3.เพราะเธอ
*** ทักทายคร้า ***
พิริยะมองหน้าโชติและนพอย่างตกใจ ส่วนตัวแล้วเขาไม่อยากไปอยู่เมืองนอกอีก เพราะหลังจากพ่อกับแม่เสีย ที่นั่นก็ไม่น่าอยู่สำหรับเขาอีกต่อไป
“แต่ผมไม่ไป”
“ต้องไป นี่เป็นคำสั่งของปู่” เจ้าสัวอังกรูหันมาสบตาแข็งกร้าวของหลานชายสุดที่รัก
“ผมยอมให้คุณปู่ตีสักร้อยครั้งก็ได้ แต่ผมไม่ไปเรียนเมืองนอกเด็ดขาด” ดวงตาแข็งกร้าวมองเรณราที่นั่งร้องไห้อยู่บนตักบิดา
“ตาพิลูก” พิริยะมองคุณหญิงย่าที่เปิดประตูเข้ามา คุณหญิงอังกาบเดินเข้ามาโอบไหล่หลานชายอย่างรักใคร่
“ย่าพิไม่ไป พิจะอยู่กับปู่กับย่าที่นี่” พิริยะบอกเสียงสั่นเครือมือน้อยกอดย่าแน่น คุณหญิงอังกาบโอบกอดหลานชายไว้ทั้งตัวอย่างสงสารจับใจ แต่ก็ต้องตัดใจเพื่ออนาคตของพิริยะเอง
“ทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่เป็นของพิ โตขึ้นพิต้องดูแลแทนปู่กับย่า รวมทั้งดูแลหนูเรด้วย เชื่อย่านะลูก ทำตามที่คุณปู่บอกนะจ๊ะ” คำปลอบโยนนุ่มนวลพร้อมกับอ้อมกอดอบอุ่นของผู้เป็นย่าทำให้แรงสะอื้นลดน้อยลง
“ก็ได้ครับ แต่พิไม่อยากดูแลหนูเร”
เจ้าสัวอังกรูสบตานภดลพ่อของเรณรา ร่างน้อยที่ซบอยู่กับอกบิดารู้สึกเสียใจที่พิริยะมองเธอด้วยแววตาโกรธกรุ่น
“ทำไม” เจ้าสัวถามสั้นๆ
“เพราะพิไม่ชอบผู้หญิงขี้แยและเป็นสาเหตุให้พิต้องถูกลงโทษ”
“เรื่องดูแลหนูเร เอาไว้โตขึ้นเจ้าต้องถามเรณราเองก็แล้วกันว่าจะให้ดูแลหรือเปล่า แต่ปู่อยากให้พิรู้ว่าที่ปู่กับย่าทำลงไปเพราะรักและหวังดีกับพิก็พอ” มือใหญ่ลูบศีรษะเล็กอย่างแสนรัก
“ไม่อยากดูก็ไม่ต้องดูสิคะ หนูเรอยู่กับพ่อกับแม่ของหนูเรก็ได้” เรณราพูดเสียงปนสะอื้นออกมาอย่างน้อยใจ
“ยัยลูกกรอก” พิริยะขึงตาใส่ ทำให้เรณราซบหน้ากับอกบิดาอย่างกลัวๆ การสนทนาของเด็กทั้งสองสร้างความกังวลให้ผู้ใหญ่ไม่น้อย ทั้งสามได้แต่ภาวนาให้วันเวลาช่วยเปลี่ยนความตั้งใจของคนทั้งสอง เพราะไม่อย่างนั้นสิ่งที่เฝ้าหวังกันไว้คงไม่มีทางเป็นจริงอย่างแน่นอน…
สนามบินสุวรรณภูมิวันนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่ต้องเดินทางไปยังจุดหมายของตัวเอง คุณหญิงอังกาบโอบไหล่พิริยะไว้ตลอดเวลา โชติและนพยืนฟังคำสั่งสอนของชรัสอยู่ด้านหลังของเจ้าสัวอังกรู พิริยะชะเง้อมองไปรอบๆ เหมือนมองหาใครสักคน
“พิมองหาอะไรจ๊ะ” คุณหญิงถามพลางมองหลานชาย
“เปล่าครับย่า แล้วครอบครัวอานภดลไม่มาเหรอครับ”
“เดี๋ยวก็มาลูก เมื่อเช้าอาหมอโทรหาคุณปู่บอกว่าหนูเรไม่สบาย อานภดลกับอาศศิเลยพาน้องไปหาหมอ เสร็จแล้วจะรีบมา” เจ้าสัวตอบหลานชายที่ยิ่งดูยิ่งเหมือนท่านเข้าไปทุกวัน
“อยู่ที่โน่นต้องดูแลตัวเองให้ดีนะพิ ปู่กับย่าจะไปเยี่ยมพิบ่อยๆ” เจ้าสัวดึงหลานชายเข้ามากอดแล้วลูบศีรษะเล็กไปมา
“ปู่กับย่าก็ต้องดูแลสุขภาพเหมือนกันนะครับ พิคงเหงาเพราะเพิ่งมาอยู่เมืองไทยไม่นานก็ต้องจากไปอีกแล้ว” พิริยะกอดเจ้าสัวแน่น น้ำตาคลอเต็มดวงตาคม
“เหงาก็โทรมาหาปู่นะ ตั้งใจเรียน โชติกับนพด้วยนะ ดูแลกันให้ดี”
โชติและนพพนมมือไหว้น้อมรับคำสั่งของประมุขคุณานนท์
“ห้ามเอาสาวฝรั่งมาฝากย่านะเจ้าพิ” คุณหญิงบอกยิ้มๆ เพื่อให้หลานชายผ่อนคลายบ้าง
“พิจะให้ย่าหาแฟนให้ครับ แต่ย่าต้องหาผู้หญิงเหมือนย่านะ ไม่อย่างนั้นพิไม่ยอมแต่งจริงด้วย” คุณหญิงอังกาบดึงพิริยะเข้ามากอดหอมแก้มทั้งซ้ายขวาอย่างเอ็นดู
“ผู้หญิงที่ย่าหาให้พิ จิตใจดีจ้ะย่ารับรอง” สองมือบางของคุณหญิงประคองดวงหน้าคมสัน ทอดมองหลานชายด้วยประกายตาเปี่ยมไปด้วยความรัก
“ไปได้แล้วพิ เขาประกาศให้ไปตรวจหนังสือเดินทางแล้ว”
พิริยะชะเง้อคอมองไปที่ประตูทางเข้า เหมือนรอใครสักคน
“แต่อานภดลกับอาศศิยังไม่มาเลยนี่ครับ” พิริยะตอบ เจ้าสัวอังกรูสบตาภรรยา นี่คงจะเป็นห่วงเรณรากระมัง
“นั่นไงครับคุณหมอนภดลกับคุณศศิมาพอดี” ชรัสชี้ไปที่ประตูทางเข้าที่อยู่อีกฝั่ง พิริยะได้ยินก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ พอหันไปมองก็ต้องผิดหวังเล็กน้อยเมื่อไม่มีเงาของร่างน้อยที่คอยวิ่งตามหลังเมื่อหลายวันก่อน
“ขอโทษนะครับคุณพิที่อามาส่งช้า”
พิริยะยกมือไหว้นภดลและศศิอย่างนอบน้อม
“อาสองคนขอให้คุณพิโชคดีนะคะ แล้วรีบกลับมาช่วยงานคุณท่านเร็วๆ” ศศิยิ้ม ย่อตัวไปดึงพิริยะเข้ามากอดอย่างเอ็นดู
“อาการหนูเรเป็นยังไงบ้างครับ”
“หนูเรตัวร้อนน่ะค่ะ คุณหมอเลยให้นอนพักที่โรงพยาบาลสองวัน ถ้าพรุ่งนี้ไข้ลดก็กลับบ้านได้แล้ว” ศศิบอกยิ้มๆ เมื่อเห็นแววตาสำนึกผิดของพิริยะ
“ผมขอโทษนะครับที่ทำให้หนูเรไม่สบาย”
ทุกคนยิ้มให้กับความกล้าหาญของพิริยะที่รู้จักขอโทษในสิ่งที่ตัวเองทำผิด
“อย่ากังวลเลยครับ หนูเรไม่เป็นอะไรมาก ตั้งใจเรียนนะครับคุณพิ”
“เตรียมตัวได้แล้วพิ เขาประกาศเรียกครั้งสุดท้ายแล้ว” เจ้าสัวเรียกหลานชาย คุณหญิงอังกาบดึงร่างพิริยะมากอดอีกครั้งก่อนจากกัน
“คุณพระคุ้มครองนะลูก”
“ฝากปู่กับย่าด้วยนะครับอานภดล อาชรัส แล้วผมจะรีบกลับมา” พิริยะยกมือไหว้ผู้ใหญ่แล้วเดินไปเข้าแถวเพื่อรอตรวจหนังสือเดินทาง โดยมีโชติและนพเดินตามหลังมา
“เดี๋ยวครับคุณพิ” เสียงเรียกของนภดลทำให้พิริยะหันกลับมา สายตามองตุ๊กตาผู้หญิงตัวจิ๋วขนาดพกพาสวมกระโปรงสีฟ้าในมือของนายแพทย์นภดล
“อะไรครับอา”
“หนูเรฝากของมาให้คุณพิครับ”
พิริยะยื่นมือไปรับของด้วยหัวใจอุ่นซ่าน ดวงตาเป็นประกายอย่างยินดีจนปิดไม่อยู่ จากนั้นมือน้อยก็ยกขึ้นโบกลาอีกครั้ง ก่อนจะเดินหายเข้าไปในช่องผู้โดยสารขาออก
*** ขอบคุณคร้า ***
