บท
ตั้งค่า

๒ เขาคือโลกทั้งใบ (๑)

เขาคือโลกทั้งใบ

“อะไรนะ! จะถอนหมั้น”

เรื่องสำคัญที่บุตรชายบอกว่าจะคุยด้วยทำให้บุพการีถึงกับตะโกนก้องด้วยความตกใจ สีหน้าของเมืองหมอกราบเรียบ ตัดสินใจมาเป็นอย่างดีว่าเรื่องนี้ควรยุติได้แล้ว เขาหมั้นกับหล่อนมาสองเดือน น่าจะเพียงพอให้หญิงสาวมีความสุขและคุณย่าพึงพอใจ

ต่อจากนี้ตนอยากเลือกผู้หญิงที่จะอยู่เคียงข้างด้วยตัวเอง ซึ่งตนก็หาได้แล้ว

แม้หล่อนอาจจะไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็ทำให้เขาสุขใจยามอยู่ใกล้ ไม่ใช่คนที่เอาแต่สร้างเรื่องปวดหัวให้ไม่เว้นวัน

“ครับ ผมไม่เต็มใจหมั้นแต่แรกอยู่แล้ว ตอนนี้ผมก็มีคนที่รักแล้ว ผมไม่อยากยื้อนานกว่านี้แล้วทำโซ่เจ็บ ถอนหมั้นให้ผมเถอะนะครับ ถือว่าผมขอร้องล่ะ” นอกจากอ้อนวอนขอร้อง เขายังรู้สึกว่ามันไม่พึง จึงคุกเข่านั่งลงตรงหน้าท่านทั้งสองเพื่อให้เห็นใจตัวเองบ้าง

คุณอนัญพรมีสีหน้าปั้นยาก ด้วยหมายมั่นจะให้ชีวาพรมาเป็นสะใภ้ แต่การจะขัดลูกชายก็เกรงว่าอีกฝ่ายจะเตลิด จึงเหลียวมองสามีที่นั่งข้างกัน ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรถึงจะเปลี่ยนใจเมืองหมอกได้ ดูเหมือนลูกชายจะคิดทบทวนมาเป็นอย่างดีแล้ว

“รักน้องไม่ได้เลยเหรอ”

“ผมพยายามแล้ว แต่ผมทำไม่ได้จริงๆ ขอโทษที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องผิดหวังนะครับ แต่เรื่องความรักมันบังคับกันไม่ได้ ผมไม่ได้รักก็คือไม่ได้รัก หรือถ้าอยากได้โซ่เป็นสะใภ้ก็ให้แต่งกับน่านสิ”

ชีวาพรครั้งยังเด็กก็น่ารักอยู่หรอก แต่พอเติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ นิสัยก็เปลี่ยนไป วันแรกที่มีผู้หญิงมาสารภาพรักกับเขา น้องสาวผู้ว่านอนสอนง่ายก็นิสัยกลับหน้ามือเป็นหลังมือ ทวงสิทธิ์ความชอบธรรมทุกอย่างทั้งที่เราเป็นแค่พี่น้อง กลายเป็นเขาที่อึดอัด

ความเอ็นดูเปลี่ยนเป็นเบื่อหน่ายและรำคาญ...

“น่านยังเด็ก จะให้แต่งได้ยังไง” พูดถึงน้องชายที่อายุห่างกันสามปี

เมืองน่าน มงคลทิวัตถ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่หลงใหลกีฬาฟุตบอลเป็นอย่างมาก เลิกเรียนก็ให้คนรถไปส่งที่สนามบอล ตื่นแต่ไก่โห่เพื่อไปซ้อมฟุตบอล คาดว่าอนาคตอาจะได้เป็นนักกีฬาทีมชาติ จึงไม่ค่อยว่างมาคุยกับพี่ชายเท่าไหร่

อีกอย่างเมืองหมอกก็ยุ่งกับการอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ไม่มีเวลาไปเล่นกับน้อง อีกทั้งยังมีชีวาพรตามติดไม่ห่าง

ยังดีที่ช่วงนี้ใช้ข้ออ้างอ่านหนังสือมาบอกให้หล่อนห่างกันบ้าง ถึงพอจะมีเวลาเป็นของตัวเอง

เขาจึงได้อยู่กับศิศิราจนตอนนี้ขอหล่อนเป็นแฟนเรียบร้อยแล้ว...ซึ่งเธอตอบตกลงเพราะรู้สึกเช่นเดียวกับเขา

พวกเรารักกัน...

“เอาเป็นว่าผมอยากถอนหมั้นครับ ฝากคุณพ่อคุณแม่ไปคุยกับบ้านนั้นให้ด้วย ขอตัวนะครับผมต้องอ่านหนังสือ” ลุกยืนเต็มความสูงไม่มีทีท่าสะท้านเหมือนเมื่อครู่ เพราะเห็นว่าบุพการีจะทำความต้องการของตน คือการยกเลิกหมั้นกับชีวาพร

ลูกชายคนโตเดินหายลับออกไปจากห้องรับแขก เหลือเพียงสามีภรรยาที่นั่งมองหน้ากัน ไม่รู้ว่าจะไปพูดอย่างไรกับครอบครัวฉันท์หทัย ตอนแรกอยากได้ลูกสาวเขาก็ไปสู่ขอ ผ่านไปไม่ถึงสามเดือนกลับถอนหมั้น

นึกสงสารหญิงสาวที่จะถูกเอาไปนินทาว่าเป็นม่ายขันหมากตั้งแต่ยังไม่บรรลุติภาวะ ผิดที่พวกท่านเองไม่คิดให้ถี่ถ้วน พอจะไปพูดกับบ้านนั้นก็ลำบากใจ

“เอาไงดีคุณ” ขอความเห็นของสามี

“ก็ต้องตามใจลูก ตอนนั้นบังคับหมั้นไปทีหนึ่งแล้ว ปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่ เราค่อยไปคุยกับคุณแม่ทีหลังท่านน่าจะเข้าใจ” ถึงจะไม่อยากทำแต่เมื่อบุตรชายมาคุกเข่าของร้อง คงต้องยอมถูกถอนหงอกแล้วไปขอถอนหมั้นกับชีวาพร

จะโดนด่าหรือตัดขาดก็สมควรแล้ว พวกตนทำร้ายจิตใจลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของบ้าน หากถูกด่าก็ไม่ใช่เรื่องแปลก...

การพูดคุยผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง ตอนแรกคิดว่าจะถูกถอนหงอก แต่กลายเป็นความเข้าใจจนคุณอรัญพรร้องไห้ที่ทำร้ายหลานสาวที่เอ็นดูทางอ้อม คุณผู้หญิงของบ้านฉันท์หทัยจึงต้องนั่งปลอบเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมานาน

พอแต่งงานยังได้สามีที่อยู่บ้านตรงข้ามกันอีก ตอนงานหมั้นก็ดีใจที่ได้ดองเป็นทองแผ่นเดียวกัน แต่ผ่านไปไม่นานกลับต้องมาถอนหมั้น

ทว่าจะให้บังคับจิตใจลูกมากกว่านี้ก็ทำไม่ได้ เพราะเมืองหมอกมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว

“เราจะบอกยัยโซ่ว่าไงดีคุณ ลูกรักหมอกมากเลยนะ...ฉันกลัวว่าลูกจะเสียใจ” มารดาที่รักลูกสาวสุดหัวใจถึงกับทำหน้ากังวลไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไร คนที่ยึดมั่นในชายเพียงผู้เดียวแต่เด็กถึงจะยอมเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น

คุณชญานิน ฉันท์หทัยแต่งงานกับสามีที่เป็นเอกอัครราชทูต ไม่ค่อยได้อยู่ประเทศไทยเพราะต้องไปประจำการต่างประเทศ คิดจะพาลูกสาวไปด้วยแต่ตอนนั้นแม่ของสามียืนกรานจะเลี้ยงหลานสาวเอง จึงพาเพียงแค่ลูกชายไปด้วย

พอวันนี้ได้กลับมาอยู่ไทยหลังแม่สามีจากไปด้วยโรคชรา จึงตามใจชีวาพรทุกอย่าง เรื่องการหมั้นหมายก็เช่นเดียวกัน ถึงใจจะไม่อยากให้หมั้นเพราะลูกอายุแค่สิบเจ็ดปียังไม่พ้นผู้เยาว์ แต่ก็ค้านเจ้าตัวที่เต็มใจจะหมั้นไม่ได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel