อยู่ไปเดี๋ยวก็รักกัน....
" ห๊ะ.. อะไรนะคะ? แต่งงาน!!!" ถามว่าเธอดีใจไหม.. ตอบเลยว่าดีใจมาก แต่อีกใจนึงเธอก็กังวลนะ.. เธอไม่รู้หรอกว่าพี่โยจะคิดยังไง.. เธอกลัวว่าพี่โยจะเข้าใจผิดคิดว่าเธอน่ะเป็นคนรบเร้าแต่งงานกับเขาทั้งที่เธอเองก็พึ่งจะรู้เอง..
" แค่เตรียมตัวให้พร้อมก็พอ.. เรื่องอื่นปู่จัดการเอง.. โบตั๋นจะได้เป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดในโลก... ไปๆ ไปนอนได้แล้ว" ปรัชญ์มาบอกข่าวให้กับหลานสาวฟังทันทีที่เพื่อนของเขาตอบตกลง.. ถึงแม้ว่าการแต่งงานครั้งนี้จะทำให้ลูกสะใภ้ของเขาไม่ค่อยพอใจนักแต่ก็ไม่มีสิทธิ์คัดค้าน...
ก๊อกๆๆ
" ค๊า...." โบตั๋นวิ่งมาที่ประตูพร้อมกับเปิดมันออกมาทันที..
" ค่ะคุณแม่.. มาหาหนูแบบนี้.. มีอะไรรึเปล่าคะคนสวยของหนู..."
" เข้าไปคุยกันข้างในดีกว่าไป.. " วิลาสินีจูงมือลูกสาวสุดที่รักของตนเองเข้าไปยังด้านในทันที....
" นั่งลงคุยกับแม่หน่อย..." วิลาสินีตบลงไปที่เตียงกว้างนุ่มนิ่มของลูกสาวทันที...
" มีอะไรรึเปล่าคะคุณแม่... ทำไมทำหน้าเครียดแบบนี้.." ดูสิคิ้วจะผูกกันเป็นโบว์อยู่แล้วเนี่ย..
" หนูคิดดีแล้วเหรอลูก.. แม่ไม่เห็นด้วยเลยที่คุณปู่จะให้หนูแต่งงานกับคนบ้านนู้น... " ใช่เธอไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง.. ทำไมต้องให้ลูกสาวสุดที่รักของเธอแต่งงานกับคนบ้านนู้นด้วย.. ถ้าทำแบบนั้นแล้วคนบ้านนั้นจะคิดว่ายังไง... คิดว่าพวกเราขายลูกรึเปล่า... ถึงแม้ว่าสถานการณ์มันจะไม่ใช่อย่างนั้นแต่ถึงอย่างไรการที่ลูกสาวของเธอแต่งงานเพราะธุรกิจคนอื่นจะต้องมองลูกสาวของเธอไม่ดีแน่นอน..
" โธ่.. คุณแม่ขา... หนูยินดีค่ะ หนูชอบพี่โยมาตลอด.. เรื่องนั้นคุณแม่ก็รู้.. ที่หนูไม่มีใครเพราะหนูรักและชอบพี่โยคนเดียว.. มันจะดีมากถ้าหนูได้แต่งงานกับคนที่หนูชอบ.. ขอแค่สักครั้งในชีวิตก็พอนะคะคุณแม่... หนูอยากทำความฝันของหนูให้เป็นจริง..." อันที่จริงเธอก็มีเรื่องให้คิดหลายเรื่องเหมือนกัน.. แต่เธอก็ไม่อยากให้แม่ของเธอคิดมากยังไงล่ะ...
" แล้วบ้านนู้นเขารักหนูรึเปล่า?" น้ำเสียงที่เธอใช้พูดออกไปมันออกเป็นโทนเสียงที่บ่งบอกว่าเธอไม่ค่อยพอใจนักที่ได้ยินลูกสาวตอบแบบนั้น.. เด็กบ้านี่จะมาบอกตามความฝันทำตามความฝันบ้าบออะไรเล่า.. มันน่านัก น่าตีให้ก้นลายจริงๆ..
" อยู่ๆไปเดี๋ยวกรักกันเองล่ะค่ะคุณแม่.. ไม่เอาค่ะไม่ต้องคิดมาก ดูสิหน้าผากริ้วรอยขึ้นแล้วนะคะ.. ไปค่ะไปนอนได้แล้ว.. หรือว่าคุณแม่อยากนอนกับหนูคะ.. หนูไม่ติดนะแต่คุณพ่อนี่สิ.. จะติดรึเปล่าน๊า.. คืนนี้ไม่ได้นอนกอดนอนหอมคุณแม่..."
เพี๊ยะ!!
" ทะลึ่ง.. " วิลาสินีถึงกับต้องส่งค้อนวงใหญ่ให้กับลูกสาวของตนเองทันที.. เด็กบ้านี่ทะลึ่งตึงตังเสียจริงแล้วทะลึ่งได้ใครน่ะเหรอ? ไม่ต้องถามเลย.. ได้พ่อน่ะสิ.. สองคนพ่อลูกนี่บางทีเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตกลงเธอได้ลูกสาวหรือลูกชาย.. หรือบางทีเธออาจะได้ลูกที่เป็นผู้ชายแปลงเพศก็ได้..
คิกๆๆ ฟอด...
"หลับฝันดีนะคะคุณแม่.."
~~~~
โรงแรมหรูกลางใจเมืองถูกตกแต่งออกมาอย่างสวยงาม.. ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างพากันตบเท้าเข้ามาในงานแต่งงานของสองตระกูลใหญ่... ฝ่ายหญิงเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าชั้นนำในประเทศ ฝ่ายชายก็มีธุรกิจโรงแรมแทบจะทุกจังหวัด.. ดังนั้นจึงมีคนมากหน้าหลายตาให้ความสนใจและก็มาร่วมแสดงความยินดีกันเป็นอย่างมาก...
เจ้าบ่าวที่แสดงสีหน้าออกมาด้วยความไม่พอใจไม่ว่าใครที่ได้เห็นก็ต้องมึนงงกับอาการนั้นเป็นอย่างมาก.. ผู้หลักผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายต่างมีสีหน้าที่ยิ้มแย้ม.. และเจ้าสาวเองก็มีรอยยิ้มที่สวยพริ้มราวกับนางฟ้านางสวรรค์ขนาดนั้น.. เหตุไฉนเจ้าบ่าวถึงมีสีหน้าเช่นนั้นได้...
" เจ้าโย.. ถ้าแกยังทำหนังหน้าแบบนั้นอยู่.. ฉันขอเตือนแกนะว่าฉันจะหาคนอื่นมาทำงานแทนแก.. และแกก็ไม่หางานที่อื่นทำเอา.. ฉันไม่ชอบ.. แกควรสำนึกบุญคุณบ้านนั้นเขาให้มาก..." ยศพลถึงกับต้องออกคำสั่งให้ไอ้ตัวดีของบ้านเขาทำหน้าให้มันดีๆหน่อย.. เขาไม่ชอบใจเอามากๆเลยเขาน่ะสงสารหนูโบตั๋นมากๆที่จะต้องมายิ้มปั้นหน้าใส่ไอ้ตัวดีของบ้าน..ถ้าเขามีหลานชายอีกคนล่ะก็.. เขาไม่ง้อมันหรอ..
วิลาสินีถึงกับหน้างอเพราะว่าที่สามีของลูกสาวชักสีหน้าและแสดงท่าทีที่ใครๆก็รู้ว่าไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับลูกสาวของเธอ...
เมื่อพิธีการผ่านพ้นไปถึงเวลาที่จะต้องส่งตัวเจ้าสาวแล้วผู้หลักผู้ใหญ่ของทั้งสองบ้านก็ต่างพากันขึ้นมาอวยพรให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุข หนักเอาเบาสู้มีอะไรก็ค่อยๆพูดค่อยๆจากัน.. ฟังให้มากกว่าพูด.. พูดในสิ่งที่จำเป็น..เมื่อคนนึงเป็นไฟอีกคนก็ต้องเป็นน้ำ.. อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว.. แล้วที่สำคัญ.. คุณปู่ของทั้งสองบ้านอยากมีทายาทตัวเล็กๆแล้ว..
ในที่สุดทุกคนก็ออกไปและภายในห้องหอของบ่าวสาวก็เงียบสงัดเพราะไม่มีเสียงของใครสักคนที่เอ่ยพูดอะไรออกมาทั้งนั้น..
ในใจของโบตั๋นดีใจเป็นอย่างมากเพราะในที่สุดเธอก็ได้พบกับความสุขของชีวิตแล้ว.. จบแบบ Happy Ending แบบนี้สินิยายมันถึงจะสนุก
" เอ่อ... พี่โยคะ ช่วยโบตั๋นหน่อยจะได้ไหมคะ.. คือว่าโบตั๋นอยากอาบน้ำ.. แล้วโบตั๋นรูดซิปไม่ถึง..." ถึงแม้ว่าเธอจะกลัวเขาอยู่บ้างแต่ก็คนมันรูดไม่ถึงนี่นา.. จะให้เธอนอนทั้งชุดเจ้าสาวก็ใช่เรื่องไหม...
" น่ารำคาญ.. และฉันจะบอกเธอเอาไว้อย่างนะ.. อย่าคิดว่าเธอแต่งงานกับฉันแล้วฉันจะรักเธอ.. ไม่มีทาง.. ไม่ว่าวันนี้ พรุ่งนี้หรือวันไหนๆ.. ที่สำคัญ.. ห้ามมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของฉัน.." ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยพอใจนักกับงานแต่งงานทุเรศๆนี้.. แต่เขาก็เป็นคนดีพอที่จะช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก..
" แหม.. รีบตอบจังเลยนะคะ.. ดูกันไปก่อนก็ได้.. พี่โยลองเปิดใจให้โบตั๋นสักนิดไม่ได้เหรอ? เอาเป็นว่าอยู่ๆไปเดี๋ยวก็รักกันเอง.. จริงไหมคะ โบตั๋นไม่รีบ.. เรายังมีเวลาเรียนรู้ซึ่งกันและกันอีกนาน..." มีเหรอเธอจะยอม.. ถึงแม้ว่ามันจะทำให้เธอเจ็บจี๊ดนิดๆแต่เธอก็พร้อมสู้.. ก็ชอบเขาไปแล้วนิ รักเลยล่ะไม่ใช่แค่ชอบ.. เธอหวังว่าสักวันพี่โยต้องรักเธอบ้างล่ะ เธอออกจะน่ารักขนาดนี้.. ใครไม่ตกหลุมรักเธอก็บ้าแล้ว...
" หึ.. ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่หน้าด้านหน้าทนแบบนี้มาก่อน.. ฉันพึ่งเป็นเธอเป็นคนแรก.. แปลกแต่จริง.." พูดจบเขาก็ลุกเดินออกไปยืนที่ระเบียงห้องหอพร้อมกับหยิบมือถือของเขาออกมา..
โบตั๋นที่ตอนแรกก่ะว่าจะไม่สนใจหรอกว่าเขาทำอะไรแต่เพียงแค่เธอเดินผ่านระเบียงไปเพื่อจะไปเข้าห้องน้ำ.. เธอก็ได้ยินเสียงของพี่โยคุยกับผู้หญิงคนนั้น.. น้ำเสียงที่นุ่มนวลราวกับปุยนุ่น.. มันเป็นน้ำเสียงที่เขามักจะใช้กับผู้หญิงคนนั้น.. และสิ่งที่เธอได้ยินออกมามันก็ทำให้เธอถึงกับหน้าชา...
"น้ำฝนอดทนรออีกนิดนะครับพี่สัญญาว่าพี่จะรีบฟื้นฟูธุรกิจของโรงแรมให้เร็วที่สุด.. เมื่อไรที่พี่จัดการหนี้สินที่คุณปู่ไปเอาจากคนพวกนั้นมาจนหมดพี่จะรีบหย่าและเราจะแต่งงานกันทันที... รักนะครับเด็กดีของพี่.. ไม่ร้องนะครับ.. ครับ... คิดถึงเหมือนกันครับ..."
โบตั๋นได้แต่เม้มปากของตนเองเอาไว้.. เธอไม่คิดว่านอกจากเขาจะเย็นชากับเธอแล้ว.. เขายังทำร้ายจิตใจของเธอตั้งแต่วันแรกที่ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน.. แล้วแบบนี้เธอจะไหวไหมนะ.. ไม่ได้ๆ ห้ามคิดๆ เธอต้องทำได้โบตั๋น.. เธอต้องทำได้...
