บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 ไม่คิดปล่อย

ตอนที่ 5 ไม่คิดปล่อย

3 วันผ่านไป

สีหน้าหงุดหงิดของชายหนุ่มเผยออกมา คนตัวเล็กไม่ยอมรับสายเขา ต่อให้เขาจะเปลี่ยนเบอร์ใหม่ซื้อโทรศัพท์เพิ่ม 2-3 เครื่องเธอก็ไม่คิดที่จะรับสาย เหมือนกับว่าถ้าเป็นเบอร์แปลกหน้าคนตัวเล็กตัดสินใจที่จะไม่รับสายเลย แถมรถของเธอก็ให้คนมาเอา เธอไม่ยอมมาเอาเองแบบนี้ก็เท่ากับว่าชัดเจนแล้วที่เธออยากจะหลบหน้าเขา

“มันเป็นอะไรของมัน” หลุยส์ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรมากเลยถามเพลิงขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ

“แมวมันหนีเลยหงุดหงิด”

“แมวที่ไหน เอาดีๆ”

“เฮ้อ รักฝังใจมันไง”

“หืม คืออะไร เจอแล้วเหรอ”

“มันเจอจนไปเจาะไข่แดงเขาแล้วมั้ง” เพลิงพูดขึ้นอย่างรู้ทันเพื่อน ว่ายังไงคืนนั้นคนตัวเล็กก็ไม่น่ารอดแน่นอน

“หุบปากไปซะ”คนหงุดหงิดบ่นออกมา อยากจะบ้าตายจริง ๆ ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมด้วย หญิงสาวไม่รู้ว่าอยู่คอนโดหรือว่ากลับไปอยู่บ้าน เขาอยากจะบุกไปหาเธอที่บ้านแต่เพื่อนก็ห้ามเอาไว้ ขืนไปมีหวังบิดาเธอเอาปืนมายิงหัวเขาแน่

“ไอ้เพลิง มึงน่ะติดต่อให้น้องเขามาเจอหน่อย”

“เกี่ยวอะไรกับกู เดี๋ยวค้างรู้”

“เออเกี่ยวอะไรกับไอ้เพลิงวะ”

“ก็พ่อผู้หญิงคนนั้นอยากได้ไอ้เพลิงเป็นลูกเขย” นึกแล้วก็เจ็บใจ

“หืม?” หลุยส์ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ยิ่งมองอย่างแปลกใจก่อนที่เพลิงจะเป็นคนเล่าทุกอย่างให้ฟัง เขากับมินธิดาแทบไม่ได้ติดต่อไม่ได้พูดคุยกันเลย เพราะเขาไม่คิดที่จะยุ่งเกี่ยวกับเธอตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ถึงแม้พ่ออยากให้เปิดใจให้กับผู้หญิงคนนี้ แต่เขาก็บอกท่านไปตามตรงว่ามีแฟนแล้ว

“มึงจะยากอะไรก็เสนอตัวเองไปดิ”

“หมายความว่าไง?” โซ่ไม่เข้าใจในคำพูดของเพื่อนจึงถามออกไป

“ก็จากที่ฟังดูเหมือนว่าท่านสาธิตอะไรนั่นอยากหาลูกเขยที่ฐานะร่ำรวยเพื่อที่จะมาประคองธุรกิจไม่ใช่เหรอ ถึงแม้ว่าท่านสาธิตจะรวยมาก่อน แต่ตอนนี้ไม่ได้เหมือนแต่ก่อนนี่ มึงเองก็รวย ในเมื่อผู้ชายคนนั้นอยากหาสามีให้กับลูกสาวนักมึงก็จัดให้เลย”

“ไอ้หลุยส์มึงก็ชี้ทางมัน”

“อ้าว กูพูดจริง”

“หึ น่าเห็นด้วย”

“ไอ้โซ่ ถ้ามึงทำเพราะรักมึงทำไป แต่ถ้ามึงบอกว่าไม่ได้รักมึงก็อย่าไปทำแบบนั้น” เพราะท่าทีของเพื่อนที่เผยออกมาเหมือนจะแค้นใจไม่น้อยเลยกับสิ่งที่คนตัวเล็กเคยทำเอาไว้ ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าเพื่อนรักผู้หญิงคนนั้นอยู่หรือแค่ต้องการเอาคืนกันแน่

“ผู้หญิงที่เหยียบย่ำหัวใจกูกูไม่รักหรอก”

“ถ้าไม่รักก็อย่าเอาตัวเองไปยุ่งเกี่ยว”

“ไปเป็นพ่อพระไกล ๆ ตีนกูไป มึงไม่สงสารกูเหรอ กูเสียใจมาตั้งนาน ในเมื่อมาให้กูเจอเองก็เป็นเรื่องถูกต้องแล้วไม่ใช่เหรอที่กูจะเอาคืน”

“กูไม่ใช่พ่อพระ แต่ที่กูพูดเพราะกูหวังดี เกลียดมากก็อย่าไปยุ่ง ยิ่งมึงทำแบบนี้สักวันมึงจะเสียใจ”

“กูไม่คิดที่จะเสียใจ” เขาไม่รู้หรอกว่าความรู้สึกเหล่านี้เป็นเพราะว่าแค้นที่เธอทำกับเขา หรือว่าเป็นเพราะยังรักกันแน่ แต่ที่แน่ ๆ เขาไม่อยากปล่อยเธอไปจากชีวิต ต้องการทำให้เธอเจ็บปวดอยู่กับเขาตลอดไป

หลายวันผ่านไป

ในวันนี้หญิงสาวถูกบิดาบังคับให้ออกงานด้วย ซึ่งมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอต้องไปแบบนี้กับท่าน ภายนอกใคร ๆ ต่างก็คิดว่าพ่อของเธอรักเธอ ถึงได้พาเธอไปออกงาน พาเธอไปทำความรู้จักกับคนอื่น ๆ แต่ความจริงไม่ใช่แบบนั้นเลยเธอรู้ดี ท่านก็แค่อยากพาเธอไปโชว์ตัวให้กับคนอื่น ๆ ได้เห็นก็เท่านั้น

คนตัวเล็กสวมใส่เสื้อผ้าแบรนด์หรู ในตัวของเธอมีของแบรนด์เนมมากมายที่บิดาสรรหาซื้อมาให้ ท่านสั่งให้เธอแต่งตัวสวย ๆ ให้ดูดีที่สุดเพื่อที่จะทำให้ใครหลาย ๆ คนสนใจในตัวเธอ ในตอนนี้มินธิดารู้สึกว่าตัวเองไม่ต่างจากตุ๊กตาตัวหนึ่งที่บิดาอยากให้ทำอะไรหรือสวมใส่อะไรเธอก็ต้องทำ สิ่งเหล่านี้ไม่เคยทำให้เธอมีความสุขเลยสักนิด

“เสร็จหรือยัง” เสียงเข้มของท่านสาธิตเอ่ยถาม

“ค่ะ” หญิงสาวเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็ตอบกลับไป

“วันนี้เลือกชุดได้ดี ไปกันเถอะ” หญิงสาวไม่ได้ตอบอะไรออกมานอกจากเดินตามบิดาออกไปยังรถตู้ที่จอดอยู่ ไม่นานมากเท่าไรนักเธอก็มาในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง ซึ่งมีคนมาร่วมงานหลายคนเลย ส่วนใหญ่เป็นคนมีหน้ามีตาในสังคมทั้งนั้น คนตัวเล็กรู้สึกประหม่าไม่น้อยก่อนจะเดินตามบิดาที่กำลังไปทักทายเพื่อนของท่าน ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ท่านพงศ์เทพบิดาของเพลิงนั่นเอง

“สวัสดีค่ะ” เธอยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสอง ซึ่งพวกท่านก็ยิ้มแย้มมาให้พร้อมกับยกมือรับไหว้เธอ โดยภาพนั้นมีสายตาของโซ่มองอยู่ เขายกมุมปากขึ้นที่ได้เจอเธอสักที ก่อนหน้านั้นเขาก็เพิ่งกลับมาจากไปค่ายจิตอาสา พยายามติดต่อหาเธอเธอก็ไม่รับสาย ไม่ว่าจะเอาเบอร์ใครโทรไปก็ไม่รับเลย เดาว่าวันนี้อาจจะได้เจอเธอและมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ถือว่าการที่เขาลงทุนตามมาที่นี่ด้วยซึ่งปกติแล้วเขาไม่ชอบออกงานเวลาพ่อแม่ชวน เขามักจะปฏิเสธตลอด

“เฮ้ย ใจเย็น พ่อเขาอยู่” เพลิงเตือนสติเพื่อนที่ทำท่าจะเดินไปหาหญิงสาวที่ชายหนุ่มจับจ้องอยู่

“หงุดหงิดฉิบ” เธอไม่ยอมรับสายเขาเลย พอมาเจอเธอที่งานในวันนี้มันอดไม่ได้จริง ๆ แต่ก็ต้องทำอย่างที่เพื่อนเตือนสตินั่นแหละ เพราะคนมาร่วมงานในวันนี้มีไม่น้อย ไหนจะพ่อแม่เขา ไหนจะครอบครัวของเธอ เขาจึงบอกตัวเองให้ใจเย็น ๆ รอจังหวะเหมาะ ๆ ก่อน

เพลิงจำต้องเดินไปหาบิดาเมื่อท่านมองหา ชายหนุ่มยกมือไหว้ทักทายชายวัยกลางคนตรงหน้าที่ดูเหมือนอยากจะให้เขาเป็นลูกเขยเหลือเกิน แต่เขาก็ชัดเจนตั้งแต่แรกแล้วว่ามีแฟนแล้วซึ่งมินธิดาก็รู้ หญิงสาวเองก็ไม่ได้มีท่าทีสนใจอะไรเขาเลย เธอเหมือนถูกบังคับมากกว่า

“อีกไม่นานโพรเจกต์ใหญ่เราก็จะเริ่มขึ้น ผมเริ่มชักรอให้ถึงวันนั้นไม่ไหวแล้วครับ”

“เช่นกันครับ ดีใจที่เราจะได้ร่วมมือกันนะครับ”

“ครับ ผมจะดีใจมากกว่านี้ถ้าหากครอบครัวเราสนิทสนมกันมากกว่าที่เป็น” ความหมายคืออะไรชายหนุ่มที่ได้ยินย่อมรับรู้อยู่แล้ว มินธิดาเม้มริมฝีปากเข้าหากัน เธอไม่ชอบเลยกับการที่เหมือนว่าบิดากำลังพูดอยากยกเธอให้กับใครก็ไม่รู้

“ผมมีแฟนแล้วครับและก็รักแฟนผมมาก ถึงยังไงผมก็คิดว่าครอบครัวเราสองคนก็ยังคงสนิทสนมกันได้อยู่ ถึงแม้จะไม่มีความสัมพันธ์อย่างที่ท่านสาธิตต้องการ”คำพูดตรง ๆ ของเพลิงทำให้ชายวัยกลางคนนิ่งไปก่อนจะยิ้มออกมา ท่าทางนิ่ง ๆ คำพูดตรง ๆ ของอีกฝ่ายมันช่างถูกใจเขาจริง ๆ ในระหว่างที่คุยกัน โซ่ที่อดทนไม่ไหวก็เข้ามาทักทายพ่อแม่ของเพื่อนสนิททันที

“สวัสดีครับคุณอาทั้งสอง”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel