
บทย่อ
เธอคือรักแรกที่เขาฝังใจความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนจะไปได้ดีแต่จู่ๆ เธอก็มาทิ้งเขาไปโดยไม่บอกกันสักคำมีเพียงข้อความบอกเลิกสั้นๆ เพียงเท่านั้นและก็หายไปเหมือนไร้ตัวตน เขาต้องมาเจ็บปวดอยู่นานจนกระทั่งได้เจอเธออีกครั้ง ครั้งนี้คนที่เจ็บปวดต้องไม่ใช่เขาอีกต่อไป มินธิดาต้องเลือกบอกเลิกผู้ชายที่เธอเพิ่งจะตกลงคบหาอย่างคนไร้หัวใจเพราะมีเหตุจำเป็นที่ต้องทำแบบนั้น เธอย้ายมาอยู่กับพ่อที่แทบไม่เคยมอบความรักให้กับเธอเลยนอกจากเงินทองที่ท่านให้และการที่เธอเลือกมาอยู่ที่นี่ก็เพื่อมารดาที่เธอรักต้องใช้เงินจำนวนมากรักษาตัว หญิงสาวไม่ต่างจากสิ้นค้าอย่างนึงที่พ่อเธออยากให้คู่กับคนที่ทำให้ธุรกิจของท่านเฟื่องฟู ไม่รู้ว่าโลกใจร้ายกับเธอหรืออะไรก็ไม่รู้ทำให้เธอได้มาเจออดีตที่ยังอยู่ในใจมาตลอดเวลาที่ผ่านมาแต่การมาเจอในครั้งนี้เขากลับใจร้ายกับเธอมากๆ ทำเหมือนว่าเธอไม่มีหัวใจ ใช่ที่เธอบอกเลิกเขาแต่เธอมีความจำเป็นทำไมเขาต้องใจร้ายกับเธอมากขนาดนี้ด้วย ยิ่งเธอหนีเธอไม่อยากอยู่ในชีวิตเขาเขาก็ดูท่าจะไม่ปล่อยเธอไป พอเห็นว่าพ่อเธอต้องการอะไรเขาก็เสนอตัวจนพ่อของเธอเห็นดีเห็นงามที่จะให้เธอหมั้นหมายกับเขา
ตอนที่ 1 โซ่
ตอนที่ 1 โซ่
ร่างสูงโปร่งของศตานนท์หรือโซ่เดินทิ้งตัวลงบนเตียงกว้าง หลังจากที่กลับมาจากไปดื่มกับกลุ่มเพื่อนที่ผับ เขาเป็นคนรักสนุกสนานเฮฮาปาร์ตี้อยู่ตลอด ชายหนุ่มมีเพื่อนสนิทสองคนคือเพลิงและหลุยส์ เรียกได้ว่าสนิทกันจนรู้สันดานกันหมดแล้วเพราะพ่อแม่ของพวกเขาเป็นเพื่อนกัน เพราะอย่างนั้นตั้งแต่ลืมตามาก็เจอหน้าพวกมันแล้ว
เสียงถอนหายใจดังเฮือก จู่ ๆ ในวันนี้มันกลับทำให้ความรู้สึกของเขาหนักอึ้งขึ้นมา เพราะว่ามันเป็นวันที่เขาถูกใครอีกคนตัดความสัมพันธ์ ผ่านมาแล้วเกือบสามปีที่เขายังคงจมอยู่ในความรู้สึกนี้ทถึงแม้ชายหนุ่มจะไม่เคยแสดงมันออกมาให้ใครรับรู้ว่าในใจลึก ๆ ของเขามันกำลังนึกถึงใครอีกคนก็ตาม
‘พี่ไม่ต้องติดต่อมาหามิ้นท์อีกนะ มิ้นท์ไม่อยากคุยกับพี่แล้ว’ น้ำเสียงของหญิงสาวที่มักจะสดใสแต่ในวันนี้เธอกลับดูเฉยชาจนเขารับรู้ได้
‘เป็นอะไร ทำไมถึงไม่ให้ติดต่อ เราเป็นแฟนกันนะมิ้นท์'
‘เราเลิกกันเถอะ ไม่ต้องมาเจอกันอีก มิ้นท์ไม่อยากเจอพี่อีก ตอนพี่ปิดเทอมก็ไม่ต้องมาหามิ้นท์’ โซ่ไม่เข้าใจที่จู่ ๆ คนตัวเล็กก็มาบอกเลิกกันแบบนี้ เธอน้อยใจที่เขาไปเรียนไกลจากเธองั้นเหรอ ก็ไม่น่าจะใช่เสียหน่อย เพราะทุกวันหยุดหรือปิดเทอมเขาก็จะมาหาเธอตลอดแถมทุกวันเขาก็มักจะพูดคุยกับเธอจนกว่าเธอจะหลับไป
‘มิ้นท์ทำไมพูดแบบนี้วะ’
'มิ้นท์ไม่อยากมีแฟนที่อยู่ห่างกันแบบนี้ อีกอย่างมิ้นท์ไม่ได้รักพี่แล้ว’ คนตัวเล็กกัดฟันตอบอีกฝ่ายออกไป ซึ่งคำพูดนั้นมันกรีดหัวใจคนฟังไม่น้อยเลย ที่เด็กสาวตรงหน้ามาตัดความสัมพันธ์กันง่าย ๆ แบบนี้
‘เธอเป็นอะไรไป เมื่อก่อนไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่เคยงี่เง่า’ เขาพยายามใจเย็นลงทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วในใจของชายหนุ่มในตอนนี้กำลังเดือดดาลไม่น้อยเลย
โซ่รู้จักกับมิ้นท์ในตอนที่เขากลับมาหาย่าที่ต่างจังหวัดเมื่อปีก่อน อารมณ์เบื่อแสงสีเสียงเลยมาดื่มด่ำธรรมชาติที่นี้ และนั่นทำให้เขาได้พบเจอกับเธอ พอเห็นหน้าเธอครั้งแรกก็พอใจตั้งแต่แรกเห็น เธออยู่บ้านข้าง ๆ จึงทำให้ชายหนุ่มได้พูดคุยกับคนตัวเล็ก ได้รู้จักกันมากขึ้น จนเขาขอเธอคบหา มันอาจจะไวไปหน่อยแต่เขาจริงจังกับเธอจริง ๆ ไม่เคยรู้สึกรักใครมาก่อนจนกระทั่งมาเจอเธอคนนี้ ความสัมพันธ์ก็เหมือนคู่รักทั่วไป แน่นอนระยะทางไม่อาจเป็นอุปสรรคของพวกเขาถึงแม้ว่าโซ่จะกลับมาเรียน เขาก็ยังติดต่อโทรหาเธอทุกวัน ท่าทีของคนตัวเล็กก็ดูมีความสุขดีกับการที่ได้คุยกับเขา จนกระทั่งจู่ ๆ รู้สึกว่าแฟนสาวเริ่มแปลก ๆ ไป ทำให้เขาต้องมาหาเธอถึงที่นี่ แต่พอได้คำตอบอย่างนี้มันก็ทำให้ความรู้สึกของเขาพังจริง ๆ
“ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ ก็แค่ไม่ได้รักพี่แล้วก็แค่นั้นเอง” คำว่าไม่ได้รักแล้วมันไม่ต่างจากมีดคม ๆ ที่ทิ่มแทงหัวใจของเขาเลย คบกันครึ่งปีกว่ามันไม่ได้มีความหมายอะไรเลยงั้นเหรอ สิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มเจ็บปวดก็คือความเย็นชาของเธอคนนี้ ไหนจะคำพูดต่าง ๆ ที่มันบาดลึกหัวใจเขาจริง ๆ
เมื่อนึกถึงสิ่งที่เคยผ่านมามือหนาก็บีบแน่นกำเข้าหากัน ถึงมันจะผ่านมาเกือบสามปีแต่เขาก็ไม่มีทางลืม เพราะเหตุนี้เขาจึงกลายเป็นคนปิดหัวใจตัวเองไม่เคยคิดที่คบหาใครจริง ๆ จัง ๆ เลย ถึงแม้เวลาเพื่อนถามเขาจะบอกแค่ว่ายังไม่เจอคนที่ใช่ก็เถอะ แต่ความจริงมันเป็นเพราะเขาไม่อยากรักใครต่างหาก เขากลัวความเจ็บปวดเหมือนที่เคยผ่านมา
เสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่มดังขึ้นในขณะที่กำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่ พอเห็นว่าเป็นเบอร์ของเพลิงก็ทำให้ชายหนุ่มกดรับสายทันที คำพูดของอีกฝ่ายทำให้เขาตอบตกลงที่จะออกไปหา เพราะดูเหมือนจะมีเรื่องเกิดขึ้น คนตัวสูงคว้ากุญแจรถสปอร์ตสีดำก่อนจะขับตรงไปหาเพื่อนที่รออยู่ แต่พอมาถึงหัวคิ้วของชายหนุ่มก็ขมวดเข้าหากัน เพราะผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเพื่อนไม่ใช่น้ำค้างแฟนสาวของเพลิง แต่เป็นผู้หญิงอีกคนที่เขาจดจำได้ไม่เคยลืม
คนตัวเล็กที่กำลังตกใจกับเหตุการณ์ก่อนหน้าที่เธอกำลังยืนรอคนมาช่วยดูรถให้หลังจากที่โทรไปบอกบิดา ในระหว่างนั้นมีพวกกลุ่มชายฉกรรจ์เข้ามาลวนลามเธอ ดีที่รุ่นพี่หนุ่มอย่างเพลิงมาช่วยทันก่อนจะเกิดการต่อสู้กัน ภาพที่เพลิงจัดการคนเหล่านั้นยังทำให้เธอตกใจไม่หายแต่ทว่าพอได้เห็นใครอีกคนมันทำให้เธอตกใจมากขึ้นกว่าเดิมจนมือไม้ของเธอเย็นเฉียบไปหมด
มินธิดาหันไปสบสายตากับคนมาใหม่ ร่างของเธอชาวาบทันที รู้สึกเหมือนจะกลืนน้ำลายลงคอไม่ได้ ริมฝีปากของเธอเม้มเข้าหากันแน่นก่อนจะเป็นฝ่ายหลบสายตาอีกฝ่ายไป ทำเหมือนว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อน โซ่แสยะยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะมองเพื่อนพร้อมมองคนที่หมดสติอยู่ทั้งสามคน
“เกิดอะไรขึ้นวะ?”
“มันกำลังลวนลามผู้หญิงอยู่” คนถูกลวนลามบีบมือเข้าหากันแน่น โซ่เหลือบสายตามองอีกครั้งก่อนจะหยิบโทรศัพท์โทรหาลูกน้องของลุงที่เป็นตำรวจให้มาจัดการคนเหล่านี้ เหตุผลที่เพลิงโทรหาโซ่ก็เพราะอย่างนี้แหละ หลังจากที่จัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาจึงให้ลูกน้องจัดการรถของมินธิดา
“ขอบคุณนะคะพี่เพลิง”
“อืม ไม่เป็นไรแล้วนี่ทำไมถึงกลับดึกแบบนี้”
มินธิดามองใครอีกคนเล็กน้อยก่อนจะหลบสายตาเขาเหมือนอย่างที่ชอบทำ ในตอนแรกเพลิงไม่คิดสงสัยอะไร แต่พอเห็นท่าทีของคนทั้งสองแล้วมันบอกเขาว่าต้องมีอะไรแน่นอน แต่ชายหนุ่มก็ไม่ใช่คนอยากรู้เรื่องอะไรใครขนาดนั้นจึงไม่ได้ถามอะไรออกมา
“คือมิ้นท์ไปงานวันเกิดเพื่อนมาค่ะ ขอโทษที่รบกวนนะคะ มิ้นท์โทรหาคุณพ่อแล้วแต่ไม่คิดว่าจะเป็นพี่ที่มาที่นี่”
“ไม่เป็นไร แล้วพักที่ไหน”
“กูว่ามึงไปทำแผลดีกว่าไหม แล้วหน้าแตกแบบนี้ไม่กลัวเมียมึงว่าหรือไง” โซ่พูดขึ้นหลังจากที่ยืนฟังบทสนทนาของคนทั้งสองอยู่สักพัก เขาบอกพร้อมกล่าวถึงบุคคลที่สามออกมา
“งั้นมึงไปส่งหน่อยแล้วกัน ฝากด้วย”
“เอ่อ มินท์เรียกรถก็ได้ค่ะก่อนหน้ากังวลเรื่องรถ ตอนนี้พี่เอาไปจัดการให้แล้วมิ้นท์กลับเองก็ได้ค่ะ”
“อย่าเรื่องมาก” โซ่ตวัดสายตามองเล็กน้อย ยิ่งเห็นท่าทีของเธอที่ไม่อยากไปกับเขามันก็ยิ่งทำให้เขานึกหงุดหงิดขึ้นมา
เพลิงรับรู้ว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งสองไม่ธรรมดาจึงเปิดทางให้เพื่อน อีกอย่างเขาเป็นห่วงคนที่อยู่ที่ห้องด้วยจึงรีบแยกตัวไปหาซื้อโจ๊กซื้อยาไปให้ ส่วนผู้หญิงที่พ่อฝากดูแลตอนนี้ก็ให้เพื่อนของเขาดูแลแทนก็แล้วกัน มินธิดามองตามรถคันหรูที่ขับไปด้วยท่าทีหวั่นใจ เธอในตอนนี้รู้สึกกลัวไม่ต่างจากเหตุการณ์เมื่อครู่เลย
“ขึ้นรถ”
“มะ ไม่เป็นไรค่ะดิฉันกลับเองได้” โซ่ไม่ฟังเขากระชากแขนเธอก่อนจะพาไปขึ้นรถที่จอดอยู่ ท่าทีของเขามันดูหงุดหงิดมากจริง ๆ แต่แล้วทำไมเขาต้องมาหงุดหงิดกับเธอด้วยในเมื่อเธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาแล้วเสียหน่อย
“ปล่อยนะคะ”
“บอกว่าอย่าเรื่องมากไง พอไม่ใช่ไอ้เพลิงก็ไม่อยากไปด้วยงั้นเหรอ” ถึงแม้จะสงสัยว่าทำไมเพื่อนของเขาถึงไปรู้จักกับผู้หญิงคนนี้มาก แต่ในเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาถามเธอ
“กับใครก็ไม่อยากไปทั้งนั้นแหละ ร่วมถึงคุณด้วย”
“คุณ? เหอะ เรียกห่างเหินจังเลยนะ”
“ก็เราไม่ได้เป็นอะไรกันไม่ใช่เหรอคะ ปล่อยดิฉันจะกลับเอง กรี๊ด!” มินธิดากรีดร้องออกมาอย่างตกใจที่ร่างของเธอถูกใครอีกคนรั้งตัวเอาไว้ด้วยอ้อมแขนของเขา
“นี่ปล่อยนะ!”
“ไม่ได้เป็นอะไรกันงั้นเหรอ หึ ดี งั้นก็เป็นเลยไหม” เขาพูดจบก็จัดการยัดคนตัวเล็กเข้าไปในรถได้สำเร็จก่อนจะขับกลับไปยังคอนโดของเขาทันที ไม่สนคำพูดของคนตัวเล็กข้างกายเลยว่าจะโวยวายไม่เห็นด้วยมากแค่ไหน
พรึ่บ!
ร่างเล็กของมินธิดาถูกเหวี่ยงลงบนโซฟาหลังจากที่เธอถูกคนตัวสูงลากให้ขึ้นมาที่นี่ สายตาหวั่นกลัวมองรอบ ๆ ที่แห่งนี้อย่างตื่นตระหนก ก่อนจะตวัดสายตาไม่พอใจมามองชายหนุ่มตรงหน้าคนที่เธอไม่ได้เจอหน้าเขามานานหลายปีนับตั้งแต่ในวันนั้น
“ไปรู้จักไอ้เพลิงได้ไง?”
