บท
ตั้งค่า

4“จริงเหรอ.... หื้อ แม่ว่ามันเหมือนพรมลิขิตเลยนะ”

ไอ้การรีดผ้านี่มันก็ไม่ได้ยากเลยนะเนี่ย แค่เอากด ๆ ทับ ๆ ให้ความร้อนมันทำงานเองก็เรียบร้อยละ ฉันนั่งกดเตารีดลงบนสูทพร้อมกับเปิดเพลงฟัง ตอนนี้มันเวลาเกือบ 11 โมงแล้ว และสูทก็แห้งแล้วด้วย แถมหอมฟุ้งเพราะกลิ่นน้ำหอมสุดหรูของฉัน

“โฉมมมม”

“หืม...”

“เสร็จยัง ทำอะไรอยู่อ่ะ?”

“รีดสูทไง?”

“เดี๋ยวนะ! สูทใคร ? นี่มึงเอาผู้ชายมานอนด้วยเหรอ?!"

“จะบ้ารึไง เมื่อคืนกูเดินไปชนผู้ชายคนหนึ่งแล้วเหล้ามันหกไปใส่สูทของเขา กูก็เลยต้องเอามาซักให้”

“อ๋อ... แล้วเสร็จยังอ่ะ เราต้องขึ้นฝั่งตอนเที่ยงนี้นะ”

“อ้าวไหนมึงบอกว่าตอนเย็น”

“กูเมาอ่ะเลยฟังผิด เดี๋ยวกูช่วยเก็บของแล้วกัน หุบปากอย่าบ่น”

อีเพื่อนคนนี้มันจริง ๆ เลย เมาแล้วไม่ได้เรื่อง ฉันหุบปากไม่ได้บ่นอะไรเพียงแต่คิดในใจเท่านั้น หอมมันก็เดินเก็บข้าวเก็บของฉันใส่กระเป๋าช่วย ไม่นานก็เก็บเสร็จ

“เดี๋ยวกูเอากระเป๋ามึงไปไว้ที่ล๊อบบี้กับกระเป๋ากูเลยละกัน เสร็จแล้วก็ตามออกไปนะ”

“อืม”

ฉันตอบเพื่อนสั้น ๆ พร้อมกับหันมาจัดแจงตัวเองต่อ ฉันมัดผมยกขึ้นสูงแล้วหยิบเสื้อคลุมบาง ๆ มาสวมใส่ คว้ากระเป๋าสะพายได้ก็รีบหยิบสูทแล้วสวมรองเท้าเดินออกจากห้อง

คีย์การ์ดห้องของฉันถูกดึงออกเมื่อปิดประตูสนิท.... ฉันยังไม่ทันได้ก้าวไปประตูห้องฝั่งตรงข้ามฉันก็เปิดออกมาเหมือนกัน

“คุณ”ไม่อยากจะเชื่อว่าห้องตรงข้ามคือห้องของผู้ชายคนเมื่อคืนที่ฉันเดินชน เจ้าของสูทนี้

“หึ.... เธอนั้นเอง”เขาเดินออกมาพร้อมกับติดกระดุมเสื้อเชิ้ต

“ดีใจที่ได้เจออีกครั้ง ฉันก็คิดว่าจะไม่ได้สูทคืนซะแล้ว”

“ได้คืนอยู่แล้วแหละค่ะ ถึงฉันไม่เจอคุณตรงนี้ ยังไงฉันก็ต้องตามหาคุณอยู่ดี อ่ะ! นี่สูทของคุณ ฉันซักให้แล้ว”ฉันยื่นสูทคืนเขาไปพร้อมกับยิ้มให้เล็กน้อย

“อืม”เขารับมันไปพร้อมกับวางลงที่ต้นแขน

"ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ ขอโทษอีกครั้งเรื่องเมื่อคืน”

“อืม”เขายกยิ้มขึ้นเล็กน้อยแล้วจ้องมองใบหน้าฉันอย่างไม่ละสายตา หรือว่าฉันคิดไปเองอีกแล้ววะ

ฉันมองเขาแว๊บเดียวก็รีบสาวเท้าเดินออกมาจากตรงนั้น ไม่นานก็เดินมาถึงที่เพื่อนของฉันกำลังนั่งรอ หอมนั่งจิบกาแฟพร้อมกับกดมือถือของมันไป

ฉันเดินไปนั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้ามเพื่อน...

“อ้าว.... แล้วมึงไม่ได้เอาสูทที่นั่งรีดออกมาด้วยเหรอ?”

“กูคืนเจ้าของเขาไปแล้ว”

“แหม ๆ .... ไวแท้นะคะคุณโฉมงาม”

“ห้องเขาอยู่ตรงข้ามห้องกู ตอนเดินออกมากูเจอเขาพอดีก็เลยคืนเขาไป ไม่ได้ไวอย่างที่คุณน้ำหอมคิดหรอกค่ะ”

“อ๋อ....เป็นอย่างนั้นเองเเหรอคะ? หึ ๆ”

“ค่ะ! นี่มึงสั่งอะไรกินยังอ่ะ”

“กูสั่งแล้ว สั่งเผื่อมึงด้วยเดี๋ยวก็มา”

ฉันเอากระเป๋าสะพายออกจากแขนแล้วหยิบมือถือขึ้นมาเล่นรออาหาร เอาจริง ๆ ก็ไม่ได้ดูอะไรหรอก นอกจากกดเข้าไปดูแชทที่ส่งหาเสือ

ข้อความหลายร้อยข้อความของฉันมันถูกอ่านนะแต่ไม่มีการตอบกลับ....เขาไม่ตอบกลับจนฉันไม่กล้าที่จะหน้าหนาส่งไปต่อ

( 13::45 )

รถหรูมุ่งขับเคลื่อนเข้าไปที่บ้านหลังใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพยา หลังจากที่ลงจากเรือป๊าก็ให้คนมารอรับฉันที่ท่า ส่วนน้ำหอมแยกกับฉันตั้งแต่ลงจากเรือแล้ว บ้านของเราไม่ได้อยู่ใกล้กันน่ะ

เมื่อรถจอดก็มีคนมาคอยเปิดประตูรถให้ฉัน ชีวิตฉันมันสุดแสนจะสบายราวกับเจ้าหญิง แต่จิตใจกับไม่มีความสุขกับสิ่งตรงหน้าเลยสักนิด

“คุณโฉมขาาาาา”กิ่งสาวรับใช้ข้างกายฉันวิ่งออกมารับอย่างดีอกดีใจ

“ป๊ากับม้าไม่ได้ไปไหนเหรอกิ่ง”

“ไม่ได้ไปค่ะ คุณท่านทั้งสองอยู่ในห้องรับแขกค่ะ”

“เอากระเป๋าฉันไปเก็บบนห้องด้วยละกัน”

“ค่ะคุณโฉม”

ฉันเดินไปที่ห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่เพื่อที่จะไปทักทายคุณพ่อคุณแม่ ( ลืมบอกไปว่าฉันเป็นลูกคนเดียวนะคะไม่มีพี่น้อง )

“ยัยโฉม กลับมาแล้วเหรอลูก? เป็นยังไงไปเที่ยวมาสนุกไหม?”ม้าเอ่ยถามพร้อมกับอ้าแขนรับอ้อมกอดของฉัน

“สนุกค่ะ งื้ออ....คิดถึงจังเลยไม่ได้กอดตั้ง3วัน”

“ไม่กอดป๊าบ้างเลยนะ มันหน้าน้อยใจ”

“โถ่ว.... อย่าน้อยใจไปเลยนะคะ โฉมก็คิดถึงป๊ามากพอ ๆ กับม้าเลย งื้อออ”

ฉันอ้อนพ่อแม่แบบนี้ประจำแหละ.... ถึงฉันจะโตมีอายุมากแค่ไหน แต่ในสายตาของท่านทั้งสองฉันก็ยังเป็นเด็กน้อยที่ชอบอ้อนพ่อแม่อยู่เสมอ

“เป็นยังไงไปเที่ยวเรือสำราญ มันสำราญสมชื่อไหมละ”ป๊าถามเชิงยิ้มเล็กน้อย

“ป๊าก็... มันก็สนุกค่ะ”

ฉันฝืนยิ้มฝืนหัวเราะฝืนมีความสุขออกไปทั้ง ๆ ที่ในใจและเรื่องจริงมันไม่สนุกเลยสักนิด แต่ทำยังไงได้ ฉันไม่อยากให้ป๊ากับม้ารู้นิ่ว่าฉันกำลังตรอมใจแค่ไหน

“ดีแล้ว... หาความสุขให้ตัวเองบ้าง ไหน ๆ ก็เรียนจบแล้ว โฉมอยากจะไปเที่ยวไหนป๊าก็ไม่ว่าอะไรหรอก”

“โฉมไม่อยากไปไหนเลย โฉมอยากอยู่กับป๊าแล้วก็ม้ามากกว่า”

“ลูกคนนี้มันขี้อ้อนจริง ๆ” ม้าบีบแก้มฉันเล็กน้อยอย่างเอ็นดู

“พูดแล้วนะว่าโฉมอยากอยู่กับป๊าแล้วก็ม้า ไม่อยากไปเที่ยวไหน”

“ค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้น คืนนี้ไปงานบ้านลุงทรงพลกับป๊าก็แล้วกัน โอเคไหม?”

ฉันถึงกลับเงยหน้ามองหน้าป๊าแล้วหุบยิ้มแทบไม่ทัน เพราะลุงทรงพลที่ป๊าพูดถึงคือพ่อของเสือ ฉันเคยบอกไปแล้วไงว่าครอบครัวเรารู้จักกัน แต่ไม่มีใครรู้ว่าเราเคยแอบคบกัน

“ว่ายังไงยัยโฉม?”

“เอ่อ... โฉม”

“เอาหน่า... ไปด้วยกันนี่แหละ ป๊าไม่ได้พาหนูไปออกงานด้วยนานแล้ว ไปเปิดหูเปิดตาหน่อยแล้วกันนะลูก”

“ป๊า...”

“หืม”

“เอ่อ... งานที่ว่านี่ใช่งานหมั้นของลูกลุงทรงพลหรือเปล่าคะ”

?

“ไม่ใช่หรอก งานหมั้นของตาเสืออีกตั้ง 2 เดือน”

“อ๋อ... งั้นเเหรอคะ??”

“มีอะไรรึเปล่ายัยโฉม?”

“เปล่าค่ะ โฉมแค่คิดว่าเป็นงานหมั้น...”

“งานเลี้ยงต้อนรับลูกชายคนโตของลุงทรงพลเขาน่ะลูก”

“คนที่ไปเรียนเมืองนอกนั้นเเหรอคะ??”

“ใช่... เห็นว่าเรียนจบมา 2 ปีแล้วแหละแต่อยู่ทำธุรกิจต่อให้ลุงทรงพลที่นั้น พึ่งจะกลับมาถึงเมื่อกลางวันนี้เอง”

“อ๋อ ถ้างั้น...โฉมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ”

“ไปเถอะ แล้วก็รีบลงมานะลูก ไปก่อน 6 โมงครึ่ง”

“ค่ะ”

ฉันรีบสาวเท้ากลับขึ้นห้องของตัวเอง พลางคิดในใจว่าจะทำหน้าแบบไหนถ้าไปเจอเสือในวันนี้ ฉันจะร้องไห้ต่อหน้าทุกคนไหม ฉันจะต้องฝืนยิ้มยังไงให้มันดูปกติ ฉันคิดไม่ออกเลยจริง ๆ ...

( 18:22 )

ที่จริงฉันแต่งตัวเสร็จแล้วแหละ แค่ไม่พร้อมที่จะออกไป ฉันยังไม่รู้เลยว่าฉันจะทำหน้ายังไงถ้าไปเจอเสือ

“คุณโฉมคะ? คุณท่านบอกให้ลงไปได้แล้วค่ะ”ฉันไม่ได้ตอบอะไรกิ่งออกไป แค่มองหน้าตัวเองในกระจกอยู่แบบนั้น

“คุณโฉม... เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”

“เปล่า... ฉันดูเป็นยังไงบ้างกิ่ง”ฉันลุกขึ้นยืนแล้วหันหน้าไปหากิ่ง

“สวยที่สุดเลยค่ะ” กิ่งชมฉันพร้อมกับปัดตามชุดและจัดทรงผมให้ฉันอย่างดิบดี

รถซีมูนคันหรูแล่นตรงไปที่บ้านของผู้ชายที่ฉันรักอย่างรวดเร็ว จิตใจของฉันมันทั้งดีใจที่จะได้เจอเสือและสับสนว่าทำยังไงเมื่อเห็นหน้าเขา ฉันบอกอารมณ์ตัวเองไม่ถูก ไม่นานคนขับรถก็ขับเข้าภายในรั้วบ้านหลังใหญ่ มีเหล่าชายชุดดำยืนเรียงรายกันเต็มรอบบ้าน รถของคุณหญิงคุณนายและคนใหญ่คนโตจอดเรียงกันเป็นแถว ธรรมดาแหละฉันกำลังเดินเข้าบ้านมาเฟียใหญ่นิ่

ภายในงานตกแต่งไปด้วยซุ้มดอกไม้อย่างหรูหรา มันดูเหมือนงานแต่งเลยนะแต่ไม่ใช่ ฉันเดินควงแขนป๊ากับม้าเข้ามาในงาน ผู้คนต่างพากันทักทายป๊าและม้าของฉัน

“สวัสดีค่ะคุณพิชัย สวัสดีค่ะคุณฉัตร ไม่เจอนานเลยนะคะ วันนี้ควงใครมาด้วยคะเนี่ย?”

“สวัสดีค่ะคุณเกสร จะควงใครมาได้ละคะนอกจากยัยโฉมลูกสาวของดิฉัน”

“จริงเเหรอคะ?? โตเป็นสาวแล้วสวยมากเลยนะคะเนี่ย เห็นครั้งสุดท้ายตอนหนูโฉมอายุ 7ขวบ”

“สวัสดีค่ะคุณป้าเกสร”ฉันยกมือไหว้พลางส่งยิ้มออกไปเป็นการทักทายเพื่อนของม้า

“สวยจริง ๆ เลยค่ะ เสียดายนะคะที่ตาภูมิแต่งงานไปซะแล้ว ไม่อย่างนั้นป้าคงจะได้หนูโฉมเป็นลูกสะใภ้แน่ ๆ”

“นี่ยัยโฉมก็ยังไม่มีแฟนนะคะ พึ่งเรียนจบมาหมาด ๆ”

“หู้ยจริงเเหรอคะ? เสียดายจริง ๆ เลย”

ฉันยิ้ม ๆ ออกไปฟังม้าคุยกับเพื่อนของม้าไปเรื่อย ๆ ส่วนป๊าก็เดินไปหาลุงทรงพลและคนอื่น ๆ ด้านใน ฉันมองรอบ ๆ งานมีผู้คนมากมาย แต่กลับไม่เห็นคนที่ฉันอยากเจอเลย

เขาอยู่ไหนนะ?......

“โฉม สวัสดีลุงทรงพลเขาซิลูก”ป๊าเดินเข้ามาพร้อมกับลุงทรงพล ฉันรีบดึงสติกลับแล้วยิ้มพร้อมยกมือไหว้

“สวัสดีค่ะลุงทรงพล สบายดีไหมคะ?”ฉันถามไถ่ด้วยความนอบน้อม

“สบายดีลูก ไม่เจอนานเลยนะหนูโฉม โตขึ้นเยอะเลยนะเรา”ลุงทรงพลรับไหว้พร้อมกับลูบหัวฉันเบา ๆ

“หนูพึ่งจะเรียนจบน่ะค่ะไม่ค่อยได้ออกไปไหนมาไหนบ่อย เลยไม่ได้เข้ามาหาคุณลุงเลย”

“ไม่เป็นไรหรอก ลุงก็คอยถามไถ่จากเจ้าเสือมัน เห็นมันบอกว่าเจอหนูที่มหาลัยอยู่บ่อย ๆ”

“อ๋อ.... ค่ะ”

“ดีใจด้วยนะลูกที่เรียนจบแล้ว ลุงยังพูดกับพ่อหนูอยู่บ่อย ๆ ว่าถ้าไอ้เจ้าเสือลูกลุงเนี้ยมันเรียนไม่จบจะให้หนูโฉมมาคอยติวหนังสือให้มันสักหน่อย แต่โชคดีที่มันเรียนจบ”

ฉันยิ้ม ๆ ออกไปเท่านั้น.... พลางนึกถึงวันก่อน ๆ ที่ฉันเคยสอนหนังสือให้กับเสือ

“อ้าวมากันแล้วนั้นไง?”ฉันมองตามสายตาของลุงทรงพล เห็นคุณป้าอุษากำลังเดินเข้ามา

แต่พอมองไปที่ด้านหลังของคุณป้ากลับเห็นเสือที่กำลังเดินมากับผู้หญิงของเขา...น้ำตาของฉันจะไหล ทำไมตรงนั้นมันไม่เป็นฉัน คนที่เดินควงแขนเสือเข้ามาทำไมถึงเป็นคนอื่น ฉันได้แต่มองด้วยความเจ็บปวด

เสือมองมาที่ฉันด้วยสายตาแบบเดิม เขาไม่ได้หลบหน้าฉันแต่อย่างใด กลับจ้องมองหน้าฉันอย่างตาไม่กะพริบ ซึ่งฉันก็เหมือนกัน

“หนูโฉมเเหรอคะ?เนี่ย? คิดถึงจังเลยคนดีของป้า”คุณป้าอุษาเข้ามาสวมกอดฉันด้วยความเอ็นดู ฉันดึงสติตัวเองกลับพร้อมกับยิ้มอ่อนแล้วสวมกอดท่านกลับ

“สวัสดีค่ะคุณป้า”

“โตขึ้นเยอะเลยนะลูก สวยซะด้วย”ป้าอุษาจับแก้มฉันเบา ๆ แล้วยิ้มหวานให้

“หนูขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้มาหาคุณป้าเลย พอดีติดเรียนหนักไปหน่อยน่ะค่ะ"

“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ตอนนี้เรียนจบแล้วไม่ใช่เหรอ มาหาป้าได้บ่อย ๆ แล้วซิ”

“ค่ะ”

“ดีใจด้วยนะลูก”

“ขอบคุณค่ะ”

“เอ้า! ตาเสือทักทายหนูโฉมซิ เอ้อ... หนูคงเจอกันที่มหาลัยบ่อยอยู่แล้วใช่ไหมลูก?”

“เอ่อ.... ค่ะ”ฉันเม้มปากตัวเองเล็กน้อยพร้อมกับมองไปที่เสือที่ยังคงจับจ้องมองหน้าฉันอยู่

“ว่าแล้ว... ถ้าอย่างนั้นป้าอยากให้หนูโฉมรู้จักคู่หมั้นของตาเสือสักหน่อย นี่จ้ะหนูแสงเดือน หนูเดือนนี่หนูโฉมนะลูก รู้จักกันไว้นะ จะได้เป็นเพื่อนกัน”

“สวัสดีจ้ะโฉม” แสงเดือนเข้ามาทักทายฉันพร้อมส่งยิ้มอย่างเป็นมิตร ฉันควรจะทำยังไง? เขาคือคนรักใหม่ของคนรักเก่าฉัน

“อ...อื้ม สวัสดีแสงเดือน”

“เรียกว่าเดือนเฉย ๆ ก็ได้”

“จ้ะ”

ฉันตอบสั้น ๆ พร้อมกับเหลือบมองไปที่เสือ เขาเอาแต่มองหน้าฉันอยู่แบบนั้นแต่ไม่ยอมพูดจาอะไรออกมาเลยสักคำ ฉันอยากถามเขาจังว่าเขาคิดถึงฉันบ้างไหม

“ตาสิงห์มานี่เร็ว ๆ เลย ชักช้าจริงไอ้ลูกคนนี้”

ฉันไม่ได้สนใจเสียงรอบข้างเลยสักนิด สิ่งที่ฉันสนใจคือผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันต่างหาก

“มาลูก มาไหว้ลุงชัยก่อน คุณพี่คะนี่ตาสิงห์ลูกชายคนโตของฉันค่ะ”

“สวัสดีครับลุงพิชัย สวัสดีครับป้าฉัตร”

“ไหว้พระเถอะลูก”

“โตขึ้นเยอะนะตาสิงห์ ลุงเจอแกครั้งสุดท้ายเนี้ยยังตัวเล็ก ๆ อยู่เลย มันหล่อเหลาเอาการจริง ๆ”

“ตาสิงห์ นั้นหนูโฉมลูกลุงพิชัยกับป้าฉัตร รู้จักไว้ซิลูก หนูโฉมจ้ะ”

“ค... คะ” ฉันหันหน้าไปมองป้าอุษาที่เรียกฉัน ก่อนจะกวาดสายตามองคนข้าง ๆ คุณป้าด้วย

“เธอ”

“คุณ!” ฉันทำหน้าตกใจเล็กน้อยที่เจอเขาอีกครั้ง จะเป็นใครไปได้นอกจากคนที่ฉันพึ่งเจอบนเรือแล้วคืนสูทเขาไปนั้นไง

“?????” ทุกคนพากันงงที่ฉันและเขาต่างทักกันแบบนั้น

“หึ....” เขายกยิ้มขึ้นพร้อมกับมองหน้าฉันเหมือนตอนที่อยู่บนเรือ

“นี่ตาสิงห์ลูกชายคนโตของป้าจ้ะหนูโฉม”

“ห้ะ ???”

ลูกชายคนโตของป้าอุษา ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าเขาเป็นพี่ชายของเสืออย่างนั้นซิ !

“โลกมันกลมเนอะ เธอว่าไหม?” เขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มให้ฉัน

“อืม” กลมมากจริง ๆ พึ่งเจอแท้ ๆ ใครจะไปคิดว่าเป็นพี่ชายของเสือ

“เคยเจอกันเหรอลูก?” ป้าอุษาถามอย่างงุนงง พร้อมมองหน้าฉันกับเขาสลับไปมาไม่ต่างกับพ่อและแม่ของฉันเลย

“ครับแม่ เจอกันบนเรือเมื่อคืน”

“จริงเหรอ.... หื้อ แม่ว่ามันเหมือนพรมลิขิตเลยนะ”

“จริงค่ะคุณพี่” ม๊าฉันเสริมขึ้นมาอีกคนพร้อมกับยิ้มเล็กยิ้มน้อยกับคุณป้าอุษา

“ไม่ใช่หรอกค่ะ แค่บังเอิญเฉย ๆ”

พรมลิขิตบ้าบออะไร ไม่ใช่ทั้งนั้นแหละ....

“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ น้องโฉม” เขายื่นมือมาทำความรู้จักฉัน

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะพี่สิงห์” ฉันจับมือเขาตอบแต่ไม่ได้ยิ้มอะไรให้เขานะ เพียงแต่เหลือบตามองไปที่เสือต่อก็เท่านั้น

เสือจ้องมาที่มือของฉันกับพี่สิงห์ที่จับกันอยู่ ฉันไม่รู้เลยว่าเขากำลังคิดอะไร บอกแล้วไงว่าฉันเดาสายตาเขาไม่ได้ มันดูว่างเปล่าไปหมด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel