ตอนที่ 2 สามีเก่า
อาคารสูงติดกระจกรอบเป็นบริษัทเกมยอดฮิตตีตลาดในประเทศไทยและต่างประเทศ
พสุธร เจ้าของธุรกิจเกมชื่อดังหนุ่มหล่อเท่มาดขรึมชอบเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ เขาไม่ถนัดงานบริหารแต่ถนัดคิดสร้างสรรค์เกมเพื่อผลิตขายโดยร่วมทุนกับดานุที่ถนัดด้านบริหารมากกว่า ธุรกิจของทั้งสองเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลาเพียงสามปี กลายเป็นผู้บริหารหนุ่มไฟแรงของปีด้วยทรัพย์สินมูลค่าหลายร้อยล้านบาท
ภายในห้องทำงานเต็มไปด้วยหุ่นโชว์และตัวการ์ตูนสะสมมากมายในตู้กระจกติดผนัง พสุธรนั่งเทสเกมอยู่ในห้องทำงานมีจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่สามจอเรียงติดกันให้เขาได้ลองเล่นหาจุดบกพร่องและเพิ่มเติมเกมตัวใหม่ที่กำลังจะออกสู่ตลาดที่มีการแข่งขันการหนักหน่วงเขาจึงต้องเก็บรายละเอียดเกมให้ไม่มีที่ติ
ดานุหุ้นส่วนคนสำคัญเก่งงานบริหารช่วยผลักดันให้บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งสองได้เจอกันหลังจากเล่นเกมแล้วคุยกันถูกคอเมื่อสี่ปีก่อนจึงได้ร่วมมือกันทำธุรกิจซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาด
“ต้องแก้อีกเยอะไหม” ดานุถือแท็บเล็ตมาหยุดมองหน้าจอเกมขนาดใหญ่
“มีติดนิดหน่อย เปิดตัวตามแผนที่วางไว้ได้เลย.....” พสุธรยังจ้องหน้าจอไม่วางตานิ้วหนาคลิกเมาส์รัว ๆ ไม่หยุดสายตาคมว่องไวเล่นเกมได้เฉียบขาดวางโปรแกรมได้ดีเลิศนั่นคือเรื่องถนัดที่ดูง่ายดายสำหรับพสุธรแต่ยากมากสำหรับคนอื่น
“เยี่ยม ......... วันนี้จะมีบริษัทประกันมาเสนอประกันกลุ่มที่เคยบอกนายไว้ สนใจฟังด้วยกันไหม?”
“นายจัดการเลย” พสุธรยังคงตั้งใจกับการเล่นเกมอย่างต่อเนื่อง
“โอเค ไปล่ะ” ดานุพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะหันหลังหยิบโทรศัพท์ที่มีสายเข้าขึ้นมารับ
“ครับ คุณมาริน....แจ้งประชาสัมพันธ์ได้เลย ผมให้เตรียมห้องประชุมไว้แล้ว” ดานุพูดจบก็เดินออกไปจากห้องทำงาน โดยไม่ได้หันกลับไปมองว่าพสุธรหยุดชะงักนั่งนิ่งเงียบแววตาสับสน........... (มารินเหรอ ใช่คนเดียวกันหรือเปล่า)
ห้องประชุม
ทางทีมงานประกันช่วยกันเสนองานให้กับบริษัทลูกค้า ดานุนั่งฟังงานที่เสนอแล้วเหลือบมองมารินเป็นระยะ เธอเป็นคนสวยยิ้มหวานและมีน้ำใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ
เมื่อสองเดือนที่แล้วดานุขับรถมาหาของกินหน้าปากซอยสวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเก่า ๆ แต่รถดันน้ำมันหมดเลยต้องเดินไปหาซื้อน้ำมันที่ร้านค้าระหว่างที่กำลังเดินมาค่อนข้างไกลฝนก็ช่างเป็นใจตกกระหน่ำจนเนื้อตัวเปียกปอนหาที่หลบก็ไม่ได้เส้นทางในซอยลึกเป็นที่โล่งไม่มีจุดพักต้องอดทนเดินต่อไปพร้อมกับโมโหตัวเองไป สักพักแสงไฟจากรถมอเตอร์ไซต์ก็สาดมาแต่ไกลมอเตอร์ไซต์วินสวมหมวกกันน็อคและเสื้อคลุมกันฝนบาง ๆ มาจอดเทียบข้าง
“จะไปไหนคะ?”
“หาซื้อน้ำมัน น้ำมันรถผมหมด” ดานุกะพริบตาถี่เพราะน้ำฝนหยดเข้าตาที่ใส่คอนแทคเลนส์จนเขาเริ่มแสบเคืองตา
“ขึ้นมาเลย ร้านค้าข้างหน้ามีขาย เดินอีกไกลกว่าจะถึง”
“ครับ ๆ” เขาขึ้นซ้อนอย่างงง ๆ คิดในใจว่าพอไปถึงร้านจะจ่ายเงินค่าจ้างให้ด้วยแอพธนาคารเพราะตอนนี้เขาไม่มีเงินสดติดตัวเลยสักบาท ระยะทางยาวไกลกว่าจะถึงร้านค้าดานุลงจากมอเตอร์ไซต์เข้าไปซื้อน้ำมันที่แบ่งขายไปเติมให้รถพอวิ่งได้แต่เมื่อเขาจะสแกนแอพธนาคารโทรศัพท์ที่เปียกชุ่มเกิดขัดข้องทำให้เขายิ่งเซ็งในความซวยซ้ำซวยซ้อนเพียงเพราะไม่รอบคอบเติมน้ำมันรถเตรียมไว้พร้อม
“เอาเงินรินก่อนก็ได้ป้า” มารินยื่นเงินค่าน้ำมันส่งให้ป้าเจ้าของร้านชำ ดานุหน้าเสียถอนหายใจแรง
“ขอโทษนะครับ รบกวนหลายอย่างเลย”
“ไม่เป็นไรค่ะ เวลาคนจะแย่ก็มักจะเข้ามาพร้อมกันฉันเข้าใจ.......... รถจอดอยู่ไหนคะเดี๋ยวขี่ไปส่ง”
“ผมเดินไปเองดีกว่า รบกวนคุณมากแล้ว ถ้ายังไงรบกวนขอเลขบัญชีด้วยนะครับผมจะได้โอนเงินคืน” เขาทำท่าทางอึกอักที่จะรบกวนเธออีกครั้ง
“ให้ไปส่งเถอะค่ะ กว่าจะเดินไปถึงหอบพอดี” มารินส่งยิ้มหวานแม้หน้าผากจะถูกบดบังด้วยหมวกกันน็อคแต่ใบหน้าและรอยยิ้มนั้นดูก็รู้ว่าเป็นคนสวย สวยมากทั้งหน้าตาและจิตใจ ดานุจึงสนใจหญิงสาวที่เขาไม่เคยรู้จักแต่ยื่นความปรารถนาให้กับเขา ตั้งแต่นั้นมาเมื่อเขารู้ว่าอาชีพของเธอคือเป็นนายหน้าประกันและทำงานเสริมขี่วินมอเตอร์ไซต์เพื่อหาเงินค่าเทอมลูกเขาก็อยากสนับสนุนให้เธอมีรายได้ ซึ่งวงเงินประกันของบริษัทเขาทำให้เธอมีค่าตอบแทนมากพอที่เธอจะไม่ต้องลำบากทำอาชีพเสริมจะได้มีเวลาอยู่กับลูกของเธอ
“ผมเลือกแผนความคุ้มครองนี้ครับ” ดานุชี้ไปยังแผนความคุ้มครองช่องสุดท้ายซึ่งมีมูลค่าสูงและไม่ค่อยมีบริษัทไหนทำให้พนักงาน ทีมงานประกันถึงตาโตแล้วรีบเก็บอาการเพราะนั้นหมายถึงค่าตอบแทนมากมายที่เขาจะได้รับเช่นกัน
ในระหว่างที่ทีมประกันกำลังแนะนำเพิ่มเติมอยู่ในห้องประชุม ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาภายในห้องโดยไม่ขออนุญาต ทุกคนหันมองด้วยความแปลกใจแล้วกลายเป็นตื่นเต้นเมื่อเห็นหนุ่มรูปหล่อคมเข้มยืนมองพวกเขาอยู่
มารินนิ่งงันตกใจที่เจอสามีเก่า มือเรียวกำแน่นกลืนน้ำลายอึกใหญ่รู้ว่าเขาเป็นผู้บริหารที่นี่แต่ยังฝืนมาเพราะอยากได้ค่าตอบแทนที่สูงลิ่ว ก่อนหน้านี้เคยติดตามข่าวในวงธุรกิจพสุธรไม่ชอบยุ่งเรื่องบริหารเขาพัฒนาเกมเท่านั้น เลยไม่คิดว่าจะเจอกันแบบประจันหน้าหลังจากเลิกรากันไปหกปีกว่าและเธอเป็นคนขอแยกทางออกมาเอง
“อ้าว นายอยากรู้เรื่องประกันเหรอ” ดานุขมวดคิ้วแปลกใจที่อยู่ ๆ เพื่อนก็มาปรากฏตัวในห้องนี้
“ใช่ เรามาช้าไปใช่ไหม”
“ถ้านายอยากรู้ เราจะให้ยุสรุปเฉพาะใจความสำคัญให้” ดานุมองทางยุรีเลขาส่วนตัวของเขา พสุธายืนเงียบแล้วหันไปจ้องหน้ามาริน
“คุณชื่ออะไร?” เขาเอ่ยถามน้ำเสียงนุ่มลึก มารินกระตุกเล็กน้อยก่อนจะตอบ
“มารินค่ะ”
“ผมขอเชิญคุณมาริน ไปคุยรายละเอียดประกันกลุ่มเพิ่มเติมหน่อยได้ไหม?” พสุธรน้ำเสียงเรียบนิ่งทว่าแววตาแข็งกร้าว ดานุแปลกใจหันมองหน้าเพื่อนด้วยความสงสัย พสุธรไม่ชอบยุ่งงานบริหารแต่กลับอยากรู้เรื่องประกันกลุ่มเพิ่มเติม
“ยินดีค่ะ” มารินแอบกำไว้ใต้โต๊ะแล้วฝืนยิ้มให้พสุธรตามมารยาท
