บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 ชีวิตใหม่

วันนี้อชิรญาตั้งใจตื่นแต่เช้าเพื่อตักบาตรให้กับมารดาผู้ล่วงลับ หลังจากที่เดินทางกลับบ้านในวันนั้น เธอก็ได้รับโทรศัพท์จากทางโรงพยาบาลว่าผู้ให้กำเนิดได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ การสูญเสียคนที่รักที่สุดในชีวิตภายในเวลาเดียวกัน นับเป็นความเสียใจที่ถาโถมเข้าหาสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง แต่เหตุการณ์ดังกล่าวกลับเป็นบทเรียนสอนให้เธอเข้มแข็งได้อย่างรวดเร็ว ชีวิตที่เหลือหลังจากนี้คือบุตรชายที่เปรียบดั่งน้ำทิพย์คอยชโลมจิตใจ สิ่งที่ทำให้อชิรญารู้สึกเสียใจมากที่สุดก็คือเธอไม่มีโอกาสได้บอกมารดาว่ากำลังจะมีหลานที่น่ารักให้ท่าน แต่ตอนนี้ท่านคงรับรู้แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ก็เชื่อว่าท่านคอยปกป้องเธอและลูกชายเสมอ หญิงสาวเข้าใจแล้วว่าความรักของแม่นั้นยิ่งใหญ่มากแค่ไหน

"แม่อาย นายเที่ยวๆ" ร่างเล็กของเด็กชายวัยสามขวบตรงเข้ามาออดอ้อนผู้ให้กำเนิด เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูในสายตาของคนเป็นแม่เหลือเกิน

"รอน้าปริมมานะครับลูก แม่อายต้องขายของก่อน" อชิรญาอุ้มร่างหนูน้อยเข้ามาในอ้อมกอดพร้อมกับบรรจงหอมพวงแก้มใสด้วยความรัก เด็กชายนนวัฒน์ ธีรอนันต์หรือน้องนาย บุตรชายคนเดียวที่มีใบหน้าและดวงตาถอดแบบมาจากบิดา จะมีก็เพียงริมฝีปากที่เหมือนผู้เป็นมารดา จะเหมือนเธอไม่ว่า ขอแค่อย่าติดนิสัยผู้ชายใจร้ายแบบนั้นมาก็พอ นับตั้งแต่วันที่ถูกผลักไสออกมาจากชีวิตก็แทบจะไม่เคยติดตามข่าวสารของอีกฝ่ายเลยนอกจากหน้าหนังสือพิมพ์บันเทิงกับภาพซุบซิบที่ควงคู่กับผู้หญิงคนใหม่ภายในสนามบิน และเธอเองก็ไม่เคยคิดอยากรับรู้อะไรเกี่ยวกับเขาอีกนอกจากตั้งใจเลี้ยงลูกที่เกิดจากความรักของตนให้ดีที่สุด

อชิรญาตัดสินใจลาออกจากงานประจำและนำเงินก้อนสุดท้ายจากผู้ชายใจร้ายทั้งหมดมาลงทุนเปิดร้านมินิมาร์ทเล็กๆ ภายในบ้านที่อาศัยอยู่ ถึงแม้ว่าจะไม่ร่ำรวยแต่ก็ทำให้เธอและลูกสามารถประคับประคองชีวิตมาได้จนถึงทุกวันนี้

"ปิมฉวยย นายเที่ยวน้า" ทันทีที่หนูน้อยหันไปเห็นเพื่อนสนิทของมารดาเดินเข้ามาก็ส่งเสียงร้องทักทายอย่างยินดีเพราะคิดว่าตนจะได้ออกไปเที่ยวนอกบ้าน

"ปากหวานจริงๆ นะเรา เหมือนพ่อไม่มีผิดเลย โตมาอย่าเจ้าชู้เหมือนพ่อล่ะครับ" ศิวาพรหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดูก่อนจะเดินตรงเข้าไปสวมกอดร่างเล็กแล้วหอมแก้มซ้ายขวาฟอดใหญ่ โดยไม่ทันได้คิดว่ากำลังพูดในสิ่งที่ไม่สมควรออกไป กระทั่งเห็นใบหน้าซีดเซียวของเพื่อนก็ทำเอาแทบอยากจะตีปากตัวเองเหลือเกินที่พูดจาพล่อยๆ แบบนั้นออกไป

"อาย ฉันขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจอ่ะ แกอย่าโกรธนะ"

"ฉันไม่โกรธหรอก ก็หลานแกเป็นแบบนั้นจริงๆ นี่" คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเผยรอยยิ้มออกไปให้เพื่อนสบายใจ เธอเองก็แอบคิดอยู่เหมือนกันว่านอกจากหน้าตาแล้วลูกชายของเธอยังหยิบเอานิสัยของผู้เป็นบิดามาอย่างไม่ผิดเพี้ยน ชนิดที่ว่าเชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ

“ว่าแต่หลานฉันอยากไปเที่ยว แล้วแกล่ะจะว่าไง” ศิวาพรถามเพราะรู้ดีว่าคนตรงหน้าแทบจะไม่มีเวลาออกไปไหนเลย

“ถามเจ้าตัวดูเองสิ บอกฉันว่าจะเที่ยวๆ ทั้งวัน" นอกจากติดผู้เป็นแม่แล้วหนูน้อยยังติดคุณน้าคนสวยยิ่งกว่าอะไร อาจจะเป็นเพราะว่าตั้งแต่เกิดมาเจ้าตัวเห็นหน้าเธอและเพื่อนของเธอมากกว่าใครๆ

“ว่าไงครับ ตกลงสุดหล่อของน้าจะไปเที่ยวกับน้าหรือเปล่าเอ่ย?”

“ปายฮับบ ปิมไปด้วย” น้ำเสียงไร้เดียงสาตอบกลับด้วยความดีใจที่รับรู้ว่าจะได้ออกไปเที่ยวนอกบ้าน

“งั้นเราไปอาบน้ำกันดีกว่านะ เดี๋ยวน้าปริมพาไป” สิ้นเสียงร่างบางของคุณน้าคนสวยก็จูงมือป้อมเล็กของผู้เป็นหลานชายเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวหล่อๆ ท่ามกลางสายตาคุณแม่ที่มองตามร่างทั้งคู่ไป พลันน้ำตาแห่งความอ่อนแอกลับไหลลงมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ไม่มีทาง เธอจะไม่มีวันคิดถึงผู้ชายใจร้ายคนนั้น หญิงสาวพยายามบอกกับตัวเองและลุกขึ้นหาอะไรทำเพื่อลืมทันที แม้รู้ดีว่ายากแค่ไหนแต่เธอก็สัญญากับตัวเองแล้วว่าจะไม่มีวันหันหลังกลับไปหาอดีตที่โหดร้ายนั่นอีกตลอดชีวิต

“อาย...อาย” ศิวาพรเรียกเพื่อนสนิทที่กำลังนั่งเหม่อลอยและไม่มีท่าทีว่าจะขานรับเสียงเรียกของตน ร้อนถึงหนูน้อยต้องเดินเข้าไปช่วยผู้เป็นน้าอีกแรง

“แม่อายฮับ...แม่อาย”

“จ๋าลูก” คนที่เพิ่งตื่นจากภวังค์ความคิดหันไปตอบลูกชายเสียงหวาน

“ฉันเรียกแกตั้งนานแล้วนะอาย มัวคิดอะไรอยู่” เจ้าของร่างบางเท้าสะเอวถามอย่างเอาเรื่อง ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดถึงใคร เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เห็นว่าเพื่อนมีอาการแบบนี้

“ปะ...เปล่า ฉันก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยนะ ฉันว่าจะออกไปกับแกด้วย เพิ่งนึกได้ว่าของใช้หมดพอดี” อชิรญารีบส่งยิ้มกลบเกลื่อนและเปลี่ยนเรื่องทันที

“ก็แล้วไป อย่าให้รู้นะว่าแกคิดถึงใคร” ศิวาพรทำเสียงคาดโทษกลายๆ

“ฉันไม่ได้คิดถึงเขาหรอกน่า แกรอก่อนนะ ฉันปิดร้านแป๊บเดียว” หญิงสาวรีบเดินไปปิดประตูร้านอีกฝั่งก่อนจะเดินกลับมาอีกครั้งเพื่อปิดประตูบานเล็กๆ หลังจากที่เห็นว่าเพื่อนและลูกชายเดินออกไปรอด้านนอกแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel