
บทย่อ
อาชาเป็นชายหนุ่มที่หญิงสาวคนไหนเห็นเป็นต้องตกหลุมรักและยากที่หญิงสาวคนไหนจะปฏิเสธได้ยกเว้นธาริณีคนเดียวเท่านั้น ที่ไม่เคยเห็นเขาในสายตาเลย จนกระทั่งเขาต้องวางแผนพาหนี... ถึงกระนั้นเขาก็ยังมัดใจเธอไว้ไม่ได้อยู่ดี จนท้ายที่สุดได้มีโซ่ทองคล้องใจ เธอก็ยังหนีเขาไปอีก... เรามาติดตามกันดูสิว่าชีวิตของสองหนุ่มสาวคู่นี้จะลงเอยกันแบบไหน? ใครจะเป็นฝ่ายยอมใคร? แล้วใคร?...จะเป็นฝ่ายทิ้งฟอร์มก่อนใคร
บทที่1
ความรีบเพื่อให้ไปถึงลิฟต์ บวกกับสายตาที่จ้องแต่หน้าจอมือถือของคนทั้งสองทำให้เกิดการกระแทกกันขึ้น
“อุ๊ย!/เฮ้ย!”
น้ำเสียงตกใจ ของคนทั้งสองดังขึ้นพร้อมกัน โดยคนตัวเล็กกว่าเสียหลักเซถลาไปกระแทกกับผนังลิฟต์อีกทั้งหัวโขกจนเห็นดาวระยิบระยับไปชั่วครู่ ยกมือลูบแขนและศีรษะหน้าบอกบุญไม่รับ ก่อนจะตวัดสายตามองคู่กรณี อย่างตำหนิ
เธอเจ็บแต่ดูอีกคนไม่รู้สึกรู้สา...จนต้องกัดฟันกรอด จ้องหน้าอีกฝ่ายที่เป็นผู้ชายรูปร่างดี เครื่องหน้าหล่อเหลาแต่งตัวดี ปากนั้นเป็นรูปกระจับยังกะผู้หญิง
… เคยได้ยินคนเขาพูดกันมาว่า ถ้าผู้ชายริมฝีปากบางหรือเป็นรูปกระจับนี้ จะเป็นคนปากจัดสุด ๆ คือพูดแต่ละครั้งเจ็บถึงกระดองใจกันเลยทีเดียว
คนนี้ล่ะ ปากร้ายหรือเปล่านะ! ขนาดชนผู้หญิง ยังยืนบื้ออยู่ได้แทนที่จะขอโทษสักคำ… ธาริณีคิดค้อนขอดอีกคนแล้วรีบปรับเว้นระยะการยื่น
ขณะเดียวกันชายหนุ่มเองก็อึ้งไปชั่วครู่ ก่อนจะใช้นิ้วกดหมายเลขชั้นของลิฟต์ที่ต้องการ ธาริณีเมื่อเห็นว่ากดหมายเลขชั้นเดียวกันก็นิ่งเฉยเสีย
“รู้ว่าเขาจะชนทำไมไม่หลีก” หลังจากที่กดหมายเลขไปแล้วเขาก็เอ่ยขึ้น
ว่าแล้วไหมล่ะ คิดว่าเรื่องจะจบ! พูดออกมาก็เล่นเอาจุกได้เลยจริง ๆ ปากบางหน้าขาวดูเป็นผู้ดีนี่ช่างตรงกันข้ามกับคำพูดเสียจริง
“นี่คุณ ถ้าไม่คิดจะพูดคำขอโทษก็ไม่มีใครว่าคุณหรอก” คนเจ็บย้อนกลับ เพราะเธอเองก็เดินเล่นมือถือเข้ามาเหมือนกันแต่จะโทษเธออย่างเดียวก็ไม่ถูก
“อ้าวคุณ ผมคิดว่าคุณไม่พาปากมาเสียอีก”
“นี่คุณ...” เธอมองหน้าหยุดพูด ความหล่อที่แอบชื่นชม ก็พลันหายไปในพริบตา “ยังจะมาพูดจายอกย้อน จะขอโทษสักคำก็ไม่มี”
“ขอโทษเหรอ...” เขาให้สายตาเมียงมองอย่างกับใช้ความคิดว่าจะขอโทษดีไหมแต่แล้วก็ยกยิ้ม ทำเอาเธอถึงกับทำตัวไม่ถูกขยับหนีอีกหนึ่งก้าว
“รีบก็รีบเกิน จนไม่ดูตาม้าตาเรือแบบนี้ล้มหัวฟาดพื้น ผมไม่ซวยไปด้วยเหรอ”
“อ้าว! คุณ” ธาริณีกดอารมณ์ไว้ …นี่ปากผู้ชายพูดหรอกเหรอเนี่ย
“ฉันเจ็บ แทนที่จะขอโทษฉัน”
เสียงแหลมเล็กเอ่ยออกไปอย่างเสียงดังฟังชัด ด้วยอารมณ์เริ่มเดือดก็ในเมื่อเขาพูดแช่งกันต่อหน้าอย่างนี้ แล้วใครจะไปทนฟังได้
ชายหนุ่มนามว่า “อาชา” ขมวดคิ้วหนาที่ดำได้รูปเข้าหากันเมื่อได้ยินคำพูดที่เผ็ดร้อนของอีกฝ่าย
“ทำไมผมต้องขอโทษ ผมไม่ใช่คนผิดนี่นะ”
เขาว่าหน้าตาเฉยทั้งที่เขาเองก็รู้ตัวว่าไม่ได้มองทางเดินตลอด
เวลาแต่จะให้ยอมอ่อนให้ผู้หญิงตรงหน้าคนนี้เห็นทีจะไม่ได้ เขาจึงจ้องมาที่ดวงตาของเธอแบบตาไม่กระพริบ ท่าทางแบบนี้มันท้าทายกันชัด ๆ
“ตัวโตสะเปล่า...”
เธอพูดเบา ๆ กับตัวเอง แต่ไม่ได้ลอดพ้นจากหูของเขาไปได้
“ผู้หญิงอะไรพูดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว เรื่องผิดตัวเองเท่าเส้นผมทีเรื่องผิดคนอื่นเท่าภูเขา ไม่น่าเอาทำแม่…”
“นี่! คุณ” คนที่ยังเจ็บอยู่ เจ็บตัวไม่เท่าเจ็บใจ จ้องตากร้าว
“ทำไม แค่นี่รับความจริงไม่ได้!”
ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของเขาเหมือนเยาะเย้ยยิ่งทำให้หญิงสาวโกรธมากขึ้น
“นายว่าอะไรนะ...”
ธาริณี ไม่อยากเชื่อว่าผู้ชายหน้าตาดี แต่งตัวดีมีระดับ จะพูดจาน่าเกลียดได้เพียงนี้
“หูหนวกอีก” เขาย้อนให้
“หือ…ฉันได้ยินเต็มสองรูหูเลย!” ธาริณีอารมณ์พุงปรี๊ด จนรู้สึกหายใจติดขัด
“อ้าวเหรอนึกว่าไม่ได้ยิน”
“ผู้ชายอะไรปากจัดไม่ให้เกียรติผู้หญิง ปากดีกับผู้หญิงเพศแม่ ไม่ละอายใจบ้างหรือไงห๊ะ!”
“ให้เกียรติคุณนี่นะ...แล้วคุณเคยให้เกียรติคนอื่นเขาบ้างไหม”
“คนที่สมควรได้รับเกียรติฉันก็ให้ แต่คนไม่น่าจะได้รับฉันก็ไม่ให้ เข้าใจไหม”
ธาริณีเงยหน้ายิ้มเยาะ เมื่อบุรุษตรงหน้าถึงกับเอ่ยอะไรไม่ออก เจอวาจาโต้กลับออกไปของเธอ
“ทำไม ยอมรับละซิ ว่าไม่ละอายใจกับการกระทำ ถึงได้เงียบ....”
คนโดนย้อน จนหน้าเสีย ถอนหายใจจ้องหน้าคมงามเหมือนกำลังทำใจอะไรสักอย่างก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ทำไมต้องละอาย...”
เขาปรับเปลี่ยนอารมณ์ ยกยิ้มมุมปากก่อนจะหายไปอย่างรวดเร็ว
“...นะ...นาย....นาย”
ร่างของหญิงสาวเกือบจะดิ้นพรวดทีเดียว แต่ตอนนี้ทำได้แค่ข่มอาการสั่นสะท้านไปทั้งตัวเพราะความโกรธ แววตาครุกรุ่นด้วยแรงโทสะ กำหมัดไว้แน่น
“อย่าเชียวนะ! “
นิ้วเรียวของเขาชี้มาตรงหน้านัยน์ตาคมจ้องเขม็งอย่างเอาเรื่อง
“อย่ามาพูดคำหยาบกับผมเด็ดขาด!”
คำพูดของเขาเด็ดขาดและเด็ดเดี่ยวในท่าทางทำให้คนโมโหชะงักไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรออกไปได้อีกเพราะอยู่กันแค่สองคน ธาริณีได้แต่กัดริมฝีปากสองมือกำแน่นเข้าหากันตัวสั่นเทาด้วยความโกรธแต่ไม่อาจทำอะไรได้เธอจึงยืนมองหน้าผู้ชายปากจัด หากจับหักคอเหมือนปลาทูนึ่งได้ เธอจะทำกับผู้ชายตรงหน้านี่เป็นคนแรก!
เขายิ้มเยาะขึ้นอีกหลังจากที่ดูอาการของคนตัวเกร็งด้วยความโกรธ
“คนบ้า! บ้าที่สุด” เธอตะโกนออกไปเมื่อสุดกลั้น “ไปเลย จะไปไหนก็ไป ตาบ้า!”
อาชาถึงกับสำหลักน้ำลายตัวเอง ใบหน้าแดงก่ำ อารมณ์จี๊ดพุ่งสุดแรงพอๆ กับสาวตรงหน้า โอ๊ย! อยากจะบ้า ผู้หญิงสมัยนี้ปากคอร้ายกาจได้อีกหรือวะ...เดี๋ยวก็ไม่มีใครเอาทำพันธุ์หรอก...ชายหนุ่มเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจ
“แล้วจะให้ไปไหนได้ลิฟต์กำลังเลื่อนอยู่ตอนนี้ ถึงชั้นที่ต้องการแล้วผมไปแน่ ไม่อยากอยู่นักหรอก เจอคนแบบนี้ผู้หญิงอะไร...”
เถอะ ใบหน้าหล่อเหลากวาดสายตาจับจ้องใบหน้าเรียวงามเช่นกัน ก่อนจะหยุดอยู่ตรงฝีปากบาง ที่เขารู้ดีว่าปากภายใต้ความสวยงามที่น่าลิ้มลองนั้น แฝงไปด้วยวาจาอาบยาพิษไว้
