บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 เมื่อรักแปรเปลี่ยน

สามเดือนต่อมา ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ร่างเพรียวระหงของนางแบบสาวเบอร์หนึ่งของวงการเดินควงคู่มากับนักธุรกิจหนุ่มที่ใครๆ ต่างคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี ความโดดเด่นและความหวานของทั้งคู่ไม่อาจรอดพ้นสายตาของผู้คนแถวนั้น โดยเฉพาะปาปารัสซีที่จำต้องอัปเดตข่าวคราวในวงการบันเทิงถึงกับหยิบกล้องคู่ใจขึ้นมากดชัตเตอร์ชนิดที่ว่ารัวไม่ยั้ง ซ้ำยังบ่นพึมพำอยู่คนเดียวกับท่าทางสนิทสนมอย่างออกนอกหน้าของหนุ่มหล่อสาวสวยคนดัง

'ข่าวล่าสุดแบบสดๆ ร้อนๆ เลยจ้า นางแบบสาวไฟแรงคู่ควงคนล่าสุดของนักธุรกิจหนุ่มหล่อ อย่างนี้ต้องรีบกลับออฟฟิศด่วนซะแล้ว' นักข่าวสาวปริศนาเดินออกมาพร้อมกับข่าวใหม่ของตนเองที่การันตีได้ว่าถ้าขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์สายบันเทิงเมื่อไหร่ ต้องเป็นที่ฮือฮาแน่ๆ

"กานต์ขา เคทหิวมากเลยค่ะ เราแวะหาอะไรทานกันก่อนนะคะ"

"ได้สิครับ ผมเองก็หิวเหมือนกัน" กันต์ธรตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มและไม่ลืมที่จะเอื้อมมือมาโอบรอบเอวคอดเอาไว้อย่างหวงแหนราวกับลืมไปแล้วว่ายังมีผู้หญิงอีกคนที่เฝ้านับรอวันการกลับของเขาอยู่เสมอ

ภายในร้านอาหารหรูที่กันต์ธรเลือกพาคู่ควงของตนเองมาสัมผัสกับบรรยากาศที่เคล้าคลอไปด้วยเสียงเพลงบวกกับสถานที่ที่มีความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะคู่รักที่ทางร้านเอาใจลูกค้าโดยการเนรมิตห้องอาหารสำหรับสองคนชนิดที่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปรบกวน

"คุณอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคนสวยของผม"

"แหม...ปากหวานจังนะคะ เคททานอะไรก็ได้ค่ะ" นางแบบสาวสวยตอบด้วยรอยยิ้มเอียงอาย งัดทุกจริตจกร้านที่มีออกมาใช้

"งั้นเอาซี่โครงหมูราดซอส พอร์คช็อป สลัดผัดแล้วก็สเต็กปลาแมคคาเรลอย่างละที่นะ น้ำส้มคั้นสองแก้ว" ชายหนุ่มสั่งเมนูที่ต้องการเสร็จก็ส่งยิ้มหวานให้หญิงสาวตรงหน้า

"สั่งมาเยอะขนาดนั้นทานหมดเหรอคะกานต์ ตอนนี้เคทไดเอตอยู่นะคะ"

"ไม่เห็นต้องลดเลยครับ ยังไงคุณก็สวยในสายตาผมเสมอ" ดวงตาคมเข้มจ้องลึกเข้าไปจนนางแบบสาวเอื้อมมือมาตีลงบนท่อนแขนกำยำเป็นการกลบเกลื่อนอาการเขินอายพร้อมกับส่งเสียงต่อว่าชายหนุ่มอย่างไม่จริงจังนัก

"กานต์น่ะ บ้าจริง"

"บ้าแล้วรักไหมล่ะครับ" กันต์ธรถามเสียงหวาน นับตั้งแต่เจอกับผู้หญิงตรงหน้าบนเครื่องวันนั้น เขาก็มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับเธอมากขึ้นจนกระทั่งก่อเกิดเป็นความสัมพันธ์ลึกซึ้ง ความขี้อ้อนและนิสัยที่เข้ากันได้ดีคือสิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มมั่นใจว่าเธอเหมาะสมที่จะเคียงข้างเขาไปตลอดชีวิต

"รักจะแย่แล้ว ไม่รู้อีกหรือไง" นางแบบสาวย่นจมูกใส่ด้วยความหมั่นไส้กับความหลงตัวเองของคนตรงหน้า

"ผมก็เหมือนกัน"

"ให้จริงเถอะค่ะ กลัวว่าจะมีสาวๆ มาทวงสิทธิ์เข้าสักวัน" มัชฌิมาต่อว่าด้วยท่าทางและน้ำเสียงงอนๆ แต่ทำเอาชายหนุ่มถึงกับอึ้งไปจนเธออดถามออกไปไม่ได้

"เป็นอะไรคะกานต์ คุณมีเรื่องไม่สบายใจหรือเปล่า"

"ไม่มีอะไรหรอกครับ รีบทานเถอะ ผมจะได้พาคุณไปเจอคุณแม่" กันต์ธรส่งยิ้มให้และรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีที่เห็นว่าพนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟตรงหน้าพอดี คำพูดเมื่อครู่ทำให้เขาหวนนึกถึงหญิงสาวอีกคน คนที่รอเขามาตลอด แต่บัดนี้ชายหนุ่มกลับคิดว่าผู้หญิงตรงหน้าเหมาะสมกับเขามากที่สุด ทั้งฐานะและหน้าที่การงานเพราะสุดท้ายแล้วต่อให้เขาถูกใจผู้หญิงอ่อนหวานอย่างอชิรญามากแค่ไหน เธอก็คงไม่เหมาะและคงไม่มีใครเห็นด้วย โดยเฉพาะมารดาของเขาที่แสดงออกว่าไม่ชอบและไม่คิดจะยอมรับอย่างชัดเจน

เช้าวันเสาร์วันหยุดสุดสัปดาห์ของใครหลายๆ คน รวมทั้งอชิรญาที่ตื่นนอนแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปเยี่ยมผู้ให้กำเนิดที่โรงพยาบาล สามเดือนมานี้เธอแทบจะไม่ได้ติดต่อกับคนที่อยู่ไกลแสนไกลด้วยเพราะอาการป่วยของมารดาที่ทรุดหนักลงและไร้อาการตอบสนอง มีเพียงความเงียบในยามที่ชวนท่านพูดคุย หลายครั้งที่รู้สึกท้อแต่ก็ไม่กล้าพอที่จะโทรไปรบกวนคนที่ได้ชื่อว่าคอยเคียงข้างมาตลอด เนื่องจากกลัวว่าจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่สบายใจไปด้วย หญิงสาวจึงได้แต่เก็บเรื่องนี้ไว้เพียงลำพัง

อชิรญากลับออกมาจากโรงพยาบาลทั้งๆ ที่เพิ่งมาถึงไม่นาน หลังจากเดินเข้าไปดูอาการของมารดาแล้วเห็นแพทย์ประจำคนไข้ซึ่งคอยดูแลอย่างใกล้ชิดมีสีหน้าเคร่งเครียดผิดปกติ พอเดินเข้าไปสอบถามอาการก็ได้แต่แจ้งว่าให้งดเยี่ยมสักสองสามวันเพราะเกรงว่าคนไข้จะติดเชื้อ หญิงสาวจึงได้แต่พยักหน้ารับตามคำสั่งของแพทย์ หลังออกมาจากโรงพยาบาลจึงตั้งใจว่าจะเดินทางไปหาเพื่อนสนิทที่บ้านก่อน

"อาย...มาไงเนี่ย ไหนแกว่าจะไปเยี่ยมแม่" ศิวาพรทักหลังจากได้ยินเสียงกริ่งหน้าบ้าน พอเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทก็อดแปลกใจไม่ได้

"หมอให้งดเยี่ยมน่ะปริม พักนี้แม่อาการไม่ดีเลย ฉันกลัว" อชิรญาบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

"ใจเย็นๆ ก่อนนะอาย แกเข้ามารอฉันในบ้านสิบนาที แล้วเดี๋ยวเราออกไปห้างฯกัน" ศิวาพรปลอบใจเพื่อนและชวนออกไปข้างนอกหวังให้อีกฝ่ายลืมความทุกข์ใจได้บ้าง ไหนจะเรื่องที่แม่ป่วยและเรื่องที่เพิ่งรับรู้ว่ากำลังจะกลายเป็นแม่คน สำหรับลูกผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งเธอก็มองว่ามันเป็นปัญหาที่หนักอยู่ไม่น้อย

"อืม" อชิรญาพยักหน้าพร้อมกับเดินเข้ามาภายในรั้วบ้านที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้นานาชนิด เพื่อนสนิทนั้นชอบปลูกต้นไม้มากจึงทำให้บ้านดูร่มรื่นน่าอยู่

"เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวฉันไปเอารถก่อน" พอเห็นว่าเพื่อนเดินไปที่รถ ร่างบางจึงรีบลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูรั้วหน้าบ้านให้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel