บท
ตั้งค่า

Ep.6 อดีตที่เจ็บปวด

การผ่านเรื่องร้าย ๆ ติดต่อกันมาสองครั้งติดในระยะเวลาไม่กี่วันมันทำให้มีนาแทบไม่เป็นอันทำอะไร เธอยอมรับเลยว่าเธอกลัวอย่างมาก เธอรู้ว่าตัวเองตกอยู่ในอันตรายอย่างรุนแรง รู้ว่าตัวเองไม่มีความสามารถที่จะแก้ปัญหาให้ตัวเองได้เลย นอกจากความระมัดระวังของเธอแล้วเธอก็ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง

“ฮึก!” เธอพยายามกลั้นน้ำตาและเสียงร้องไห้ของตัวเองไว้อย่างถึงที่สุด พยายามอย่างมากที่ผู้หญิงอายุยี่สิบสองคนหนึ่งจะต้องพยายามฝืนเข้มแข็งด้วยตัวคนเดียวท่ามกลางความโดดเดี่ยวที่น่าหวาดผวา

เธอเหนื่อย เธอกลัว เธอไม่คิดเลยว่าพ่อที่เป็นครอบครัวเดียวของเธอจะทิ้งเธอไว้แบบนี้ การที่พ่อคิดว่าปกปิดเรื่องของเธอแล้วจะทำให้คนพวกนั้นสืบไม่เจอตัวเธอหรือยังไง คิดว่าคนพวกนั้นจะไม่มาทวงหนี้กับเธออย่างนั้นเหรอ ก็เห็นแล้วว่าตอนนี้สิ่งที่พ่อคิดว่าไม่เกี่ยวกับเธอมันโถมใส่เธอเต็ม ๆ

“พ่อใจร้ายกับมีนมากเกินไปหรือเปล่า” น้ำเสียงสั่นเครือดังขึ้นพูดกับตัวเองหลังจากเรื่องถาโถมใส่ไม่หยุด ทำเอาเธอแทบจะกลายเป็นคนขี้ขลาดที่ไม่กล้าออกไปใช้ชีวิตข้างนอกอยู่แล้ว

สุดท้ายมีนาก็ทำได้เพียงร้องไห้ออกมาคนเดียวกลางห้องอย่างทำอะไรไม่ได้ ไม่กล้าพอจะเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง ถึงเล่าไปก็รู้ว่ามันไม่ได้มีทางออกใดเลยมันจึงทำให้เธอได้แต่เก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียวอย่างอึดอัดซ้ำยังกลัวว่าจะทำให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะเธอไปด้วย นอกจากเวย์ไทม์ที่อยู่ ๆ ก็กลับมาและได้รู้ ก็ไม่มีคนรอบตัวของเธอรู้เรื่องนี้เลย

และถึงเขาจะรู้ ถึงเขาจะเสนอตัวเพื่อปกป้องเธอ แต่เธอก็ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่มีทางรับน้ำใจหรืออะไรจากเขาเด็ดขาด

เหมือนเธอจะงี่เง่า ไร้เหตุผล แยกแยะไม่ได้ แต่อดีตของเขาและเธอ...

ประตูคู่บานใหญ่ภายในคอนโดหรูถูกผลักออกด้วยฝีมือของหญิงสาวรายหนึ่งที่มาอย่างไม่ได้บอกเจ้าของห้องล่วงหน้า แต่เหตุผลที่ไม่ได้บอกก็เพราะว่าช่วงนี้เขาไม่ค่อยว่างรับสายเธอ ติดต่อยากจนเธอเลิกติดต่อแล้วตัดสินใจมาหาเขาถึงที่ด้วยตัวเองแบบนี้

แต่หลังจากเธอก้าวเข้าไปภายในห้องโอ่อ่าฝีเท้าก็ชะลอลงก่อนจะหยุดมองสิ่งของตรงหน้าอย่างแปลกใจ

“มีน” เสียงชายหนุ่มเจ้าของห้องที่เดินออกมาจากห้องห้องหนึ่งชะงัก เรียกร่างบางตรงหน้าขึ้นอย่างไม่คิดว่าเธอจะมา หญิงสาวที่เขาหลงลืมไปแล้วแม้จะผ่านมาไม่กี่วันก็ตาม

“นี่อะไรเหรอเฮีย ทำไมกระเป๋าเยอะจัง” เธอถามร่างสูงที่ตัวเองรักออกไปอย่างแปลกใจกับกระเป๋าเดินทางใบใหญ่หลายใบบางเรียงรายกันอยู่ราวกับรอเวลาพาออกไป

“คือ...” เขาอ้ำอึ้งอย่างไม่เคยเป็นเพราะหาคำตอบให้เธอไม่ได้ หาไม่ได้เพราะเขาไม่รู้จะพูดยังไงทั้งที่รู้ดีว่าควรพูดอะไร

“คุยกับใครเหรอ” แล้วเสียงของผู้หญิงอีกคนก็ดังขึ้น พร้อมกับหญิงสาวในชุดเสื้อยืดตัวใหญ่ของเจ้าของห้องเดินออกมาก่อนจะหันไปเห็นบุคคลที่สามที่เพิ่มเข้ามา “ไหนว่าไม่ได้ยุ่งกับเธอแล้ว”

เจ้าของเสียงหันกลับไปถามชายหนุ่มข้างกายด้วยสายตาไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

“เฮียก็ไม่ได้คุยกับเธอสักพักแล้ว” ไม่ได้คุยจนเขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเคยมีเธออยู่ในชีวิตของเขาก่อนหน้านี้

“แล้วทำไมเธอยังมีคีย์การ์ดห้องเฮีย” เธอถามชายหนุ่มข้างกายอย่างไม่พอใจ

“เฮียยุ่งเรื่องเอกสารก็เลยไม่ได้คิดเรื่องอื่น” เขาไม่ได้โกหก เพราะหลังจากเขาคุยกับเธอและตกลงกันเรียบร้อยว่าเขาจะตามไปอยู่กับเธอที่ต่างประเทศ เขาก็รีบจัดการเอกสารและเตรียมตัวจนไม่มีทำอะไรเลย

“นี่ใครเหรอเฮีย” มีนาที่ยืนฟังบทสนทนาสั้น ๆ ของเขาพวกเขาก็เหมือนจะเข้าใจอะไรบทสนทนาที่เป็นเธอต่างหากที่กลายเป็นส่วนเกินของกลุ่ม

แต่เธอก็ยังคงเลือกจะโง่งมถามชายหนุ่มที่ตัวเองรักออกไปอย่างไม่เข้าใจ

“ฉันเป็นคู่หมั้นของเฮียเวย์ เราหมั้นกันมาสามปีแล้ว” เวย์ไทม์ยังไม่ได้ตอบแต่หญิงสาวข้างกายเป็นฝ่ายตอบกลับแทนถึงสถานะของเธอและผู้ชายข้าง ๆ คู่หมั้นอย่างถูกต้องที่ครอบครัวรับรู้

“คู่หมั้น...งั้นเหรอ” มีนาย้อนถามชายหนุ่มอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง แต่จะให้เธอเชื่อได้ยังไงในเมื่อเวลาเป็นปีเลยนะที่เธอคบหากับเขา นอนที่นี่เกือบทุกคืน ทำกิจกรรมมากมายราวกับคู่รักด้วยกันแทบทุกวัน

“...” เขากลับเงียบและมองหน้าเธออย่างรู้สึกผิดเพียงอย่างเดียว

“ก่อนหน้านี้ฉันกับเฮียเวย์มีปัญหากัน เขาก็แค่ดึงเธอเข้ามาเพื่อประชดฉัน” เพราะแบบนั้นเธอถึงรู้จักมีนาทันทีที่เห็นครั้งแรก แต่มีนาไม่รู้จักเธอก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

“เธอ...โกหกใช่ไหมเฮีย” มีนายังคงมองร่างสูงไม่ละสายตา ย้ำถามถึงสิ่งที่ผู้หญิงข้างกายเขาพูดอย่างไม่มีทางเชื่อใคร ขอแค่เขาบอกว่าเธอคนนั้นโกหก เธอก็พร้อมจะเชื่อ

“เฮียขอโทษ” คำขอโทษที่ดังขึ้นแทนคำตอบแต่มันกลับเป็นคำตอบที่ชัดที่สุดให้มีนาแล้ว ว่าทุกอย่างที่ผู้หญิงข้าง ๆ เขาพูดนั้นเป็นความจริง

เขามีคู่หมั้นแล้ว เขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอ มีแต่เธอฝ่ายเดียวที่คิดไปเองทุกอย่าง เวลาที่ผ่านมามันมีความหมายและพิเศษสำหรับเธออย่างที่สุด แต่มันกลับไร้ความหมายสำหรับเขาอย่างมากเหมือนกัน

“เฮียเวย์กำลังจะไปอยู่ต่างประเทศกับฉัน” หญิงสาวที่ได้ชื่อว่าคู่หมั้นเอ่ยบอกมีนาออกไปอย่างไม่ได้โกหกต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

แม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าไม่ได้ผิดอะไร แต่คนเรามักมีความรู้สึกไม่ดีต่อใครอีกคนที่มีความสัมพันธ์กับคนรักของเขาเป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะแบบนั้นเธอจึงไม่ชอบมีนาเลยสักนิด

“เฮียจะไม่พูดอะไรหน่อยเลยเหรอ” มีนาถามชายหนุ่มตรงหน้าอย่างต้องการฟังอะไรจากปากเขาบ้าง ไม่ใช่ให้แต่อีกคนที่เธอไม่อยากฟังพูดฝ่ายเดียว

เธออยากฟังเขา เธอจะเชื่อเขา ขอแค่เขาบอกว่าทุกอย่างเป็นเรื่องโกหก บอกว่าเธอคนนั้นแค่หลอกเล่น เธอจะเชื่อ

“เฮียขอโทษสำหรับทุกอย่าง ขอโทษจริง ๆ” เขายังคงเอ่ยเพียงคำขอโทษออกมาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

แม้จะเป็นคำพูดสั้น ๆ ง่าย ๆ แต่เขาก็รู้สึกผิดต่อเธอจริง ๆ เขาไม่ได้อยากทำร้ายเธอ แต่ตอนนั้นด้วยอารมณ์ สถานการณ์ และความเห็นแก่ตัวทำให้เขาดึงเธอเข้ามา และสุดท้ายก็ทำร้ายเธอแบบนี้

มีนาก้าวไปข้างหน้าก่อนจะหยุดตรงหน้าร่างสูงที่เธอรักมาก ผู้ชายที่เป็นรักแรกของเธอ คนแรกของเธอ คนที่ทำให้เธอมีความสุขและรู้สึกพิเศษแม้จะเป็นช่วงเวลาเกือบปี แต่มันดีสำหรับเธอมาก ๆ ดีจนเธอไม่คิดว่าทุกอย่างเป็นเรื่องตลกสำหรับเขา

เปี๊ยะ!! ฝ่ามือบางยกขึ้นตบหน้าหล่ออย่างแรงจนใบหน้าของเขาหันไปตามแรงตบ พร้อมกับกลิ่นคาวเลือดในปาก

“นี่เธอ!...” หญิงสาวอีกคนเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจพร้อมกับก้าวไปข้างหน้าเพื่อสั่งสอนมีนา แต่ก็ถูกแขนแกร่งของเวย์ไทม์ยกรั้งไว้ก่อน

มันสมควรแล้วที่เธอจะตบเขา เขาคู่ควรแล้วกับการถูกตบครั้งนี้ เขารู้สึกผิดต่อเธอจริง ๆ

“สารเลว!”

“เฮียขอโทษจริง ๆ”

บาดแผลที่เขาทิ้งไว้ให้กับเธอ ความรู้สึกผิดหวังเสียใจที่เขาสอนสั่งเธอด้วยบทเรียนราคาแพง ความเห็นแก่ตัวที่เขากระชากความรู้สึกของเธอเข้ามาอย่างไม่นึกถึงสิ่งใด มันทำให้เธอไม่สามารถรับได้ มันไม่ได้ง่ายเลยที่เธอจะผ่านวันเวลาพวกนั้นมาได้จนถึงตอนนี้

เพราะเธอผ่านมาได้แล้ว เธอสามารถมองอดีตพวกนั้นอย่างไม่เสียน้ำตา เธอสามารถหัวเราะได้อีกครั้ง แต่เธอก็สัญญากับตัวเองไว้แล้วเหมือนกันว่าทั้งชีวิตนี้เธอจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายอย่างเขาอีก ไม่ว่าจะทางใดก็ไม่ขอเป็นคนรู้จักกับเขาอีกเด็ดขาด

เขากับเธอคำว่าแฟนเก่ายังใช้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แล้วแบบนี้จะให้เธออยากกลับเข้าไปในชีวิตเขาอย่างนั้นเหรอ แล้วแบบนี้เธอควรเต็มใจรับความช่วยเหลือและปกป้องจากเขาอย่างนั้นเหรอ

ที่สำคัญกว่านั้นวันเวลาที่ผ่านมาหนึ่งปีจะว่านานก็นานจะว่าเร็วก็เร็ว แต่ถ้าพูดถึงเรื่องของเขากับคู่หมั้นของเขามันถือว่าเร็วมาก หนึ่งปีที่พวกเขาไปอยู่ด้วยกันสถานะตอนนี้เป็นยังไง ยังรักกันดี เลิกกันแล้ว หรือเป็นแบบไหนเขาถึงได้กลับมาไทย

แต่ไม่ว่าจะเป็นยังไงมันสำคัญด้วยเหรอ แค่บาดแผลที่เขาทิ้งไว้ให้เธอมันก็ยากจะเป็นเพื่อนที่ดีกันได้แล้ว แต่นี่กลับจะให้ไปอยู่ใต้ปีกเขาต่อไปอีกมันคงน่าขำเกินไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel