บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 10

“เชอะ! คิดว่าหล่อตายล่ะ หล่อแล้วไง อย่านึกนะว่าฉันจะแพ้ทางคนหล่อ ไม่มีทางซะล่ะ ยังไงฉันก็จะต้องเปิดโปงเรื่องที่คุณปกปิดไว้ให้ได้ ไม่ต้องมาใช้ความหล่อมาล่อหลอกฉัน ฉันไม่มีทางยอมคุณแน่”

ปณาลีบ่นพึมพำอยู่คนเดียว หน้างอง้ำราวกับโกรธคนที่รบกวนความคิดของเธอตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงตอนนี้ เพราะรู้ตัวน่ะสิว่าไอ้ที่พูดออกมาทั้งหมดนั้นมันตรงกันข้ามกับสิ่งที่คิด ก็โรคประจำตัวของเธอที่รักษาเท่าไรก็ไม่หายขาดนั่นคือ ‘แพ้ทางคนหล่อ’ อยู่ใกล้ทีไรใจเต้นระส่ำทุกที แต่น่าแปลกที่เธอไม่เคยหลงรูปฝรั่งหล่อๆ สักครั้ง นอกเสียจากดาราฮอลลีวูดอย่าง ‘ออรันโด้ บูม’ เท่านั้น แต่ทำไมถึงสลัดไล่ใบหน้าหล่อเหลาขั้นเทพนั้นออกไปไม่ได้สักที หรือเพราะเธอกลัว... กลัวที่จะหลงเสน่ห์คนหล่อนั้นอย่างถอนตัวไม่ขึ้น

“ไม่มีทางที่ฉันจะกลัว ยังไงฉันก็จะไม่เปลี่ยนใจแน่ ต้องสืบให้รู้ก่อนที่พี่วิทิตจะลงมา ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้ไอ้พวกค้ามนุษย์ลอยนวลหรอก ถ้านายทำผิดจริงนายก็เตรียมถูกกักกันความหล่อได้เลย”

พูดพลางส่ายใบหน้าไปมา ไม่เคยคิดว่าจะหลอกใจตัวเองได้ขนาดนี้ แต่สิ่งที่สะท้อนอยู่ในหน้าอกขนาดกะทัดรัดถ้าไปเทียบกับแตงโมมหึมา ๒ ลูกนั่น มันกำลังเต้นตึกตักๆ ไปมา และถ้ามันพูดได้เธอก็คิดว่ามันคงร้องว่า ‘นายหัวไกรๆๆๆ’ ซ้ำๆ ไปมาแน่ และคืนนี้หากเธอหลับลงได้ก็คงไม่แคล้วว่าจะฝันถึงหนุ่มหล่อหน้าฝรั่งจ๋า แต่กลับแหลงภาษาใต้เสียจนกลิ่นสะตอกลิ่นทองแดงคละคลุ้งอยู่ในความฝันของเธอแน่

และทันทีที่ปณาลีข่มใจข่มความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองให้หลับตาลงได้ไม่นาน ห้องพักในรีสอร์ต ‘บุญโชคช่วย’ ก็ถูกบุกรุกโดยคนที่เธอไม่คาดคิด

เตียงนอนยวบไหวลงจนปณาลีรู้สึกได้ ดวงตาสวยหวานเบิกกว้างอยากจะร้องให้คนช่วย อยากจะดิ้นรนผลักหนีออกจากเรือนร่างแข็งแกร่งนี้ แต่ทั้งหมดนั้นทำได้แค่เพียงความคิด เมื่อริมฝีปากถูกปิดทาบด้วยฝ่ามืออุ่นจัด และเรือนร่างที่ไม่ได้สวมชั้นในก็ยังถูกทาบทับไปด้วยเนื้อตัวของเขาทั้งหมด มีเพียงดวงตากลมโตเท่านั้นที่เบิกกว้างมองดูผู้บุกรุกอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง เพราะในแสงสลัวของไฟตามด้านนอก เธอกลับมองเห็นใบหน้าของผู้บุกรุกได้เป็นอย่างดี

“สวัสดีครับ คุณปณาลี นักข่าวสาวไฟแรงของ ‘ข่าวสารบ้านเรา’ จุ๊ๆๆ อย่ามองผมแบบนั้นสิครับ ประทับใจกับการต้อนรับจนพูดไม่ออกเลยเหรอ หึหึหึ... แน่นอนว่าคุณจะพูดไม่ออกรวมทั้งร้องไม่ออกด้วย เพราะเสียงที่จะออกจากปากของคุณจะมีเพียงเสียง โอว... อา... อูย... เท่านั้น โอว... พอเหมาะมือซะด้วย”

ปณาลีสะท้านเฮือกเมื่อทรวงอกกะทัดรัดของเธอเข้าไปอยู่ในอุ้งมือของเขาได้อย่างพอเหมาะพอดี แม้จะพยายามดิ้นรนเท่าไรก็ดูราวเรี่ยวแรงจะหดหายไปจนเกลี้ยง เสียงกระเส่าสั่นของเขา เคล้าคลออยู่ข้างใบหู ก่อนจะนาบริมฝีปากและปลายจมูกที่ทำให้เธอรู้สึกไม่ต่างจากกำลังโดนไฟแผดเผาไปทุกส่วน เพราะเขากระหน่ำจูบร้อนๆ นั้นลงมา

เคราสากลากไล่สร้างความสยิวจนเธอต้องบิดกายดิ้นรนไม่หยุด แต่ความรู้สึกที่จู่โจมมันกลับทำให้เธอหมดแรงดิ้นหนี เขากำลังทำให้เธอไร้แรงต้านทานทุกอย่าง เมื่อฝ่ามือร้อนๆ ของเขานั้นไต่ระดับจากบนลงล่าง จากล่างขึ้นบน สัมผัสและจู่โจมร่างกายของเธอไปทุกที่ ไม่เว้นแม้แต่...

“หึหึ... ข้างในไม่ใส่อะไรซะด้วย ผมชอบจังไม่ต้องเสียเวลาถอด จุ๊จุ๊... ไม่ต้องพูดอะไร ผมกำลังจะให้คุณพิสูจน์ไงล่ะ ว่าผมน่ะบริสุทธิ์แค่ไหน เอ... หรือว่าผมจะพิสูจน์คุณดี”

ปณาลีเบิกดวงตากว้าง ริมฝีปากแห้งผากกระหายน้ำจนต้องแลบลิ้นออกมาเลียไล้ เมื่อคำพูดมากมายที่เธออยากจะพูดอยากจะร้องเหมือนจะจมหายอยู่แค่ที่ลำคอ อยากจะต่อต้าน อยากจะดิ้นรนให้พ้น อยากจะผลักไสใบหน้าหล่อเหลาและเคราสากนั้นออกจากตัว ทว่าเธอก็ไม่ได้ทำเลยสักอย่าง หนำซ้ำทรวงอกของเธอยังสะท้านแอ่นเข้าหาให้เขากอบโกยอย่างเต็มใจเสียด้วย

ยิ่งฝ่ามือร้อนๆ ลากขึ้นลงราวกับจะหยอกเย้าให้เธอสั่นไหว หยอกเย้าให้เธอพร้อมยอมทั้งกายทั้งใจให้กับเขา จนเสื้อผ้าปลิวปลิดออกจากเรือนร่างไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ตัว รวมทั้งร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นแข็งที่ไร้เสื้อผ้าไม่ต่างจากเด็กแรกเกิด ปณาลีก็ต้องหลับตาลงด้วยความสะท้าน

เธอไม่รับไม่รู้อะไรอีกแล้ว รู้แค่ว่ายิ่งกายกับกายเปล่าเปลือยมาเจอกัน เธอยิ่งร้อนรนจนจะสติแตก เมื่อริมฝีปากสีสดที่เธอเคยคิดว่าเขายิ้มเยาะนั้นก้มลงครอบครองปลายยอดสีชมพูของเธอ

“อา... นายหัวขา... อื้อ... เมี่ยงเสียว นายหัวขา...”

เขาไม่ตอบแต่กลับก้มลงดูดดุนปลายลิ้นลากไล้ไปมาบนยอดอกของเธอมากขึ้น ฝ่ามืออีกข้างก็กอบกุมเต้าอวบอิ่มพอดีตัวพลางบีบเคล้นไปมาอย่างกระตุ้นอารมณ์ ปณาลีปิดกายดิ้นรนเพราะความเสียวที่กระหน่ำเข้าหาร่างกายของเธอที่กำลังไล่ลงต่ำจนเธอต้องเปล่งเสียงออกมาเพื่อระบายความอัดอั้นจากริมฝีปาก ปลายลิ้น และฝ่ามือร้อนๆ ของเขา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel