บท
ตั้งค่า

บทที่ 3. ต่อ

เหมือนคนบ้าเข้าไปทุกทีสิน่า... ภาสกรมักจะบ่นว่าตัวเองทุกครั้งเมื่อทำให้ทิพย์ธาราบ่นตน แต่ก็จะมีเสียงตอบมาในหัวว่า

ผู้หญิงด่าเขาว่าผู้หญิงรัก อดทนไว้ ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก...

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามแต่ ภาสกรก็ไม่เคยเผยความรู้สึกของตนให้ใครได้รับรู้นอกจากคเชนทร์กับเทพธารา แต่เทพธารานั้นไม่เล่นด้วยเพราะเกรงใจพ่อแม่ของตน จึงทำได้เอาใจช่วยเพื่อนรักห่างๆ เท่านั้น...

“น้ำแข็งจะกลับแล้วนะคะ พี่แสนจะเอาอะไรอีกมั้ยคะเดี๋ยวน้ำแข็งสั่งให้..”

ภาสกรอยากจะจับคนตัวเล็กขาวผ่องตรงหน้ามาเขย่าให้หัวสั่นหัวคลอนแล้วจูบสั่งสอนเสียนัก มันเสียเหลี่ยมเสียหน้าชะมัดที่เจอคำพูดแบบนี้ หน้าชาไปเลยล่ะ อย่าให้พ่อหมดความอดทนนะ.. ภาสกรพยายามเก็บอาการพลุ่งพล่านของตนไว้สุดฤทธิ์ เกิดมาไม่เคยเจอผู้หญิงตัดเยื่อใยแบบนี้เลย...

“กินข้าวเป็นเพื่อนพี่นี่มันลำบากใจน้ำแข็งมากเหรอ”

“เปล่าค่ะ แต่น้ำแข็งจะไปดูพราวหน่อยเท่านั้นเอง อีกอย่างน้ำแข็งคงไม่เหมาะจะนั่งเป็นเพื่อนพี่แสนหรอกค่ะ เดี๋ยวเผื่อมีผู้หญิงของพี่แสนผ่านมาทางนี้น้ำแข็งก็แย่สิคะ น้ำแข็งอยู่แต่ในครัวจะไปสู้รบปรบมือกับผู้หญิงของพี่แสนไหวยังไง..”

ทิพย์ธาราบอกเหตุผลด้วยน้ำเสียงเรื่อยๆ เหมือนพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ แต่คนฟังนึกขุ่นในเล็กน้อยแต่ท้ายประโยคทำให้ภาสกรแอบหัวใจพองโต

พูดเหมือนหึงเลยวุ้ย.. ชายหนุ่มซ่อนยิ้มในหน้าอย่างมีความสุข

ไอ้บ้า.. สงสัยอาการหนัก.. แล้วภาสกรก็อดว่าตัวเองไม่ได้...

และไม่ทันที่หนุ่มสาวจะได้พูดอะไรต่อเสียงโทรศัพท์ของทิพย์ธาราก็ดังขึ้น ภาสกรแอบเงี่ยหูฟังเมื่อเธอรับสายแล้วชายหนุ่มก็คลี่ยิ้มบางๆ อย่างพอใจเมื่อได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์เบาๆ

“จ้า.. โอเค กลับบ้านดีๆ นะ น้ำแข็งว่าให้พี่หนุ่มแวะคลินิกหรือโรงพยาบาลหน่อยดีไหม เผื่อพราวจะเป็นอะไรมาก เถอะน่าน้ำแข็งเป็นห่วง เอาเป็นว่าน้ำแข็งต้องได้รับรายงานว่าพราวแวะหาหมอ โอเคมั้ย.. โอเคจ้า ดูแลตัวเองดีๆนะ” ทิพย์ธาราวางสายแล้วถอนใจ ภาสกรรีบปรับสีหน้าทันที

“พราวเป็นยังไงบ้างล่ะ..”

“ให้พี่หนุ่มพากลับบ้านแล้วค่ะ เห็นว่าท้องเสียมากเลยคิดว่ากลับบ้านดีกว่าน้ำแข็งก็เลยกำชับว่าให้แวะหาหมอก่อนเข้าบ้านเผื่อเป็นอะไรมากจะแย่เอา”

“อื้ม.. ดีแล้วล่ะ เอาล่ะทีนี้น้ำแข็งนั่งเป็นเพื่อนพี่ได้แล้วใช่ไหม”

“เอ่อ ก็..”

“รังเกียจพี่นักหรือไง..”

“เปล่านะคะ เพียงแต่เกรงใจผู้หญิงของพี่..”

“พูดเหมือนหึงเลย..” ภาสกรมองเธอยิ้มๆ ทิพย์ธาราหน้าตึงมองเขาตาเขียว

“ไม่ใช่ธุระ อย่าหลงตัวเองนักเลยค่ะ ถึงพี่แสนจะหล่อรวย สมบูรณ์แบบ แต่พี่แสนไม่ใช่คนที่น้ำแข็งจะเลือกมาเป็นสามีแน่นอน..” หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่งภาสกรยิ้มบางๆ ยั่วเย้า

“ให้จริงเหอะ หาสามีไม่ได้อย่ามาขอให้พี่เป็นสามีก็แล้วกัน ถึงตอนนั้นพี่จะคิดค่าตัวแพงๆ เลย”

“ไม่มีวัน.. จะกินอะไรล่ะคะ น้ำแข็งจะสั่งให้” ทิพย์ธาราตัดบทอย่างหงุดหงิด ภาสกรยิ้มบางๆ

“ที่นี่อร่อยสู้ฝีมือน้ำแข็งได้เหรอ แล้วเมนูไหนบ้างที่อร่อยสั่งมาให้พี่หน่อยสิ”

“ที่นี่เขาก็อร่อยทุกอย่างค่ะ น้ำแข็งกับพราวเลยชอบมากินอาหารที่นี่”

ทิพย์ธาราบอกพลางสั่งอาหารให้ชายหนุ่ม ภาสกรมองใบหน้างามที่ก้มดูรายการอาหารและเสียงหวานๆ รื่นหูที่สั่งอาหารกับพนักงานด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนน่าฟังอย่างรักใคร่ชื่นชม แต่พอเธอหันมาเขาก็รีบหลุบตาลงกลบเกลื่อน...

ไม่นานอาหารที่สั่งไว้ก็มาเสิร์ฟ ภาสกรมองมันอย่างทึ่งและหัวใจพองโตขึ้นไปอีกเพราะมันคืออาหารที่เขาชอบ

ข้าวผัดต้มยำทะเลกับผักโขมอบชีส และ ทับทิมกรอบ...

“ที่นี่เขาทำอร่อยค่ะ ใช้ของสดไม่ใช่แช่แข็ง รสชาติดีด้วยค่ะ น้ำแข็งสั่งทับทิมกรอบกะทิสดให้ด้วยนะคะ เดี๋ยวเขาจะมาเสิร์ฟทีหลัง”

“อร่อยๆ จริงๆ ด้วย แต่พี่ว่าสู้ฝีมือน้ำแข็งไม่ได้หรอก น้ำแข็งทำอร่อยกว่าเยอะเลย.. นี่พี่ชมจากใจเลยนะ” ภาสกรก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารจึงไม่ได้เห็นรอยยิ้มบางๆ จากเรียวปากอิ่ม...

สรุปแล้ววันนั้นทั้งวันภาสกรกับทิพย์ธาราก็ไปดูหนังด้วยกันเพราะวิภาดากลับบ้านไปก่อน หญิงสาวจึงจำใจยอมให้ภาสกรดูหนังด้วย แต่จะเรียกว่าดูด้วยกันก็ไม่ถูกนักเพราะภาสกรหลับตั้งแต่หนังเริ่มฉายและมาตื่นอีกทีก็ตอนที่หนังจบแล้ว.. หลังจากนั้นภาสกรก็ไปส่งทิพย์ธาราที่บ้านซึ่งทำให้คุณทวิภาคกับคุณธิชาหันมามองหน้ากัน

“สวัสดีครับคุณอา..”

“หวัดดีจ้ะ ลมอะไรหอบมาล่ะเนี่ย..” คุณธิชารับไว้แล้วยิ้มให้ชายหนุ่ม แม้จะนึกชื่นชมอยากได้เป็นเขยแต่ประวัติของภาสกรไม่ดีนักเรื่องผู้หญิงทำให้คุณธิชายังคงวางท่าหวงๆ ลูกสาวไว้อยู่

“ก็ลมคิดถึงคุณอานี่ล่ะครับ ผมมีของมาฝากด้วยครับ” ภาสกรยิ้มประจบแล้วเอาของที่เตรียมมาฝากท่านทั้งสองท่าทางอ่อนโยนนอบน้อมทำให้คุณธิชายิ้มแป้น แต่ผู้เป็นสามีนั้นยังคงวางท่าไว้เชิงอย่างคนหวงลูกสาวอยู่

“ขอบใจนะ จริงๆ ไม่ต้องก็ได้..”

“ไม่เป็นไรครับ แสนเต็มใจครับคุณอา” ชายหนุ่มยิ้มหวาน

“ว่าแต่เป็นไงมาไงถึงมาด้วยกันได้ล่ะลูก”

“คืองี้ค่ะคุณแม่..” แล้วทิพย์ธาราเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้บิดามารดาฟัง

“อ้อ.. แล้วหนูพราวเป็นไงบ้างล่ะ” คุณธิชาถาม

“พี่หนุ่มพาไปหาหมอแล้วค่ะ บอกว่าดีขึ้นแล้ว พรุ่งนี้ก็คงไปทำงานได้”

“ไม่เป็นไรมากก็ดีแล้วล่ะ อยู่ทานมื้อเย็นด้วยกันก่อนมั้ยพ่อแสน” คุณธิชาหันมาชวน

“ยินดีเลยครับคุณอา แสนคิดถึงอาหารฝีมือคุณอามากเลย ตอนอยู่เมืองนอกไอ้ธารน่ะชอบเล่าให้ให้ฟังว่ามื้อนี้กินอะไรบ้าง คุณอาทำกับข้าวอะไรบ้างพร้อมกับเอารูปไปโชว์ด้วย ผมนี่น้ำลายสออยากจะบีบคอมันมากเลยครับ..”

“อะไรวะ ได้ยินใครนินทาฉัน..”

ภาสกรพูดเอาอกเอาใจว่าที่แม่ยายที่ตนหมายมั่นไว้ด้วยความจริงใจ แต่เทพธาราที่เดินเข้ามาก็ทำโวยวายใส่แล้วสองหนุ่มก็ทักทายกันด้วยการชกหน้ากันเบาๆ เหมือนสมัยเด็กๆ

“โอ๊ย.. นี่นายชกจริงนี่หว่าไอ้แสน” เทพธาราแสร้งร้องโอดโอยแล้วเข้ามากอดมารดาของตนอย่างออดอ้อน

“คุณแม่ครับผมโดนไอ้แสนตัวร้ายมันชกหน้าหล่อๆ เสียโฉมหมดเลยคุณแม่ต้องจัดการให้ธารนะ”

“หึหึ ออกไปห่างๆ เมียฉันเลยไอ้ธาร อย่ามาตีเนียน..”

คุณทวิภาคที่หวงแหนภรรยาเสมอต้นเสมอปลายยื่นมือมาแงะลูกชายออกจากอกภรรยาอย่างหมั่นไส้แถมด้วยถีบเบาๆ หนึ่งที ซึ่งการหยอกล้อกันของพ่อลูกสร้างเสียงหัวเราะขบขันให้กับทุกคน..

ภาสกรมองใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มของทิพย์ธาราอย่างหลงใหล เขาอยากจะเห็นเธอหัวเราะสดใสแบบนี้ให้เขาบ้าง...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel