บท
ตั้งค่า

บทที่ 4: เป็นหญิงหม้ายหาใช่ชีวิตจะจบสิ้น [2/2]

ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่เธอก็อดไม่ได้เลยที่จะปวดใจ ทั้งโกรธ ทั้งแค้นชายหญิงตรงหน้าจนน้ำตาแทบจะไหลออกมาให้ได้ ยิ่งถูกฝ่ายหญิงถาม...

“แล้วนี่มากับใครคะ มากับแฟนเหรอ เอ๊ะ ลืมไป เพิ่งเลิกกับแฟนนี่นา”

แทบจะเอาเสื้อฟาดหน้าสวยๆ ที่ไปทำที่คลินิกศัลยกรรมไหนสักแห่งเต็มแรงสักที หากแต่มือไม้ไม่มีเรี่ยวแรงเอาเสียเลย ขอบตาร้อนผะผ่าวจนมีนาไม่อาจทนมองหน้าอดีตคนรักและผู้หญิงคนนี้ได้อีกต่อไปจนต้องก้มหน้าลง ใจของเธอในตอนนี้อยากจะหายตัวไปให้เร็วที่สุด ทว่าก็ไม่อาจก้าวขาออก จนซองอึนเห็นอาการของหญิงสาวดูไม่ดีถึงได้ปรามคนข้างกาย

“อย่าไปถามอะไรแบบนั้นเลยน่า”

“ก็ฉันพูดความจริงนี่ หรือว่าพี่จะเถียงว่าไม่ได้เพิ่งเลิกกับแม่นี่” อึนบีเถียง

คราวนี้เป็นซองอึนบ้างแล้วที่มีสีหน้าไม่ดี เขาเพิ่งรู้ตัวว่าไม่น่ามาทักทายมีนาเลย แต่ด้วยความที่เขากับมีนาคบหากันมานาน ต่อให้เลิกกันไปแล้วและเขาเป็นฝ่ายบอกเลิกก็ตาม ทว่าเขาก็ยังมีความรู้สึกดีๆ ให้กับหญิงสาวอยู่แม้ว่าจะไม่ได้รักแล้วก็ตาม

หากแต่มีนาไม่ได้ต้องการเลย สถานการณ์นี้ทำให้เธอบอบช้ำมากขึ้นกว่าเดิม ทำนบน้ำตาเกือบจะพังทลายลงมาอยู่แล้วถ้าหากว่าชายหนุ่มที่รอการกลับมาของเธออยู่นานไม่เดินเข้ามาหาเสียก่อน

“ยืนทำอันใดอยู่ตรงนั้นกันแม่นาง ข้ารอเจ้ากลับมาอยู่นานเลยทีเดียว”

หันไปมองก็เห็นว่าเป็นคังยูในชุดโบราณดังเดิมเดินออกมาตาม

คังยูชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นขอบตาของดวงตาคู่สวยของมีนาแดงไปหมด ซ้ำยังเอ่อคลอด้วยน้ำตา เท่านั้นเขาก็ปราดมองไปยังชายหญิงที่ยืนถัดไปทันที สัญชาตญาณบอกให้ได้รับรู้ว่าต้นเหตุที่ทำให้มีนาทำท่าจะร้องไห้แหล่มิแหล่คือสองคนนี้ เท่านั้นก็ก้าวเข้ามาใกล้ คว้าข้อมือเล็กของหญิงสาวให้ขยับมาประชิดตัว ก่อนจะโน้มตัวกระซิบเสียงเบา

“หากเจ้ารู้สึกไม่ดีก็กลับกันเถิด”

มีนาพยักหน้ารับเร็วๆ ทว่ายังไม่ทันจะได้ออกเดิน เสียงของซองอึนก็ดังมาให้ได้ยิน

“คุณ...เอ่อ...แฟนใหม่ของมีนาเหรอครับ”

ที่ถามอย่างนั้นเพราะไม่คิดว่ามีนาจะหาแฟนใหม่ได้เร็ว อะไรไม่ว่า ผู้หญิงหน้าตาธรรมดาๆ อย่างนั้นหาผู้ชายหน้าตาดีอย่างนี้เป็นแฟนได้อย่างไรกัน

หากแต่คังยูไม่ตอบคำถามที่ซองอึนต้องการรู้ จ้องหน้าอีกฝ่ายกลับชนิดไม่กะพริบตาและถามกลับหน้าตาเฉย

“แล้วมันธุระกงการอันใดของเจ้า”

ถามไปอย่างนี้ใช่ว่าจะเข้าใจความหมายว่า ‘แฟน’ หมายถึงอะไรแต่อย่างใด ทว่าก็พอจะเดาได้ว่ามันน่าจะหมายถึงคนรัก

ถูกตอกกลับไปอย่างนั้น ซองอึนก็นิ่งไปครู่ ยกมือขึ้นลูบต้นคอของตนแก้เก้อ

“ผมก็แค่ถามเฉยๆ น่ะ ดูคุณกับ ‘แฟนเก่า’ ผมสนิทกันดี”

เน้นคำว่า ‘แฟนเก่า’ ให้คนฟังอย่างมีนาได้ช้ำใจมากขึ้นไปอีก น้ำตาของเธอจะไหลอาบหน้าอยู่รอมร่อแล้ว คังยูเห็นก็รีบตัดบทก่อนที่สาวเจ้าจะสิ้นสุดความอดทน

“หากหาใช่ธุระกงการของเจ้าก็อย่าได้ยื่นมือเข้ามายุ่มย่ามกับแม่นางผู้นี้อีก มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน”

จากนั้นก็โอบไหล่เล็กออกนอกร้านทันที ปล่อยให้ซองอึนและหญิงคนรักใหม่มองตามอย่างอึ้งงัน

หึงหวงกันอย่างนั้นต้องเป็นแฟนอย่างแน่นอน แต่แฟนใหม่ของมีนา...เป็นคนที่แปลกดีแท้

หล่อมากแต่แปลกๆ ดูล้นๆ เกินๆ...

ออกมาจากร้านเสื้อผ้าร้านนั้นได้ มีนาก็ปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น

ความจริงจะเรียกว่าปล่อยโฮก็ไม่ใช่ เรียกว่าเธอค่อยๆ ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบใบหน้าทีละน้อยดีกว่า และมันก็เป็นอย่างนี้ไปตลอดทางที่เธอกับคังยูเดินไป ยิ่งชายหนุ่มไม่พูดอะไร เอาแต่เดินขนาบข้างเธอเงียบๆ มีนาก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้นกว่าเดิม จากที่ร้องไห้คนเดียวเงียบๆ ก็กลายเป็นสะอึกสะอื้นใหญ่โต ทำเอาคนรอบข้างที่เดินผ่านเหลียวมามองคนทั้งคู่เป็นตาเดียว

คังยูไม่ชอบเลยเวลาต้องตกเป็นเป้าสายตาคู่กับสตรีที่เอาแต่ส่งเสียงสะอื้นไห้อย่างนี้ มันทำให้เขาถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนรังแกผู้หญิงคนนี้ทั้งที่ต้นเหตุจริงๆ แล้วคืออดีตคนรักของหญิงสาว เขาจึงตัดสินใจหยุดเดินพร้อมกับดึงต้นแขนของมีนาให้หยุดเดินกะทันหัน

มีนาที่เอาแต่ก้มหน้าร้องไห้เงยใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาขึ้นมอง เห็นคังยูจ้องเขม็งก็ถามเสียงเครือ

“มีอะไรเหรอคะ”

เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงถามเช่นนี้ ไม่รู้หรือไรว่าทำให้ข้ากลายเป็นคนหยาบช้าในสายตาของผู้อื่นไปแล้วน่ะ

อยากจะพูดอย่างนี้อยู่หรอก แต่คังยูกลับย่นคิ้วเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเมื่อเห็นว่าหลังจากมีนาพูดประโยคนั้น เจ้าหล่อนก็สะอื้นไห้จนตัวโยน เขากลอกตาขึ้น สูดลมหายใจเข้าปอดคล้ายกับว่ากำลังสะกดกลั้นอารมณ์ พลันลากหญิงสาวให้ไปหลบยังมุมมืดของซอกตึกที่อยู่ใกล้ๆ

มีนาเห็นตัวเองถูกลากเข้าไปในซอกตึกก็ร้องเสียงหลงทันควัน

“เดี๋ยวคุณ! จะพาฉันไปไหนน่ะ”

จะร้องถามว่าพาไปทำอะไรด้วย หากแต่ไม่ทันจะได้ถาม เธอก็ถูกคังยูดันตัวเข้าไปในซอกตึกเป็นที่เรียบร้อย ก่อนเขาจะตามเข้ามาปิดทางเอาไว้

ในใจของมีนารู้สึกไม่ดีเลย เธอเกรงว่าเขาจะทำอะไรที่เธอไม่คาดคิดอีก ทว่าเมื่อริมฝีปากอิ่มสวยเผยอถาม

“คุณจะทำ...”

คังยูก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้น ใช้ชายเสื้อซับหยาดน้ำตาบนพวงแก้มให้หญิงสาวเสียอย่างนั้น

“อย่าเดินไป ร่ำไห้ไป มันทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าข้าซึ่งเป็นสามีทุบตีเจ้า”

จากนั้นก็ซับชายเสื้อไปทั่วใบหน้าด้วยสัมผัสอ่อนโยน ส่วนมีนาก็ได้แต่นิ่งอึ้งกับการกระทำของผู้ชายตรงหน้า

สามี...

เออ ไม่ใช่หรอก แต่ตอนนี้อยากได้เขาเป็นสามีแล้วล่ะ คนอะไร สุภาพบุรุษสุดๆ เหมาะกับบทพระรองมาก

แต่แล้วความคิดนั้นก็มลายหายไปเมื่อน้ำเสียงทุ้มลอยออกจากริมฝีปากหนา

“เป็นหญิงหม้ายใช่ว่าชีวิตจะจบสิ้น ไม่ต้องร่ำไห้ปานจะขาดใจขนาดนั้น”

หญิงหม้ายบ้าบอคอแตกอะไร! โดนแฟนทิ้งเฉยๆ โว้ย!

“ฉันไม่ได้เป็นหม้ายค่ะ ยังไม่ได้แต่งงานกับไอ้บ้านั่น แค่คบหาดูใจกันพักนึงแล้วก็เลิกรากันไปเฉยๆ”

จำเป็นต้องเถียงออกมาแล้วเมื่อถูกเข้าใจผิดไปไกล

คังยูเข้าใจได้ในตอนนี้ พยักหน้ารับช้าๆ โดยไม่แสดงสีหน้าอะไรออกมา นอกจากพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“จะเป็นอย่างไรก็เรื่องของเจ้า แต่ข้าจะบอกให้เจ้ารู้ว่าเพียงถูกชายซึ่งไม่เห็นค่าของเจ้าทิ้งขว้าง หาใช่ว่าชีวิตของเจ้าจะสิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ หากเสียใจก็อย่าได้ฟูมฟายนัก ชีวิตของเจ้ายังต้องดำเนินต่อแม้ว่าเจ้าจะเลยวัยแต่งงานมามากแล้วก็ตาม”

ไม่พ้นหาว่าเธอขึ้นคานอีกจนได้ทั้งที่ตัวเองก็เลยวัยแต่งงานมาแล้วเหมือนกันหากเทียบกับอายุเฉลี่ยของวัยสมควรมีครอบครัวในยุคโชซอน

มีนายู่ปากเล็กน้อย ไม่อยากจะเก็บมาใส่ใจหรอกเพราะยุคสมัยของเขากับเธอมันต่างกัน

เมื่อเห็นหญิงสาวหยุดร้องไห้ คังยูก็ดึงมือออก ปล่อยให้มีนาได้ใช้มือปาดน้ำตาบนใบหน้าตัวเองลวกๆ

“ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยฉัน ไม่อย่างนั้นฉันคงตกอยู่ในสถานการณ์บ้าๆ นั่นอีกนาน”

“หามิได้ ถือเสียว่าเป็นการตอบแทนแม่นางที่ให้ที่พำนักและเอื้อเฟื้ออาหารให้กับข้าแล้วกัน” คังยูว่า

สิ้นเสียงก็ทำท่าจะเดินออกจากซอกตึกไป มีนามองตามแล้วก็โพล่งขึ้นมากะทันหัน

“มีนาค่ะ”

คังยูชะงักขา หันกลับมามอง ให้มีนาได้พูดขึ้นอีกครั้ง

“ฉันชื่อมีนาค่ะ แต่ไม่ใช่ชื่อเกาหลีหรอกนะคะ เป็นชื่อภาษาไทย มาจากชื่อเดือนมีนาคมเพราะฉันเกิดในเดือนนี้ บังเอิญมันพ้องกับชื่อในภาษาเกาหลีพอดี ดังนั้นไม่ต้องเรียกฉันด้วยชื่อสกุลหรอกค่ะ เรียกชื่อนี้ได้เลย”

คังยูไม่เข้าใจนักว่าการที่หญิงสาวบอกว่าตัวเองเป็นคนไทยนั้นหมายถึงอะไรหรือเป็นคนเผ่าไหน แต่ก็พยักหน้ารับรู้ว่าเธอชื่ออะไรหลังจากที่เรียกว่าแม่นางๆ อยู่นาน ก่อนจะขยับริมฝีปากขึ้นบ้าง

“คิมคังยู รองเจ้ากรมแห่งสำนักมือปราบเมืองฮันยาง คนส่วนใหญ่เรียกข้าว่าใต้เท้าคิม”

มีนายิ้มน้อยๆ เธอรู้อยู่แล้ว หากแต่ก็พยักหน้ารับไป

“ค่ะ ใต้เท้าคิม”

ออกจะแปลกๆ สักหน่อย แต่ก็เรียกไปก่อนแล้วกัน ตอบแทนที่เขาอุตส่าห์แสร้งเป็นแฟนใหม่เธอตอกกลับผู้ชายซังกะบ๊วยคนนั้น

ถึงคังยูจะช่วยเหลือไม่ให้เธอต้องเสียน้ำตาต่อหน้าอดีตคนรัก หากแต่เมื่อกลับมาถึงอพาร์ตเมนต์ ภาพบาดตาบาดใจนั่นก็ทำให้มีนาไม่อาจลบเลือนได้ เธอจมอยู่กับน้ำตาอีกครั้ง แทบจะเรียกได้ว่าหลับไปทั้งน้ำตาเลยก็ได้ และคังยูก็ไม่ได้พูดปลอบโยนแต่อย่างใด เขาถือว่าไม่ใช่ธุระกงการของเขาที่จะยื่นมือเข้าไปยุ่ง ที่ทำก่อนหน้านั้นแค่ช่วยไม่ให้มีนาถูกหักหน้าก็เท่านั้น

หากแต่การที่เขาไม่พูดอะไรเลย ก็ทำให้มีนาตื่นมาในเช้าวันใหม่ด้วยสภาพไม่ต่างอะไรจากถูกผึ้งต่อยตา

เรียกได้ว่าโทรมหมดสภาพสุดๆ

คังยูรู้ว่ามันเป็นการเสียมารยาทหากเอ่ยทักเรื่องรูปลักษณ์จึงได้แต่ปิดปากเงียบตลอดการร่วมมื้อเช้า

ไม่พูดก็ถือว่าไม่เห็น...เขาคิดอย่างนั้น ดังนั้นบรรยากาศระหว่างเขากับหญิงสาวจึงดำเนินไปอย่างปกติ ที่ไม่ปกติก็คือมีนาตัดสินใจสอนเขาใช้ห้องน้ำ

...เริ่มต้นที่ชักโครก

“เวลาทำธุระเสร็จแล้วก็กดตรงนี้เพื่อทำความสะอาดนะคะ ส่วนกระดาษทิชชูนี่ก็เอาไว้ใช้ทำความสะอาด”

สีหน้าของคังยูดูงุนงงมากทีเดียว ก่อนที่เขาจะถามกลับ

“ไม่มีไม้แท่งเล็กๆ รึ”

มีนาส่ายหน้าพรึ่บ “สมัยนี้ไม่มีใครใช้ไม้ป้ายแปะแล้วทิ้งกันแล้วค่ะ มันสกปรก ไม่ถูกสุขลักษณะ”

อธิบายไปก็กระดากปากไป ดีที่คังยูทำความเข้าใจได้ ทุกการอธิบายเรื่องการใช้ชักโครกจึงยุติลงแค่นี้

“ส่วนขวดพวกนี้เป็นอุปกรณ์ทำความสะอาดร่างกาย อันนี้เป็นสบู่เหลว เอาไว้ฟอกตัว ส่วนอันนี้เป็นแชมพูกับยานวดผม เอาไว้สระผม ใช้แชมพูก่อน สระเสร็จก็ล้างด้วยน้ำสะอาด ถ้าอยากให้ผมนุ่มก็นวดด้วยครีมนวดผม จากนั้นก็ล้างน้ำอีกทีนะคะ ฝักบัวก็เปิดตรงนี้”

คังยูพยายามใช้เวลาในการทำความเข้าใจอย่างรวดเร็ว พอมีนาเห็นเขาพยักหน้ารับก็พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ

“เข้าใจอยู่เนอะ แต่เพื่อความชัวร์ คุณแกะมวยผมออกมาค่ะ เดี๋ยวฉันจะสาธิตให้”

ว่าพลางกระดิกนิ้วบอกให้ชายหนุ่มทำตาม

คังยูไม่ค่อยอยากให้หญิงสาวมาสัมผัสตัวเขาเท่าไรนักหรอก นอกจากจะไม่เหมาะสมแล้ว มีนาอาจจะทำให้หญิงที่เขารักเข้าใจผิดว่าเขามีใจให้กับมีนาก็ได้

หากแต่พอจะปฏิเสธ มีนาก็ว่าออกมาเสียก่อน

“ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาเห็นหรอกค่ะ ในห้องนี้มีแค่ฉันกับคุณ ไม่มีใครโผล่มาหรอก”

อยากจะบอกด้วยว่านางเอกนิยายเรื่องนั้นไม่มีวันมาเห็นอย่างแน่นอนเพราะอยู่คนละมิติกัน แต่ก็นึกชื่อไม่ออก

คังยูลังเลอยู่ครู่ แต่พอมีนาเอ่ย

“มาสิคะ”

ก็จำต้องแก้มวยผมแต่โดยดี

ผมยาวสีดำขลับสยายยาวถึงกลางแผ่นหลังชายหนุ่ม มีนาคว้าเอาแปรงผมมาแปรงให้ผมคลายตัวออกจากกัน ก่อนที่จะจับเอาปลายผมส่วนหนึ่งมาล้างน้ำเปล่าและเทแชมพูลงไปเล็กน้อย

“ทำแบบนี้นะคะ ขยี้ให้มีฟองแต่ทำทั้งหัว จากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำ ทำเองได้เนอะ”

“แค่ดูแลชำระล้างร่างกายตนเอง ไม่ต้องให้เจ้ามาสั่งสอนมากมายนักหรอก” คังยูว่า

มีนาเลิกคิ้วสูงเล็กน้อยด้วยท่าทางไม่ยี่หระ ก่อนจะล้างคราบแชมพูออกจากมือแล้วส่งฝักบัวให้อีกฝ่ายถือ

“ถ้าอย่างนั้นก็เชิญชำระล้างร่างกายตามสบายเลยค่ะใต้เท้า เดี๋ยวฉันจะออกไปหาซื้อเสื้อผ้าที่ซุปเปอร์ฯ แถวนี้มาให้ ชุดนั่นจะได้เอาไปซักสักที เหม็นจะแย่แล้ว” มีนาว่าเร็วๆ แล้วก็ก้าวออกจากห้องน้ำไป ส่งเสียงดังตามหลังมาอีกนิด “ผ้าเช็ดตัวเอาวางไว้ตรงนี้นะคะ อาบน้ำเสร็จก็ใช้อันนี้ซับนะ”

ช่างเป็นหญิงที่เจ้ากี้เจ้าการ

คังยูที่ไม่คุ้นชินกับการดูแลมากมายเช่นนี้ถึงกับบ่นในใจ ทว่าก็ไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงใดๆ เบนความสนใจมาหาการชำระล้างร่างกายตนเองด้วยวิธีการที่เขาไม่คุ้นชินอย่างจดจ่อ ปล่อยให้มีนาชำเลืองมองประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทอย่างลุ้นระทึก

หวังว่าเขาคงจะไม่ทำห้องน้ำพังก่อนเธอกลับมานะ...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel