวยแค่เปลือกสันดานไม่ดีเห็นแก่ตัวหวังผลประโยชน์ ที่ยายนั่นทำดีกับนายก็เพื่อผลประโยชน์เหมือนกัน”
“ถ้าเป็นอย่างนั้น บอกเลยว่าเรายอม” ดานุยืดอกมั่นใจไม่ว่าจะด้วยอะไรเขาก็ชอบมารินไปแล้ว พสุธรชะงักหันไปมองสงสัย
“นายสนใจยายนั่น?”
“ใช่ ที่อยากสนับสนุนเธอเพราะชอบอยากเจอบ่อย ๆ”
“นายยังรู้จักผู้หญิงคนนั้นไม่ดีพอ เขาอาจมีเบื้องหลังที่ไม่ดีหรือไม่ก็มีผัวแล้ว” คิ้วเข้มขมวดจ้องดานุตาเขม็งไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องหงุดหงิดที่ได้ยินว่าเพื่อนชอบเมียเก่าที่เลิกกันไปนานหรืออาจเพราะห่วงเพื่อนไม่อยากให้โดนหลอกเหมือนเขา
“เธอเป็นหม้ายลูกหนึ่ง ลูกสาวน่ารักมากเคยเจอกันแล้วด้วย จะว่าไปก็ดีเหมือนกันมีเมียปุ๊บลูกโตปั๊บ”
“มีลูก แล้วพ่อเด็กไปไหน?”
“เธอไม่เล่าให้ฟัง จากที่พูดคุยกับคนแถวนั้นไม่มีใครเคยเห็นหน้าพ่อเด็ก” ดานุเล่าสิ่งที่เขารู้มาจากการตามติดเธอมาสักพัก
“ไอ้เวรนั่นคงเฉดหัวส่งเหมือนที่เธอกับฉัน......” พสุธรพึมพำอย่างครุ่นคิดในวันที่มารินบอกเลิกมีผู้ชายมารอรับใต้ถุนแฟลต
“บ่นอะไร?”
“เห็นไหมยายนั่นเป็นคนไม่ดี ผัวถึงทิ้ง”
“นายอคติคุยกันยังไงก็ไม่รู้เรื่อง เอาเป็นว่าเราจะซื้อประกันของบริษัทนี้และคุณรินต้องเป็นตัวแทน งานบริหารคือหน้าที่ของเรานายบอกเองว่าจะไม่ก้าวก่ายงานของกัน ตกลงตามนี้นะ” ดานุเสียงแข็งเขาแค่มาบอกให้เพื่อนรู้ไม่ได้มาขออนุญาต พสุธรมองเหวี่ยงเมื่อเพื่อนพูดถึงข้อตกลงที่จะไม่ก้าวก่ายงานของกัน
“อย่ามาให้เห็นหน้าบ่อย ไม่ชอบ!”
“ถ้าแต่งงานกันก็ต้องเห็นบ่อยอยู่ดี” ดานุยกยิ้มแกล้งแหย่ พสุธรหันขวับเคือง ๆ
“ล้อเล่น นี่แค่แอบชอบยังไม่ได้จีบจริงจัง มีเวลาอีกตั้งนานเดี๋ยวนายก็จะสนิทกับคุณริน” ดานุอมยิ้มแล้วหันหลังกำลังจะเดินออกจากห้อง
“ไม่อยากสนิท!”
“ก็แล้วแต่....พรุ่งนี้นายต้องไปงานเปิดตัวเกมใหม่ด้วยอย่าลืม” ดานุชะงักหันมองเพื่อนที่ยืนหน้าบึ้งตึงก่อนจะบิดกลอนเดินร้องเพลงเบา ๆ อย่างอารมณ์ดี พสุธรยิ่งกระวนกระวายใจแค่เจอเมียเก่าก็ฟุ้งซ่านยังมารู้ว่าเพื่อนชอบเมียเก่าอีกยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดโมโหเดินวนไปวนมาอย่างหัวเสีย
