Ep.3 ขอดูแล
ร่างสูงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของเขาพร้อมกับเปิดภาพกล้องวงจรปิดในแล็ปท๊อป ดูเหตุการณ์ตั้งแต่แรกที่เธอมาที่นี่เพราะเขารู้มาว่าตลอดหนึ่งปีกว่าที่ผ่านมาเธอไม่เคยมาเหยียบที่นี่เลย
กล้องวงจรปิดตัวหน้าสุดที่ติดอยู่ทางเข้าของร้านได้บันทึกภาพเคลื่อนไหวไว้ได้อย่างชัดเจน ภาพของรถสีดำคันหนึ่งกำลังไล่เบียดและพยายามปาดหน้ารถของเธอมาตั้งแต่ระยะที่กล้องวงจรปิดจะสามารถจับภาพได้จนใกล้ถึงร้านของเขา
เมื่อรถของเธอขับมาด้วยความเร็วในระดับหนึ่งที่ดูเหมือนลดความเร็วลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น รถที่หักเลี้ยวเข้าคลับเขาทันทีที่ถึงทางเข้าเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายตั้งรับได้ทันจนทำให้รถของเธอส่ายเล็กน้อยราวกับเกือบคุมรถไม่อยู่ แต่ยังดีที่ไม่ได้เกิดเหตุร้ายแรงอะไรขึ้นทำให้เธอขับต่อไปก่อนจะมาจอดนิ่งอยู่ด้านข้างร้านของเขา
เขาย้อนกลับไปดูกล้องด้านหน้าอีกตัวที่หันไปอีกฝั่ง และได้เห็นรถคันนั้นเบรกกะทันหันก่อนจะถอยรถกลับมาและหาที่จอดรถแล้วรออยู่อย่างนั้น รอจนผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงสุดท้ายพวกมันก็ขับออกไปจากคลับ
ถือเป็นความโชคดีที่เขาบังเอิญได้เจอกับเธอตรงทางออกก่อน ไม่อย่างนั้นตอนที่เธอออกไปคงพอดีกับรถของพวกนั้นที่กำลังออกไปพอดี แล้วสภาพของเธอตอนนี้หากไม่ถูกพวกมันประชิดตัวได้ก็คงหนีจนเกิดอุบัติเหตุเป็นแน่
“เพราะแบบนี้ไง เฮียถึงต้องให้มีนอยู่กับเฮีย” เวย์ไทม์ พูดกับตัวเองขึ้นหลังจากได้เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอ เรื่องที่เขาพอรู้มาบ้างแต่ยังไม่เคยถึงขั้นรุนแรงแบบนี้
แต่ดูท่าแล้วหลังจากนี้เขาคงปล่อยไปไม่ได้จริง ๆ เขาคงยอมไม่ได้ที่จะให้เธอเผชิญหน้ากับอันตรายแบบนี้อีก
ช่วงสายวันใหม่ได้ปลุกให้มีนารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพร้อมกับความหนักอึ้งที่หัว เธอยกมือขึ้นคลึงขมับตัวเองก่อนจะลืมตาขึ้นช้า ๆ และเห็นความมืดสลัวภายในห้องที่แสงไม่สามารถลอดผ่านเข้ามาได้
เธอประคองตัวเองลุกขึ้นนั่งและพยายามทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน และในที่สุดความทรงจำเมื่อคืนก็ย้อนกลับมาในหัวของเธอ และเพราะจำได้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนสัญชาตญาณของเธอก็จำได้ว่าโคมไฟในห้องอยู่มุมไหนทำให้เธอยื่นมือไปเปิดมันจนได้เจอกับความสว่างภายใน
ห้องของเขาจริง ๆ เมื่อคืนคนที่คุยกับเธอก็คือเขา เธอไม่ได้ฝันไปและไม่ใช่เพราะอาการหลอนจากความเมา
มีนาก้มสำรวจตัวเองก่อนจะเห็นว่าเธอใส่ชุดเดิมอยู่ เธอรีบก้าวลงจากเตียงหยิบกระเป๋าของตัวเองเพื่อออกจากที่นี่ไปอย่างไม่รอช้า
แกร็ก! ประตูห้องผลักเข้ามาหลังจากเธอพึ่งก้าวได้เพียงไม่กี่เท่านั้น เธอก้าวยังไม่ถึงประตูเลยด้วยซ้ำ
และนี่คือครั้งแรกที่เธอได้เผชิญหน้ากับเขาอีกครั้งในรอบหนึ่งปีกว่าที่ผ่านมา เขาที่เธอตัดขาดออกจากชีวิตทุกทางไม่คิดจะรับรู้หรือยุ่งเกี่ยวอะไรด้วยอีกเลยแม้แต่ชื่อ
แต่ตอนนี้เขากลับมาแล้ว กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเธอตัวเป็น ๆ กลับมาพูดคุยกับเขาและยังใกล้ชิดกับเขาอย่างแนบชิด
“ปวดหัวไหม” เป็นเวย์ไทม์ทำลายความเงียบด้วยการถามเธอขึ้น
“...” มีนาที่ได้ยินเสียงของเขาก็ได้สติกลับมาอีกครั้ง และสติของเธอก็ทำให้เธอเลือกจะก้าวต่อไปข้างหน้า แม้ว่าการก้าวนี้จะทำให้เธอต้องใกล้เขามากขึ้นแต่มันก็ทำให้เธอสามารถออกห่างเขาได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน
“มีน” ทันทีที่เธอกำลังจะผ่านเขาไปฝ่ามือใหญ่ก็รั้งแขนของเธอไว้พร้อมกับเรียกเธอขึ้น
“ขอร้อง ช่วยต่างคนต่างอยู่เหมือนที่ผ่านมาเถอะ” เธอจำได้ว่าเมื่อคืนเขาพูดอะไรกับเธอ เขาบอกให้เธออยู่กับเขา เพราะงั้นตอนนี้เธอถึงได้หันไปบอกเขาแบบนี้ บอกให้เขาต่างคนต่างอยู่กับเธอเหมือนกับอดีตที่ผ่านมาเป็นปี
“ต่างคนต่างอยู่แล้วจะทำยังไง ตอนนี้มีนกำลังเจอเรื่องอะไรอยู่ไม่รู้หรือไง” เขาย้อนถามให้เธอถึงปัญหาของเธอ
“นั่นมันเรื่องของมีน ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพี่เลย” เรื่องของเธอและเขาก็เป็นแค่พี่ตามอายุที่มากกว่า ไม่มีอีกแล้วเฮียที่เธอเคยเรียกแม้ว่าเขาจะแทนตัวเองเหมือนเดิมก็ตาม
“...” เพราะมันถูกอย่างที่สุดเลยทำให้เขาพูดไม่ออก เรื่องของเธอมันไม่ได้เกี่ยวกับเขา เขาไม่ได้มีสิทธิ์อะไรในตัวและชีวิตของเธอ
แต่ให้ทำยังไงได้ในเมื่อเขาหยุดไม่ได้ ในเมื่อเขาเป็นห่วงเธอ
“รู้ใช่ไหมว่าสิ่งที่เผชิญหน้าอยู่มันอันตรายแค่ไหน” เขาเตือนเธอให้รู้ถึงความน่ากลัวพวกนี้
“รู้ แต่ต่อให้อันตรายถึงชีวิตมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับพี่ แล้วก็ไม่ใช่ธุระของพี่ที่จะต้องมายุ่งหรือปกป้องมีน” อยู่กับเขาเพื่อความปลอดภัยความหมายของเขาก็คือจะปกป้องเธอ
เธอไม่ต้องการ
“เฮียรู้ว่าเราเกลียดเฮีย แต่วางเรื่องพวกนี้ไว้ก่อนได้ไหม รอเราสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เหมือนเดิมเฮียจะไม่ยุ่งกับเราก็ได้” ถึงตอนนั้นถ้าเธอไล่เขาก็จะไปอย่างไม่มีข้อแม้เลย
“เราไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันเลยสักทางไม่ว่าจะอดีตหรือปัจจุบัน เพราะฉะนั้นพี่ไม่จำเป็นต้องสนใจหรือช่วยเหลืออะไรมีน ไม่ต้องสักอย่าง” เธอบอกเขาออกไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ย้ำเตือนว่าเขาและเธอไม่ได้เป็นอะไรกันเลยทั้งตอนนี้ และเมื่อก่อน
“...” เวย์ไทม์ที่ถูกย้ำทำไมจะไม่รู้ว่าเธอกำลังตอกย้ำสิ่งที่เขาเคยทำกับเธอ แล้วแบบนี้เขาจะกล้าพูดอะไรต่อ
“...” มีนาบิดมือออกจากมือของเขาอย่างไม่ต้องการพูดอะไรต่อ ครั้งนี้เขายอมปล่อยมือเธอทำให้เธอสามารถเดินออกจากที่แห่งนี้ไปได้ เดินออกไปอย่างไม่หันหลังกลับไปมองด้านหลังเลยแม้แต่น้อย
และมันก็จะเป็นแบบนี้ต่อไป ต่างคนต่างมีชีวิตเป็นของตัวเอง
