บทที่2 ห้ามบอกใคร!
ย้อนกลับไปเมื่อ5ปีที่แล้ว
-โรงเรียนมัธยม-
“ยัยปราง!”
คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนสนิทดังขึ้นจากทางด้านหลัง
“ห๊ะ! ตะ…ตกใจหมดเลยนุ่น”
“มายืนทำลับๆ ล่อๆ อะไรตรงนี้มิทราบย่ะ”
“เอ่อ…ไม่มีอะไร” ปรางถึงกลับมีท่าทางเลิ่กลั่กเพราะกำลังแอบมอง ‘รามิล’ เพื่อนชายต่างห้องที่กำลังเล่นฟุตบอลอยู่ในสนาม
รามิลคือนักเรียนใหม่ที่ย้ายมาจากโรงเรียนเอกชน เขาถูกไล่ออกจากที่เก่าเพราะทำตัวมีปัญหาผิดระเบียบจึงถูกผู้ปกครองดัดนิสัยส่งให้มาเรียนที่นี่
“ฮั่นแน่~ ฉันรู้นะว่าแกแอบมาดูรามิลห้องสิบเล่นฟุตบอลใช่ไหม”
“ไม่ใช่สักหน่อย”
“อย่ามาโกหก ก็ฉันเห็นแกยืนจ้องเขาตั้งนาน จะไม่ใช่ได้ยังไง”
“…..” พอถูกจับได้ถึงกลับไปต่อไม่เป็น ถึงแม้จะชอบรามิลมาก แต่เธอก็เจียมเนื้อเจียมตัวเพราะรู้ว่าไม่คู่ควรแถมรามิลก็ไม่เคยเห็นเธออยู่ในสายตาเลยสักนิด
“ถ้าชอบเขา แล้วทำไมไม่เดินไปบอกเขาล่ะ”
“ฉันไม่กล้าหรอก”
“ไม่ลองไม่รู้นะ ถ้าแกไม่กล้าเดี๋ยวฉันไปบอกให้เอง”
“อย่านะนุ่น แกห้ามทำแบบนั้นเด็ดขาดเลยนะ!” เด็กสาวรีบห้ามปรามด้วยความกังวล ถ้าคนอื่นรู้เธอคงโดนเล่นงานไม่ใช่น้อย เพราะทุกวันนี้ก็ถูกเพื่อนๆ คนอื่นรุมบูลลี่อยู่ทุกวัน
“ทำไมล่ะ นี่ฉันกำลังช่วยแกอยู่เลยนะ”
“ห้ามบอกเรื่องนี้กับใคร ไม่งั้นเราไม่ต้องมาเป็นเพื่อนกันอีกเลย”
“ก็ได้ๆ ฉันสัญญาว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ตกลงไหม” เมื่อเห็นท่าทางซีเรียสของเพื่อนสาว นุ่นจึงต้องยอมแต่โดยดี
“…..”
“นั่นมันยัยปรางห้องหนึ่งนิ มายืนแอบมองมึงอีกแล้ว”
“…..” เมื่อได้ยินดังนั้นรามิลจึงหันไปมองตามเพื่อนคนสนิทบอก ก่อนจะเห็นว่าเป็นปรางที่ยืนชะเง้อคอแอบมองเขาอยู่หลังต้นไม้ใหญ่
“สงสัยจะชอบมึงมาก กูเห็นมายืนแอบมองมึงทุกวันเลย” เพื่อนในกลุ่มพูดแซวพร้อมหัวเราะใส่กันดังลั่นด้วยความชอบใจ ต่างจากรามิลที่รู้สึกนิ่งเฉยไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา
“…..”
“คงอยากได้มิลเป็นแฟนจนตัวสั่นล่ะสิท่า จนแล้วไม่เจียม ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง” เพื่อนสาวที่อยู่ในกลุ่มอีกคนพูดแทรกขึ้นมา ก่อนจะมองปรางด้วยสีหน้าไม่พอใจเพราะเธอเองก็แอบชอบรามิลเหมือนกัน
“เลิกพูดถึงคนอื่นได้แล้วโดยเฉพาะยัยปรางอะไรนั่น น่ารำคาญ”
“…..”
-เหตุการณ์ปัจจุบัน-
“ออกมาเที่ยวทุกวันแบบนี้ เมียไม่ว่าหรือไง” เชนถามรามิลที่เอาแต่นั่งดื่มไม่พูดไม่จามาสักพักใหญ่ๆ
“ก็ช่างสิ ใครสน!” รามิลเลือกที่จะยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มจนหมดโดยไม่ใส่ใจในคำพูดของเพื่อนชาย
“แต่มึงมีลูกมีเมียแล้วนะ ควรเบาๆลงบ้าง?”
“มึงพูดให้ดีๆ ผู้หญิงใจแตกยอมนอนกับผู้ชายง่ายๆ แบบนั้น กูไม่นับว่าเป็นเมีย” พอได้ยินแบบนั้นถึงกลับรู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนขึ้นมาทันที
“แต่มึงก็มีลูกกับเขาแล้วนะ”
“ดูก็รู้ว่ายัยนั่นตั้งใจปล่อยให้ท้องเพื่อมาจับกูมากกว่า”
“กูว่ามึงใจแคบไปนะ ปรางเองก็ดูเป็นคนดี ไม่มีพิษภัยกับใคร เรื่องวันนั้นมันอาจจะพลาดจริงๆ ก็ได้” ยอสพูดสมทบ เมื่อเห็นท่าซังกะตายของเพื่อนชาย
เขาเคยเจอปรางไม่กี่ครั้งเมื่อไปหารามิลที่คอนโด เพียงแค่นั้นก็รู้สึกได้ว่าปรางเป็นคนมีจิตใจดีแถมลูกก็กำลังน่ารักน่าเอ็นดู
“พวกมึงเลิกพูดถึงยัยจืดนั่นได้ป่ะ แค่ได้ยินชื่อกูก็หมดอารมณ์ล่ะ”
“ว่าเขาจืดก็ยังเอาเขาจนท้อง ขัดแย้งฉิบหาย!”
“…..” ถึงแม้จะมีความสัมพันธ์กันแค่ครั้งเดียว แต่เขาก็จำได้ว่าซ้ำกับเธอไปหลายรอบ
หลายชั่วโมงผ่านไป…
ก๊อก! ก๊อก!
“ฉันยืนเคาะประตูตั้งนาน ทำไมไม่มาเปิด มัวทำอะไรอยู่!”
ทันทีที่เปิดประตูก็ได้ยินเสียงของรามิลเป็นอย่างแรก ฉันแหงนหน้าขึ้นไปมองนาฬิกาที่ฝาผนังบ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบตีสองแล้ว แต่รามิลเพิ่งจะกลับบ้านแถมยังอยู่ในสภาพเมามายจนยืนทรงตัวแทบไม่อยู่
“ปรางหลับลึกไปหน่อยเลยไม่ได้ยินน่ะ”
“ขี้เกียจสันหลังยาว”
“กินอะไรมาหรือยัง เดี๋ยวปรางไปทำอะไรมาให้กินนะ” ฉันเลือกที่จะไม่ใส่ใจคำพูดถากถางแล้วเดินเข้าไปประคองคนตัวโตให้เดินเข้ามาภายในห้องเหมือนที่เคยทำอยู่บ่อยๆ
“ไม่ต้อง! ฉันไม่หิว” เขาตอบกลับสั้นๆ พลางวาดสายตามองไปรอบๆ เหมือนหาอะไรบางอย่าง
“แล้วลูกเธอไปไหน?”
“น้องปริมเข้านอนไปแล้ว”
“พรุ่งนี้ฉันจะพาเข้าบ้านใหญ่ แม่โทรมาบอกว่าอยากเจอหลาน”
“อืม”
“เธอรู้ใช่ไหมว่าควรทำตัวแบบไหน”
“…..”
“ถ้าทำให้ฉันเดือดร้อน พวกเธอสองคนแม่ลูกได้ไปนอนอยู่ข้างถนนแน่!”
วันต่อมา…
-บ้านรามิล-
“อ้ออ แอ้” น้องปริมส่งเสียงร้องดีใจเมื่อเห็นย่าของเขา รอยยิ้มและท่าทางของเด็กน้อย ทำให้คุณปู่กับคุณย่าหลงรักได้ไม่ยาก
“น้องปริมหลานย่า ไม่ได้เจอกันนาน คิดถึงจังเลย” แม่ของรามิลรีบเดินเข้ามารับน้องปริมไปอุ้มไว้เอง ไม่ว่าจะมาที่นี่บ้านหลังนี้กี่ครั้ง พวกท่านมักจะต้อนรับฉันกับลูกอย่างอบอุ่นเสมอ
“ย่ามีของให้หนูกับแม่ด้วยนะ”
“ขอบคุณค่ะแม่” ฉันยกมือไหว้ขอบคุณด้วยความนอบน้อม สิ่งที่แม่ให้เป็นเสื้อผ้าของน้องปริมกับของกินหลายอย่าง
“เป็นยังไงบ้างหนูปราง สบายดีไหม?”
“สบายดีค่ะ”
“รามิลดูแลหนูกับลูกดีไหม?”
ฉันเหลือบสายตามองไปยังรามิลที่ยืนส่งสายตากดดันอยู่ข้างๆ ขืนพูดอะไรที่ไม่ดีออกไปมีหวังคงได้เป็นเรื่องแน่ๆ
“ดะ…ดูแลดีมากเลยค่ะ”
“แม่เห็นรักกันแบบนี้ก็ดีใจ ถ้ามีอะไรให้ช่วยบอกแม่ได้เลยนะ”
“…..”
“คืนนี้หนูปรางอยู่ค้างกับแม่ที่นี่นะ ไม่ได้เจอตั้งหลายวันแม่คิดถึงหลานแทบแย่เลย”
“ปรางแล้วแต่มิลค่ะ”
“แม่ว่ายังไง ผมก็ว่าแบบนั้นแหละ”
“นั่งรถมาตั้งไกลคงเหนื่อยกันแย่เลยใช่ไหม เดี๋ยวแม่ไปเอาของว่างมาให้กินนะ”
“…..” ฉันมองตามแม่ที่เดินออกไป ก่อนจะสะดุ้งด้วยความเจ็บเมื่อถูกรามิลเลื่อนมือมาบีบที่ต้นแขนอย่างแรง
“รู้ใช่ไหมว่าควรทำตัวยังไง ถ้าขืนพูดอะไรไม่ดีออกไป ถ้าแม่กับพ่อรู้ ฉันเล่นงานเธอหนักแน่!”
“ปรางเข้าใจแล้ว ไม่พูดให้มิลเดือดร้อนหรอก”
“…..”
