บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 - นักฆ่าหุ่นเชิด

บทที่ 1

นักฆ่าหุ่นเชิด

เฟยหมิงเปลี่ยนชุดมาเป็นชุดสีดำเข้ารูปที่สะดวกในการเดินเหิน และยังเต็มไปด้วยกระเป๋าเก็บของตามตัวที่เป็นที่ไว้สำหรับเก็บอาวุธลับโดยเฉพาะ แม้กระทั่งเนื้อผ้ายังให้ความรู้สึกสบายแต่ไม่บางจนเกินไป และที่สำคัญยังมีเกาะหนังเย็บติดซ่อนเอาไว้บังจุดสำคัญตามร่างกาย นับว่าเป็นชุดที่เหมาะสำหรับตำแหน่งนักฆ่าแนวหน้าของสำนักนภาเงิน

เลี่ยงหรูนำทางเฟยหมิงมาจนถึงตำหนักใหญ่ใจกลางสำนัก ระหว่างทางที่เดินผ่านมา เฟยหมิงอดไม่ได้ที่จะสังเกตรอบข้างเพื่อที่จะช่วยให้ความทรงจำกลับคืนมา แต่ทว่านอกจากหมอกหนาที่บดบังรอบด้านแล้ว นางก็ไม่อาจนึกอะไรออกแม้แต่อย่างเดียว

องครักษ์สาวสองคนที่ยืนเฝ้าประตูเหล็กหนาหน้าตำหนักเงยหน้าขึ้นมองผู้มาเยือนทั้งสองด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ เมื่อพวกเขาเห็นว่าเป็นใครที่มาเยือน หนึ่งในนั้นก็เปิดประตูออกกว้างให้อย่างง่ายดาย

เลี่ยงหรูหลีกทางออกให้เฟยหมิงเดินนำเข้าไป

ไม่ทันที่นางจะได้สังเกตภายในห้องได้อย่างเต็มตา ทันใดนั้นเองก็มีมีดบินพุ่งปราดตรงมายังใบหน้างาม ด้วยสัญชาตญาณในส่วนลึกทำให้นางเบี่ยงตัวหลบในทันใด พร้อมทั้งยกมือขึ้นใช้สองนิ้วหนีบเอามีดบินไว้ในมือ

หลังจากที่ช่วงเวลานาทีลุ้นระทึกได้หยุดลง เสียงหวานก้องกังวานเต็มไปด้วยอำนาจก็ดังขึ้นมาจากสุดทางเดินภายในห้อง

“ช่างน่าประทับใจ”

เฟยหมิงเพ่งตรงไปยังตรงกลางห้องที่เป็นที่นั่งสูงขึ้นไปอีกสามขั้น บนเก้าอี้หยกสีขาวได้มีสตรีในชุดผ้าโปร่งสีดำทบกันหลายชั้นนั่งอยู่ นางเป็นสตรีที่มีใบหน้างดงามเย้ายวนยากที่จะลืมเลือน ริมฝีปากของนางประดับด้วยรอยยิ้มละมุนที่โค้งนิด ๆ ที่มุมปากดูแล้วให้ความรู้สึกถึงอารมณ์สุนทรีย์ที่แผ่กระจายออกมา

“แม้ความจำจะหายไป แต่สัญชาตญาณนักฆ่าของเจ้าก็ยังคงอยู่ดี ข้าขอชื่นชมเจ้าจริง ๆ เฟยหมิง”

“ท่านคือนายแม่ของที่แห่งนี้สินะ” เฟยหมิงถามขึงขณะที่ก้าวเข้าไปใกล้

ภายในห้องกว้างที่สว่างปลอดโปร่งแห่งนี้มีบรรยากาศที่แปลกประหลาด แม้ทุกอย่างจะชวนให้ความรู้สึกโล่งสบาย แต่เหล่าข้าบริวารในชุดสีขาวฟ้ารอบข้างต่างพากันก้มหน้านิ่ง ไม่มีผู้ใดที่กล้าพอจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาสตรีผู้ที่อยู่บนบัลลังก์หยกขาวแม้แต่ผู้เดียว

พวกเขาต่างใช้สีหน้าชื่นมื่นปกปิดเบื้องลึกบางอย่างเอาไว้

บางอย่างที่ไม่มีใครบอกมันกับนาง

“สำหรับพวกนาง... ใช่” เจ้าแม่แห่งสำนักนภาเงินกวาดตามองคนอื่น ๆ ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่จินหมิง “แต่สำหรับเจ้า... ข้าคือหนิงเซียน”

“เพราะเหตุใด” เฟยหมิงถามออกมาตรง ๆ

นางไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดหนิงเซียนถึงปฏิบัติกับตนเองดีกว่าผู้อื่น ทั้ง ๆ ที่คนที่นี่ล้วนแล้วแต่ตกอยู่ภายใต้การบัญชาของหนิงเซียนเหมือนกันหมด

“เฟยหมิง... เจ้าคือผู้ที่ฟื้นคืนจากความตาย เหตุผลเพียงแค่นี้ก็เพียงแค่นี้ก็มากพอแล้วที่จะกล่าวว่า เจ้าคือคนที่พิเศษที่สุดเหนือกว่าทุกผู้ในดินแดนแห่งนี้” เสียงของหนิงเซียนเนิบช้าขณะที่กล่าว ชวนให้ผู้ฟังรู้สึกคล้อยตามอย่างไม่รู้ตัว “เจ้าเกิดมาเพื่อเป็นนักฆ่า หากภารกิจของเจ้ายังไม่สำเร็จลุล่วง ฟ้าก็ไม่มีวันยอมให้เจ้าตายอย่างเด็ดขาด”

“ฟ้าหรือ? ท่านจะบอกว่าการมีอยู่ของข้าคือกำหนดของโชคชะตาเช่นนั้นสิ” เฟยหมิงแทบจะหัวเราะออกมาหลังจากกล่าวจบ

นางรู้สึกขบขันให้กับความเชื่อของคนตรงหน้า เพราะบางสิ่งภายในความทรงจำส่วนลึกกำลังร้องบอกว่ามันเป็นเรื่องตลก

“เจ้าอาจจะนึกตลก แต่หน้าที่ของเจ้าไม่ใช่เรื่องตลกหรอกนะ เฟยหมิง หากเจ้าไม่เชื่อในโชคชะตาลิขิต เช่นนั้นเจ้าก็ควรจะรู้ไว้อย่างหนึ่ง ว่าข้าคนนี้คือผู้ที่ช่วยชีวิตเจ้าเอาไว้”

คำพูดของคนบนเก้าอี้นั้นเรียบนิ่ง หากแต่เฟยหมิงได้ยินก็รู้ทันทีว่านี้คือคำขู่

“ท่านต้องการให้ข้าทำอะไร” เฟยหมิงถามอีกฝั่ง

แม้จะไร้ซึ่งความทรงจำ แต่สิ่งหนึ่งในฐานะนักฆ่าสำหรับเฟยหมิงนั้นคือความซื่อสัตย์และภักดีต้องมาก่อนสิ่งอื่นใด หากผู้เป็นนายสั่งต้องทำตาม ห้ามมีคำถามมากังขา เพราะมือที่เปื้อนเลือดแล้วย่อมไม่มีความเมตตาใด ๆ หลงเหลืออยู่

นักฆ่าที่ไร้จิตใจก็คือหุ่นเชิดชั้นดี

และนั่นก็คือสิ่งที่เฟยหมิงรู้สึกในตอนนี้ นางรู้สึกว่าตัวเองไม่ต่างอะไรจากหุ่นเชิดที่พร้อมจะรับคำสั่งแล้วทำตาม

“หน้าที่สำคัญของเจ้าในตอนนี้คือ...” หนิงเซียนลากเสียงยาวขณะที่ยกยิ้มมุมปากขึ้นมาช้า ๆ “จงไปตีสนิทกับรองประมุขเขาเหมันต์ ทำให้เขาเชื่อใจเจ้าจนหมดหัวใจ แล้วรอเวลาที่จะสังหารเขาทันทีที่ข้าสั่ง”

เฟยหมิงหัวใจกระตุกวูบไปชั่วขณะที่ได้ยินคำว่าหุบเขาเหมันต์ ความรู้สึกประหลาดเกาะกุมหัวใจ หรือบางทีนี้จะเป็นหน้าที่ของนางจริง ๆ ก่อนที่จะสูญเสียความทรงจำ ไม่เช่นนั้นคงไม่รู้สึกคุ้นเคยได้ถึงเพียงนี้

ร่างในชุดสีดำคุกเข่าลงรับคำสั่งด้วยท่าทีแข็งขันในทันที ดวงตาคมปลาบของนางประกายความเยือกเย็นไร้เมตตา เหมือนกับท้องนภาที่ว่างเปล่าไร้ดวงดาว

“เจ้าค่ะ”

สิ้นคำรับ เฟยหมิงก็หันหลังจากไปพร้อมกับเลี่ยงหรูที่คอยติดตามไปดูแล นักฆ่าทั้งสองแห่งนภาเงินได้เตรียมเดินทางมุ่งไปยังจุดหมายที่ได้รับ

‘หุบเขาเหมันต์’

ที่แห่งนั้นจะช่วยฟื้นความทรงจำที่เต็มไปด้วยหมอกควันให้นางได้หรือไม่ นักฆ่าพวกนั้นจะมอบคำตอบให้แก่นางก่อนที่พวกเขาจะสิ้นลมหรือไม่...

ระหว่างการเดินทางข้ามดินแดนที่แห้งแล้ง บนรถม้าคันหนึ่งได้มีสตรีสองนางในชุดผ้าหยาบ นั่งสนทนากันเรื่องที่สตรีในวัยพวกนางไม่ควรพูดถึงด้วยสีหน้าราบเรียบ

“เจ้าบอกว่าคนพวกนั้นทำร้ายข้าจนสูญเสียความทรงจำ แล้วเช่นนั้นข้าจะไปเข้าใกล้รองเจ้าสำนักผู้นั้นได้อย่างไร” เฟยหมิงถามเลี่ยงหรู

คำสั่งของหนิงเซียนคือทำให้รองจ้าวหุบเขาผู้นั้นเชื่อใจ หากแต่นางเคยถูกไล่ฆ่ามาก่อน จะไปใช้วิธีไหนให้คนผู้นั้นเชื่อใจได้

“เรื่องนั้นน่ะหรือ...” เลี่ยงหรูที่จิตใจหลุดลอยอยู่นอกหน้าต่างหันกลับมาหา “พวกเขาไม่เห็นหน้าเจ้า เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นไปหรอก”

คำพูดของเลี่ยงหรูกล่าวพูดเหมือนขอผ่านไปที ท่าทางของนางดูไม่ใส่ใจกับหน้าที่ที่ได้รับ ต่างจากเฟยหมิงที่นั่งขบคิดอยู่เป็นนานว่าตนเองควรทำอย่างไรต่อ

“เจ้ารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับรองประมุขผู้นั้น”

พอพูดถึงข้อมูลเกี่ยวกับหุบเขาเหมันต์ เลี่ยงหรูก็ดูจะให้ความสนใจขึ้นมาทันใด เหมือนกับว่าหากเป็นเรื่องที่นางตอบได้ นางก็จะอยากตอบขึ้นมาทันที

“รองประมุขหุบเขาเหมันต์น่ะหรือ นามของเขาคือหยินหลัน เป็นบุตรชายเพียงผู้เดียวของหยินหรงเทียน นักฆ่าตัวฉกาจผู้ไร้เมตตาแห่งแผ่นดินหยาง คนพวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นนักฆ่าเลือดเย็น พวกเขาฆ่าทุกคนตามคำสั่งของฮ่องเต้หยางโดยไม่สนใจสิ่งใด ความชั่วร้ายของพวกเขาทำให้ผู้คนต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดกลัวมาตลอด ด้วยเหตุนี้นายแม่ถึงต้องการให้ตระกูลหยินที่ครอบครองหุบเขาเหมันต์ล่มสลาย”

“แล้วเหตุใดต้องสังหารรองประมุขหุบเขา ในเมื่อผู้ครอบครองตำแหน่งยังคงอยู่ ฆ่าคนผู้นั้นไปก็ไม่เกิดผลอะไรไม่ใช่หรือ”

“ไยเราจะต้องไปไล่ฆ่าคนใกล้ตายด้วยเล่า จ้าวหุบเขาผู้นั้นมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนักหรอก” เลี่ยงหรูแสยะยิ้ม

ประมุขหุบเขาเหมันต์เป็นเหมือนปีศาจ เขามีพลังมากมายแต่ก็แลกมาด้วยกับพลังชีวิตที่ค่อย ๆ ถูกกลืนกิน เรื่องความลับนี้มีเพียงคนไม่กี่คนที่รู้เรื่อง เป็นความลับที่เปรียบเสมือนจุดอ่อน ที่เพียงแค่แพร่งพรายออกไป ตำแหน่งของบุรุษผู้นั้นก็ต้องสั่นคลอน

“เช่นนั้นเจ้ามีแผนอะไรที่จะให้ข้าไปเข้าถึงตัวรองประมุขหุบเขาผู้นั้นได้”

เมื่อได้ฟังคำของเฟยหมิง เลี่ยงหรูก็พลันเงยหน้าสบตากับคนถามในทันใด “เรื่องนั้น มันขึ้นอยู่กับเจ้าไม่ใช่หรือ ข้าแค่คนมาส่งเจ้าที่หน้าทางเข้าหุบเขาก็เท่านั้น”

“เจ้าจะทิ้งข้าที่ไม่มีความทรงจำใด ๆ ให้ไปทำภารกิจคนเดียวเนี่ยนะ” เฟยหมิงตาแทบจะถลนออกมาจากเบ้า

“เจ้าเป็นนักฆ่า ในเมื่อนายแม่เชื่อในตัวเจ้า ข้าก็เชื่อในตัวเจ้าเช่นกัน”

เมื่อไม่มีความช่วยเหลือ เฟยหมิงจึงต้องใช้ความคิดของตัวเองในการวางแผน ถึงแม้ความทรงจำเกี่ยวกับตัวเองและคนรอบข้างได้หายไป แต่เหมือนกับแนวทางวิธีคิดและเรื่องของการใช้ชีวิตยังคงอยู่

ถ้าหากพูดถึงสำนักของเหล่านักฆ่า พวกเขาย่อมอยู่กันอย่างเป็นความลับ ไม่มีทางที่คนนอกเช่นนางจะเข้าไปใกล้ได้โดยง่าย ทางเดียวที่จะเข้าไปคงมีเพียงติดต่อคนภายในจากข้างนอก

“ข้าจะพบคนของหุบเขาเหมันต์ได้จากที่ไหนบ้าง”

“เจ้าสามารถพบคนของหุบเขาแห่งนั้นได้ทุกที่ พวกเขาล้วนแล้วแต่ซ่อนตัวอยู่ตามเมืองต่าง ๆ ทั่วแผ่นดินหยาง สิ่งเดียวที่จะยืนยันตัวได้ก็คือ เกล็ดหิมะเหมันต์ ที่มีชื่อสลักของแต่ละคน”

“เกล็ดหิมะเหมันต์อย่างนั้นหรือ...”

คำคำนี้ช่างดูคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด ราวกับว่าเฟยหมิงนั้นเคยได้จับมันมาก่อน ถ้าหากได้เห็นเพียงสักครั้ง บางทีความทรงจำที่ขาดหายอาจจะกลับคืนมาบางส่วน

“ใช่... เจ้าจำอะไรได้หรือเปล่า”

“ไม่” นางส่ายหัวเบา ๆ ถึงแม้จะมีความรู้สึกคุ้นชิน แต่บางทีก็ยังไม่ควรบอกใครไป เพราะสัญชาตญาณของนางกำลังบอกว่าไม่ควรไว้ใจใครทั้งนั้น “ถ้าเจ้าบอกว่านักฆ่าหุบเขาเหมันต์อยู่ทุกทุกที่ เช่นนั้นก็ไม่ต้องไปส่งข้าที่ทางเข้า แต่ไปส่งข้าในตัวเมืองก็เพียงพอ”

“เจ้าคิดแผนได้แล้วหรือ” เลี่ยงหรูแสดงท่าทีสนใจ

ท่าทางของเลี่ยงหรูเหมือนกับเป็นดวงตาที่คอยจ้องจะจับผิดทุก ๆ อย่างในตัวของเฟยหมิง จนนางรู้สึกอึดอัดใจ และปิดกั้นตัวเองไม่ยอมตอบคำถามใด ๆ ของสตรีตรงหน้าอีก

“อืม” เฟยหมิงพยักหน้ารับเบา ๆ เพียงเท่านั้น

เลี่ยงหรูพยายามสบสายตาเฟยหมิง แล้วเค้นเอาความลับออกมาจากสตรีใบหน้าเย็นชาตรงหน้า แต่สิ่งที่หน้าได้รับคือความว่างเปล่าที่เยือกเย็น

รถม้ามาจอดอยู่ที่เมืองใหญ่ใกล้ ๆ กับหุบเขาเหมันต์ เลี่ยงหรูยืนยันที่จะตามเฟยหมิงมาด้วยแต่กลับถูกอีกฝ่ายไล่กลับไป โดยมีเหตุผลว่า หากจะต้องทำตามวิธีของนาง เช่นนั้นก็ต้องมีแค่นางเท่านั้น หากแผนการคืบหน้าไปมากกว่านี้ นางถึงจะส่งข้อความไปบอกเจ้าแม่นภาเงินด้วยตัวเอง

เฟยหมิงเงยหน้ามองโรงเตี๊ยมแหล่งรวมผู้คนด้วยสายตาคุ้นเคย ความรู้สึกบอกว่าตนเองเคยมาที่แห่งนี้ แต่เหมือนกับมีหมอกบางอย่างปิดบังภาพความทรงจำเอาไว้ เมื่อพยายามนึกคิดอยู่ครู่ใหญ่แต่หนทางยังคงดำมืด นางจึงตัดสินใจเดินเข้าไปข้างใน

ก้าวแรกที่เข้ามา เฟยหมิงถึงรู้สึกว่าบางทีตนเองอาจคิดไปเอง ที่คาดหวังว่าจะมีใครสักคนที่รู้จักนางแล้วเดินเข้ามาทักทาย เพราะในความเป็นจริง ผู้คนรอบด้านต่างสนใจอยู่แต่กับคนรู้จักของตนเอง นางในที่แห่งนี้ก็ไม่ต่างจากคนแปลกหน้าคนหนึ่ง ที่หลงเข้ามาในแหล่งชุมชน

นางรู้สึกโดดเดี่ยว แต่เหตุใดถึงรู้สึกคุ้นเคยกับความโดดเดี่ยวนั้นกันนะ

“ยินดีต้อนรับแม่นาง แม่นางอยากได้ที่นั่งแบบใดกัน หรืออยากได้เป็นห้องส่วนตัวชั้นบนก็มีนะขอรับ”

กวาดตามองได้ไม่นาน ก็มีหนุ่มน้อยคนหนึ่งวิ่งเข้ามาต้อนรับเฟยหมิงด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใส ท่าทางของเขานั้นช่างเข้ากันกับบรรยากาศครึกครื้นรอบด้าน เมื่อตระหนักได้อีกครั้งว่าตนเองอยู่ที่ไหน นางก็มาฉุกคิดได้ว่าในตัวของตนมีเงินติดตัวบ้างหรือไม่

“ข้า...”

เฟยหมิงกำลังจะตอบออกไป ขณะที่มือก็จับหาถุงเงิน แต่ไม่ทันไร จู่ ๆ เสียงภายในโรงเตี๊ยมก็เงียบลง ทุกสายตาต่างหันไปมองตรงบันไดทางลง ที่ซึ่งมีชายหนุ่มผมขาว ใบหน้าไร้อารมณ์ค่อย ๆ เดินลงมาพร้อมกับเหล่าชายในชุดสีดำที่ตามหลัง การปรากฏกายของเขาทำให้รอบด้านก็รับรู้สึกถึงความเย็นเยียบที่แผ่กระจาย บรรยากาศนั้นช่างชวนให้รู้สึกโหวงเหวงจนหาคำพูดบรรยายออกมาไม่ถูก

ใครกันที่มีพลังรอบกายมากถึงเพียงนั้น

เฟยหมิงคิดอยู่ในใจ ด้วยความที่นางเป็นสตรีมีหมวกและผ้าปกคลุมหน้า จึงทำให้ตนเองกล้าพอที่จะพินิจมองใบหน้าของบุรุษผู้นั้นได้อย่างง่ายดาย เขาช่างให้ความรู้สึกคุ้นเคย เหมือนกับที่ได้ยินเรื่องเกล็ดหิมะ หรือตอนที่เห็นโรงเตี๊ยม แต่นั่นไม่ใช่ความรู้สึกเดียวในยามนี้ หากแต่ยังมีความรู้สึกโหยหาบางอย่างที่ทำให้อยากเข้าไปใกล้

“แม่นาง ท่านอย่าเข้าใกล้บุรุษผู้นั้นจะเป็นการดีต่อตัวท่านที่สุดนะขอรับ” หนุ่มน้อยกระซิบบอก เมื่อเขาที่อยู่ใกล้เห็นได้ว่าแม่นางชุดขาวกำลังหลงไปในเสน่ห์ของรองจ้าวหุบเขาเหมันต์

นับตั้งแต่ที่บุรุษผู้นั้นกลับมาจากวังหลวงแล้วเก็บตัวอยู่แต่บริเวณหุบเขา เขาก็ไม่เคยเข้าใกล้หรือยุ่งเกี่ยวกับสตรีคนใดอีกเลย ไม่มีใครรู้ถึงเหตุผลที่แท้จริง และก็ไม่มีใครกล้าพอที่จะค้นหาข้อเท็จจริงเหล่านั้น เพราะคนที่คิดล้วนแต่ถูกฆ่าตายจนหมดสิ้น ภาพความทรงจำจากคุณชายที่มีท่าทีอบอุ่น กลับกลายเป็นก้อนน้ำแข็งเดินได้ในชั่วข้ามคืน

“เขาคือใคร” เฟยหมิงกระซิบถามกลับ

“คนผู้นั้นคือรองจ้าวหุบเขาเหมันต์ หยินหลัน ขอรับ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel