Ep.4 ลักพาตัว
แม้จะผ่านเรื่องน่ากลัวและเรื่องกวนใจมาไม่กี่วันแต่มีนากลับไม่เคยทิ้งการเรียนเลย ยิ่งเป็นปีสุดท้ายแล้วเธอต้องสู้ไปให้สุดและเพิ่มความระมัดระวังตัวเองมากขึ้น การเรียนของมีนาในวันนี้ปกติจะสิ้นสุดในเวลาเที่ยงตรง แต่เพราะอาจารย์ปล่อยก่อนเวลาถึงหนึ่งชั่วโมงทำให้เธอได้เลิกเรียนเร็วขึ้น
“กลับเลยไหม” มีนาถามเพื่อนตัวเองขึ้นหลังจากออกจากห้องเรียน
“กลับเลย ฉันง่วงนอนมาก” พฤกษาตอบกลับอย่างที่รู้สึก
“อืม” มีนาเองก็ไม่ต่างกันเพราะเธอไม่อยากไปไหนทำอะไรเลยในช่วงนี้
“เค งั้นเจอกันพรุ่งนี้” พฤกษาเอ่ยขึ้นก่อนจะแยกย้ายกับเพื่อนเพื่อกลับห้องของตัวเอง
มีนาเดินไปที่รถของเธอก่อนจะขึ้นขับออกจากมหาลัยเพื่อกลับคอนโดของตัวเองด้วยความระมัดระวัง เธอพยายามมองกระจกหลังอยู่เรื่อย ๆ เพื่อดูความผิดปกติจนแทบจะกลายเป็นหวาดระแวงไปแล้ว แต่ยังดีที่วันนี้เธอไม่เห็นรถน่าสงสัยขับตามเธอมาเหมือนครั้งก่อน
กริ้งง! โทรศัพท์มีนาดังขึ้นทำให้เธอสะดุ้งเบา ๆ กับภวังค์ความคิด พอเบนสายตาไปมองหน้าจอรถยนต์ก็เห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทอีกคนที่ไม่ได้มาเรียนในวันนี้เนื่องจากไม่สบาย ทำให้เธอกดปุ่มที่พวงมาลัยรถเพื่อรับสาย
“ฮัลโหลฝน” มีนากรอกเสียงลงไปให้เพื่อนรับรู้
(เลิกเรียนหรือยังมีน) น้ำเสียงแหบแห้งของอีกฝ่ายดังขึ้นถามทำให้รู้ถึงอาการป่วยที่ดูน่าจะหนักเอาการ
“เลิกแล้ว มีอะไรหรือเปล่า” มีนาตอบพร้อมถามกลับ
(โทษนะแกที่โทรไปกวน แต่ยาฉันหมดแล้วก็ยังไม่ได้กินข้าวด้วย แต่ฉันลุกไม่ไหวอ่ะแก) น้ำเสียงแหบแห้งอ่อนแรงดังขึ้นบอกสถานการณ์ของตัวเอง
“ตอนนี้แกอยู่ห้องใช่ไหม เดี๋ยวฉันแวะซื้อยาไปให้” มีนาได้ยินแบบนั้นก็ถามย้ำเพื่อนออกไปอย่างห่วงใย
(ไม่ วันนี้ฉันอยู่คอนโดV) เม็ดฝนบอกให้รู้ว่าวันนี้เธอนอนอีกคอนโดหนึ่งที่ไม่ใช่คอนโดประจำของเธอ
“อ่า แกแชร์โลมาให้ฉันหน่อยสิ” เคยรู้ว่าเพื่อนมีคอนโดสองที่ แต่คอนโดแห่งนี้เธอไม่เคยไปเลยไม่มั่นใจทางไป
(ได้ ๆ กวนแกหน่อยนะมีน) เม็ดฝนพูดอย่างเกรงใจ
“คิดมากหน่า” มีนาว่าให้เพื่อนอย่างไม่ได้คิดอะไร “งั้นรอหน่อยนะ ไม่นานน่าจะถึง”
พูดจบเธอก็วางสายไปก่อนเสียงข้อความจะดังขึ้นแทน
มีนาเลือกจะหาร้านยาร้านข้างทางก่อนจะลงไปซื้อและกลับขึ้นรถพร้อมกับเปิดโลเคชั่นที่เพื่อนส่งมาให้ และขับไปตามเส้นทางที่มีระบบเสียงคอยแจ้งเตือนเส้นทางอยู่เป็นระยะ ซึ่งคอนโดนี้ถือว่าไกลออกมาจากตัวเมืองไม่น้อย ซ้ำยังมีทางผ่านที่เป็นซอยเปลี่ยวเพราะข้างซอยเต็มไปด้วยต้นไม้และพุ่มหญ้าที่ไม่ได้รับการดูแลและไร้สิ่งปลูกสร้างอยู่ประมาณหนึ่งซอย
เมื่อถึงปากซอยที่มองเห็นแบบนั้นมีนาก็เหยียบคันเร่งให้เร็วขึ้นเพื่อให้พ้นซอยนี้ไปเร็ว ๆ แม้จะเป็นตอนกลางวันแต่เธอก็ไม่มั่นใจกับสถานการณ์เงียบเชียบแบบนี้
แต่เหมือนความกลัวของเธอมันจะส่งผล เมื่ออยู่ ๆ ก็มีรถคันหนึ่งขับมาจากด้านหลังด้วยความเร็วก่อนจะออกขวาแล้วแซงหน้าเธอไป แซงไปได้ก็หักพวงมาลัยเข้าซ้ายขวางหน้าเธอไว้ทันที
เอี๊ยดด! มีนาเหยียบเบรคในทันทีตามสัญาชาตญาณของความตกใจทำให้ไม่ชนกับรถคันนั้น แต่หลังจากเธอได้สติเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นชายฉกรรจ์ตัวใหญ่ใส่หมวกแก๊ปเปิดหน้าเดินลงจากรถตรงมาที่รถของเธอ
ประสบการณ์ก่อนหน้านี้ทำให้เธอรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้คืออะไร เธอสั่นขึ้นไปทั้งตัวแต่ก็พยายามตั้งสติแล้วรีบเข้าเกียร์ R เหยียบคันเร่งจนรถถอยหลังไปทันที
โครม! เพราะความสั่นกลัวจนแทบไม่มีสติควบคุมตัวเอง เพราะสายตาที่พยายามมองชายฉกรรจ์รายนั้นพร้อมกับรถคันนั้นที่พอเห็นเธอถอยรถมันก็หักหัวรถมาทางรถของเธออย่างไม่รอช้า นั่นทำให้เธอแทบลืมดูกระจกหลังจนเผลอไปชนเข้ากับต้นไม้ข้างทาง
รถสีดำคันนั้นขับมาจอดขนาบข้างฝั่งคนขับโดยส่วนท้ายรถขวางให้เธอไม่สามารถขับออกไปข้างหน้าได้ ด้านหน้าท้ายรถบังทางไป ด้านหลังติดกับต้นไม้ที่ชน ด้านขวากำลังมีชายอีกคนลงมา ส่วนด้านซ้ายมีชายคนแรกที่ลงจากรถยืนอยู่ที่ประตู ยืนอยู่พร้อมกับหยิบบางอย่างออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วก้มทำบางอย่างกับมือจับประตูรถขอเธอ
ใช่ มันกำลังงัดรถของเธอและเธอก็จะไร้ทางหนีออกไป
ประตูรถถูกไขทั้งจากสองฝั่งทำให้มีนาทำอะไรไม่ได้เลย มือไม้เธอสั่นสะท้านขึ้นอย่างหวาดกลัว โทรศัพท์ที่หยิบออกมาทำได้เพียงโทรออกไปยังเบอร์ตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ ทั้งที่รู้ว่าแม้โทรติดและแจ้งสถานการณ์ได้แต่ก็รอตำรวจมาไม่ทันเป็นแน่ แต่เธอทำได้แค่นั้นจริง ๆ
“กรี๊ดด!” มีนากรีดร้องขึ้นด้วยความตกใจกลัวหลังจากประตูฝั่งข้างคนขับได้เปิดออก พร้อมกับชายฉกรรจ์คนนั้นที่ขึ้นมาบนรถแล้วกระชากมือของเธออย่างแรง
ปั่ก! ๆ ๆ มีนาฟาดมือที่ถือโทรศัพท์ใส่หน้ามันอย่างแรงสะเปะสะปะไปหมดเพื่อพยายามป้องกันตัวเอง แต่เพราะความต่างของร่างกายและพละกำลังทำให้เธอถูกรวบมือไว้แน่น
“ถ้าไม่ติดว่านายอยากได้มึงสภาพดี ๆ กูตบแม่ง!” ชายฉกรรจ์ที่ถูกฟาดมือใส่หน้าไม่ยั้งเอ่ยขึ้นอย่างน่ากลัวเพื่อข่มขู่เธอพร้อมกับยื่นมือมาปลดล๊อคฝั่งข้างคนขับให้เพื่อนตัวเอง
ชายอีกคนกระชากมีนาลงจากรถเพื่อพาเธอขึ้นรถที่พวกมันขับมา ส่วนรถของมีนาตั้งใจให้ชายอีกคนที่ขึ้นไปขับตามไป
“ปล่อยฉันนะ! ปล่อย!” มีนาพยายามดิ้นขัดขืนการกระชากของชายฉกรรจ์ตรงหน้าจนเธอปวดแขนไปหมดเพราะมันบีบไว้แน่นแล้วลากเธอไปที่รถอย่างแรง
เธอได้แต่ภาวนาขอให้มีรถสักคันผ่านมาทางนี้บ้างเพราะยังไงทางนี้ก็มีคอนโดอยู่ แถวนี้ก็ไม่ใช่จะไม่มีบ้านเลยแม้ว่าซอยนี้จะไม่มีบ้านก็ตาม ตอนนี้เธอกลัวไปหมด เธอกลับแทบตายอยู่แล้ว
