บทที่2
ท่าทีที่คุกคาม ทำให้ธาริณีถึงกับเกิดอาการกลัวขึ้นมาจับใจ หัวใจเต้นรัว ท้องไส้เริ่มบิดมวน ใจเริ่มคิด คิดผิดเสียแล้ว ที่ขึ้นลิฟต์มากับผู้ชายคนนี้
...ซ้ายก็กำแพง ขวาก็กำแพง ด้านหน้าก็มีกำแพงมนุษย์อีก แล้วอย่างนี้เธอจะหายไปจากตรงนี้ได้ยังไง
จากท่าทางของหญิงสาวนั้นทำให้ชายหนุ่มรู้ทันทีว่ากำลังคิดอะไรเขาหัวเราะ หึ ๆ เป็นการเยาะเย้ย แม้แววตาเขาเองก็เป็นเช่นนั้น
“กลัววล่ะสิ” เขาว่าเสียงเย็น “หัดกลัวตั้งแต่แรกก็คงจะดีมากับผู้ชายสองต่อสองอย่าหัดปากดีเราะร้ายนัก"
เขาก้มลงมองหล่อนตั้งแต่หัวจรดเท้า แววตาคุกคามทำให้หญิงสาวค่อย ๆ ถอยไปชิดผนังลิฟต์ ดวงตากลมโตภายใต้คิ้วโก่งที่สวยงามนั้นเบิกโพลง เห็นได้ชัดว่าหล่อนกำลังเกิดความกลัว
“อย่าเข้ามานะ! หล่อนขู่เสียงเข้ม ที่นี่มีกล้องวงจรปิดนะ”
หล่อนยังพูดต่อเพื่อเตือนสติอีกฝ่ายเอาไว้ก่อน แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้สนใจอะไรเลยด้วยซ้ำ
“มีกล้องแล้วไง คุณคิดว่าผมจะกลัวเหรอ”
เขาทำท่าขยับเท้าข้าวหนึ่งเพื่อจะเข้าหา หญิงสาวร้องเสียงหลง
“อย่านะ ฉันจะเรียกให้คนช่วย”
เขาก้าวแค่ก้าวเดียวก็ถึงตัวหล่อนแล้ว ร่างแทบจะแนบชิดกัน ทำให้อีกฝ่ายหลับตาปี๋ใช้มือผลักอกอีกฝ่ายพัลวัน
“ออกไปนะ อย่าทำอะไรฉันนะ...”
เขาก้มลงมาจนจมูกโด่งเกือบที่จะชุดพวงแก้มนวล มือทั้งสองข้างของเขาใช้ยันผนังลิฟต์ไว้ หล่อนไม่อาจจะขยับไปไหนไม่ได้เลยทำได้แค่เบิกตาโพลงด้วยความตื่นตกใจ
“คราวหน้า...อย่าริทำเก่งกับคนแปลกหน้าอีกเข้าใจไหม”
ลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาเป่าลดที่แก้มและซอกคอหล่อนอยู่ตอนนี้มันทำให้ขนของหล่อนลุกตั้งชันไปทั้งหัว หัวใจก็เต้นไม่เป็นจังหวะ ขาก็แทบอ่อนแรงลง มันไม่ใช่แค่ความคิดขาหล่อนอ่อนแรงจริง ๆ จนมือหนาได้รูปนั้นคว้าไหล่เปลือยทั้งสองข้างของหล่อนดึงเอาไว้ทัน ยิ่งทำให้หล่อนจะเป็นลมเมื่อร่างของหล่อนแนบชิดกับเขาทุกส่วนสัด ตัวหล่อนเหมือนสั่นเทาทำอะไรไม่ถูกต้องหลับตาปี๋
“อย่ามาเป็นลมในอ้อมอกผมนะ แม่คนเก่ง”
เขาเขย่าร่างของหล่อนเบา ๆ ทำให้หล่อนลืมตาขึ้นมองอย่างตื่นตระหนก
“ยืนดี ๆ ได้แล้ว” เขาสั่งเสียงเข้มนัยน์ตาดุให้ด้วย
“ปละ ปล่อยฉันนะ...” เสียงหล่อนเบาหวิว
“จะถึงชั้นแล้ว...จำเอาไว้อย่าเที่ยวไปอวดเก่งกับใครเขาอีก”
เขาก้มลงมากระซิบที่หูจมูกโด่งปัดแก้มหล่อนไปนิดหนึ่ง ทำเอาหัวใจหล่อนหล่นวูบชาไปทั้งตัว ขาก็ยังไม่มีทีท่าจะมีกำลังต้องอาศัยร่างเขาอยู่อย่างนั้น
“คุณ! คุณ...” เขาเขย่าร่างหล่อนแรง ๆ ทำให้สติของหลอนกลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
“ยืนเองได้แล้ว อย่ามาอ่อยผมให้ยากเลย”
ปี้ดด!…ความรู้สึกเจ็บที่กระดองใจทันทีทำให้หล่อนมีพลังผลักอกเขาอย่างเต็มแรง ร่างเขาถอยห่างออกไป
“ไปให้พ้น ๆ หน้าฉันเดี๋ยวนี้!”
เสียงของหล่อนแทบจะเป็นเสียงตะโกน ซึ่งเป็นจังหวะที่ลิฟต์ถึงชั้นและประตูเปิดออกพอดี
คนที่อยู่นอกลิฟต์ซึ่งยืนรออยู่ก่อนแล้วคือธาดาและมนธิรา หรือที่เพื่อนเรียกกันว่าบีเมื่อลิฟต์เปิดออกก็รีบพูดต้อนรับอย่างยินดี
“โอ้.....มาพร้อมกันเลย”
บีร้องขึ้นอย่างพอใจส่วนธาดา ร้องเรียกชื่อน้องชายอย่างลิงโลด
“ไอ้คุณเล็ก! โอ้โฮ มาได้โว้ยวันนี้.....มาเร็ว ๆ”
“รู้จักกันด้วยเหรอคะ เห็นยืนชิดกันสนทนาออกรสเชียว” บีเอ่ยขึ้น
“เปล่านะบี เปล่า ๆ “ ธาริณีรีบพูดและเดินออกมา
“อ้าวเล็กนายไม่ออกมาหรือ”
ธาดาผู้เป็นพี่ชายเห็นอีกฝ่ายยังยืนนิ่งอยู่ในห้องลิฟต์ไม่ยอมขยับจึงถาม
“ไม่ล่ะผมจะไปชั้น 18 “
“อ้าว! ยังคิดจะทำงานอยู่เหรอฉันเห็นร้อยวันพันปีฉันโทรหาไม่เคยรับสายแต่วันนี้วันหยุดก็หยุดอีกสักวันเถอะน่า.....”
ผู้เป็นพี่ชายโต้เย้า แต่ยังไม่ทันจะได้รับคำตอบประตูลิฟต์ก็เลื่อนปิดเสียแล้วทำให้อีกฝ่ายบ่นอุบอิบ
“ชอบทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ ขานี้ อะไรของเค้าก็ไม่รู้”
พอเดินตามมนธิรามาที่โซฟาก็ได้ยินสองสาวกำลังพูดปลอบประโลมกัน และกำลังเอ่ยถึงเรื่องน้องชายของเขาด้วย
“ตาเล็กเขาทำอะไรเหรอ บี” ธาดาเอ่ยถาม
“เห็นณีบอกว่า มีปากเสียงกันในลิฟต์ค่ะ ณีบอกว่าคุณเล็กปากร้ายมาก”
“เฮ้อ!” ผู้เป็นพี่ชายถอนหายใจหนัก ๆ
“ดีแล้วที่มันเพียงแต่ปากร้ายน่ะ ขอแค่อย่าให้เจ้าเล็กลงมือทำอะไรร้าย ๆ ก็พอใจแล้ว”
“เขาร้ายกาจขนาดนั้นเหรอคะ” ธาริณีเอ่ยเสียงสั่น ๆ
“โอ๊ะ ปะ เปล่าหรอกครับ กับผู้หญิงก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ...ผมก็พูดไป”
“ณี...หน้าตาเปรอะไปหมดแล้ว เดี๋ยวเข้าห้องน้ำสักหน่อยไหม"
มนธิราเอ่ยแทรกขึ้นพร้อมเปลี่ยนเรื่องคุยกะทันหัน
“ไปเถอะเราเข้าไปห้องน้ำกันเผื่อได้ล้างหรือได้เพิ่มส่วนไหนที่มันหลุดลุ้ยไปมั่งนะ..”
“หน้าตาฉันดูแย่ขนาดนั้นเชียวเหรอบี”
“เปล่าหรอกจ๊ะ สวยเหมือนเดิมเพียงแต่เครื่องสำอางหลุดไปหน่อยน่ะ ไปเพิ่มอีกนิด”
ธาริณีใจหายวาบมันจะไม่เลอะได้อย่างไรในเมื่อหล่อนโดนคนไร้มารยาทคนนั้นทำให้มันเลอะ
“เดี๋ยวฉันเข้าไปคนเดียวก็ได้”
“จ๊ะเดี๋ยวรอข้างนอกนะ จะได้ออกร้านลองชุดและหาดูของชำร่วยหน่อยถึงเรียกณีมาช่วยเลือกน่ะ...จากนั้นก็หาอะไรอร่อย ๆ กินกัน”
“แป้บเดียวจ๊ะไม่นานหรอก....”
“ตามสบายเลย...รอได้ไม่รีบอะไรวันนี้ฟรีทั้งวันแล้วนี่...ไปเถอะไป”
ร่างของธาริณีหยุดสั่นแล้วแต่สิ่งที่ตอกย้ำให้หล่อนรู้อีกอย่างคือเขาเป็นน้องชายของธาดาแฟนของเพื่อนหล่อนเอง ก็แสดงว่าเขามีเป็นเจ้าของโรงแรมนี้ด้วยน่ะซี เชอะ! จะเป็นใครก็เถอะมาปากมอมใส่หล่อนอย่างนี้แล้วอย่าหวังว่าจะได้รับความสนใจ ต่อให้รวยล้นฟ้าก็จะมาดูถูกใครต่อใครเล่น ๆ แบบนี้ ผู้ชายอะไรร้ายกาจนัก!
อย่าให้เจออีกก็แล้วกัน คนเพี้ยน ๆ แบบนี้...
