บทที่ 2 แค่ชนหลังก็เป็นเรื่องใหญ่
“ฉันไม่ได้กลัวคุณเสียหน่อย”
แพรอัปสรพูดออกไปทั้ง ๆ ที่ร่างกายของเธอสั่นเทาจนชายหนุ่มสัมผัสได้จากฝ่ามือเล็กที่เขากอบกุมอยู่
“เอากระเป๋ามานี่” ชายหนุ่มกล่าวพร้อมกับดึงกระเป๋ามาจากไหล่บาง
“โอ้ย... คุณจะปล้นฉันหรือไงเอากระเป๋าฉันมานะ ไหนว่าไม่เอาเงินไง” หญิงสาวกล่าวพยายามยื้อแย่งกระเป๋าใบเล็กของเธอคืนมาแต่ก็ไม่สำเร็จ หนูอย่างเธอหรือจะชนะราชสีห์อย่างเขา
“นั่นคุณจะเอาบัตรและเอกสารของฉันไปไหน”
“เอาเป็นตัวประกันไงล่ะ เอานี่กระเป๋าเธอมีเงินนิดเดียวแค่นี้ยังกล้ากล่าวหาว่าฉันต้องการเงินเธออีกนะ ระดับฉันร้อยล้านยังกระจอก”
“ฉันไม่ได้รวยอย่างคุณนี่เมื่อไหร่ฉันจะได้เอกสารของฉันคืน”
“เมื่อผมหายคุณก็เป็นอิสระ เย็นนี้เจอกันที่โรงแรมเทอร์ราซซิโน่ ออ... ผมลืมบอกคุณไปผมชื่อ คาร์ลอส โอเคคนสวยอย่าสายล่ะผมไม่ชอบคนมาสายซะด้วย ไปบรูท”
“ครับนาย” บรูทตอบก่อนที่จะรีบวิ่งตามหลังเจ้านายไปอย่างรวดเร็ว
“คนบ้าใหญ่มาจากไหนเชียว เชอะ... อย่าให้เอาเอกสารคืนมาได้นะจะหนีหายหน้าไปเลย” สาวน้อยพูดบ่นตามหลังชายหนุ่มทั้งสองด้วยความหมั่นไส้ ก่อนที่เธอจะรีบเข้าไปในห้างเพื่อซื้อสินค้าอีกครั้งหลังจากที่โดนลากมาจนเกือบถึงลานจอดรถ
โรงแรมเทอร์ราซซิโน่ สาขาวอชิงตัน
เป็นตึกสูงนับร้อยชั้นสามตึกติดกันตกแต่งอย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าหรือภายในเรียกว่าเวอร์วังอลังการราวราชวังเลยทีเดียว พนักงานทุกคนที่จะผ่านเข้ามาทำงานต้องผ่านขั้นตอนอย่างมากมาย ไม่ใช่เพียงมีผลการเรียนที่ดีเท่านั้น แต่ต้องผ่านการทดสอบหลายขั้นตอนกว่าจะผ่าน แต่ก็คุ้มกับรายได้ผลตอบแทนที่เกินคาดเพราะที่นี่ให้มากกว่าที่อื่นถึงสองเท่า
“บรูท นี่ยัยเด็กตุ๊กตากระเบื้องยังไม่มาอีกเหรอ นี่มันกี่ทุ่มแล้ว”
“เออ... สามทุ่มกว่าแล้วครับ แฮ่... ผมว่าเจ้านายจีบสาวมุกนี้ไม่เกินไปหน่อยเหรอครับ”
“ฉันไม่ได้จีบใครเสียหน่อยนายอย่ามาเดามั่ว”
“ที่เธอไม่มาเพราะเธอคงรู้ว่าเจ้านายไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่เจ้านายพูดไป หลอกเด็กสามขวบเด็กยังไม่เชื่อเลยครับ”
“แกหาว่าฉันโง่หรือไงฮะบรูท” คาร์ลอสกล่าวด้วยสีหน้าที่ถมึงทึงโมโหเสียงคมเข้มดุเอาการ แต่บรูทชินเสียแล้วกับอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ของเจ้านาย
“เปล่าครับเปล่า ผมแค่สันนิฐานเฉย ๆ ครับ ใครจะไปกล้าว่าคุณคาร์ลอสโง่ล่ะครับ นั่นเท่ากับคิดฆ่าตัวตายชัด ๆ“
“นายรู้ตัวก็ดี ส่วนยัยเด็กนั่นคงนึกว่าหนีฉันพ้นสินะ”
“ดึกแล้วผมว่าเจ้านายไปนอนเถอะครับ ป่านนี้แล้วเธอคงไม่มาขืนรอไปเสียเวลาซะเปล่านะครับเจ้านาย”
“อืม ฉันจะนอนแล้ว นายเองก็รีบไปนอนซะไม่ต้องเฝ้ายามหรอก ที่นี่ก็ถิ่นฉันไม่มีใครกล้ามาทำร้ายฉันหรอก”
“ครับเจ้านาย”
ด้านหน้าเคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ของโรงแรมที่ตอนนี้หญิงสาวร่างเล็กตามฉบับสาวเอเชียกำลังยืนคุยกับพนักงานอยู่ด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด เพราะไม่รู้นามสกุลของคนที่เธอจะมาหา แขกที่เข้าพักก็มีชื่อเหมือนกันมากมายเธอมายืนคุยอยู่ตรงนี้นับชั่วโมงแล้ว ก่อนที่เธอจะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูแล้วตัดสินใจเดินออกไปจากโรงแรมเพื่อกลับที่พัก
“หวังว่านายยักษ์ใจร้ายนั่นจะไม่เผาเอกสารสำคัญของเราทิ้งไปนะ ไม่งั้นยุ่งแน่เลยแต่จะโทษเราก็ไม่ผิดอยากไม่บอกนามสกุลเองนี่นา”
เมื่อคิดได้เช่นนี้หญิงสาวจึงรู้สึกสบายใจมากขึ้นยิ้มได้อย่างเต็มที่ถึงแม้ในใจจะยังคงกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับเอกสารของตนเองอยู่บ้าง แต่ก็เชื่อว่าคงไม่เป็นไรไว้พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่แล้วกัน เมื่อเธอตัดสินใจได้แล้วจึงรีบเดินไปโบกรถเพื่อกลับที่พักของตนเอง
“แท็กซี่ จอด จอดด้วยค่ะ”
“ไปไหนครับคุณ”
“ไปคอนโดที่อยู่ใกล้ ๆ สถานีรถไฟค่ะ”
“ครับ กรุณารัดเข็มขัดด้วยครับ”
บริษัท แฮนสันกรุ๊ป จำกัด
เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่ตึกสูงแปดสิบชั้น โดยมีชั้นของท่านประธานบริษัทอยู่ชั้นบนสุด
“สวัสดีค่ะพี่แอนนา”
แพรอัปสรกล่าวทักทายรุ่นพี่ที่มีอายุมากกว่าเธอหลายปีผู้เป็นเลขานุการของท่านประธานบริษัท ซึ่งตอนนี้แพรอัปสรมาฝึกงานเป็นผู้ช่วยเลขา เพราะคุณแอนนาที่เป็นเลขาเพียงคนเดียวมีงานค่อนข้างมากแทบล้น เมื่อมีนักษาฝึกงานเข้ามาเธอจึงยื่นเรื่องไปที่ฝ่ายบุคคลเพื่อขอมาช่วยงานในช่วงนี้
“สวัสดีจ๊ะสาวน้อย ทำไมวันนี้เธอถึงเหนื่อยหอบแบบนี้ล่ะ”
“พอดีหนูตื่นสายไปหน่อยค่ะ เกือบมาไม่ทันเข้างานเสียแล้วโชคดีที่ยังมาทันเหลือเวลาอีกห้านาที”
สาวน้อยกล่าวอย่างอาย ๆ พร้อมกับยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับเหงื่อเบา ๆ ตามใบหน้าและลำคอที่ขาวนวลเนียน
“วันนี้มีงานอะไรที่จะให้หนูช่วยทำบ้างคะ”
“เอานี่นำเอกสารในแฟ้มนี้ไปถ่ายอย่างละสองแผ่น แล้วนำเข้าไปให้ท่านประธานเซ็นต์ในห้องด้วยนะ”
“ได้ค่ะพี่แอนนา”
แพรอัปสรกล่าวตอบรับแล้วก้มหยิบแฟ้มจากโต๊ะของเลขาสาวรุ่นพี่ไปส่งมอบให้กับฝ่ายบุคคลตามคำสั่งของเลขาสาวรุ่นพี่
หน้าห้องฝ่ายบุคคลพรอัปสรเปิดประตูห้องเข้าไปในแผนกด้วยสีหน้าที่ยิ้ม ๆ
“ว่าไงสาวน้อยน่าเสียดายจังที่เธอไม่ได้ฝึกงานกับแผนกของพี่”
ชายหนุ่มร่างสูงหุ่นดีที่ทำงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการในแผนกนั้นกล่าวแกล้งหยอกพร้อมส่งสายตาเจ้าชู้มาให้กับเธอแพรอัปสรจึงทำได้แค่เพียงยิ้มอย่างเจื่อน ๆ ไปให้เพราะเธอรู้ว่าชายหนุ่มที่แกล้งแหย่เธอนั้นคิดยังไงกับเธอ คนที่เข้ามาฝึกงานร่วมกันเพื่อนของเธอบอกให้กับเธอแล้วว่ามีชายหนุ่มหลายคนในบริษัทนี้สนใจและอยากจะจีบเธอรวมถึงขอนัดเลี้ยงทานข้าวหลังเลิกงานเพื่อออกเดท โดยฝากเพื่อน ๆ ของเธอมาบอก แต่แพรอัปสรก็เลือกที่จะปฏิเสธไป
