บท
ตั้งค่า

4

ตั้งแต่ฉันกับแม่ย้ายเข้ามาอยู่บ้านคุณลุงก็เป็นเวลาสองเดือนแล้วฉันเริ่มคุ้นชินกับอะไรใหม่ๆของที่นี่ เวลาจะนั่งรถเมล์ไปไหนมาไหนเดี๋ยวนี้ฉันขึ้นลงถูกป้ายแล้วนะ สังคมใหม่ๆที่โรงเรียนฉันก็ปรับตัวได้บ้างแล้วฉันเริ่มรู้จักเพื่อนเยอะขึ้นแต่มีอยู่เพียงอย่างเดียวที่ฉันยังไม่ชินสักทีนั่นก็คือสายตาเย็นชาที่พี่เสือมองฉัน สายตาที่ทำเหมือนฉันเป็นตัวประหลาด

“ที่โรงเรียนเป็นไงบ้างหนูข้าวมีปัญหาอะไรไหม”

คุณลุงถามฉันระหว่างที่นั่งทานข้าว

“ก็ดีค่ะไม่มีปัญหาอะไร”

ฉันตอบคุณลุงก่อนจะก้มหน้าทานข้าวต่อ แม่นั่งอยู่ข้างคุณลุงส่วนฉันนั่งวตรงข้ามกับแม่และคนที่นั่งอยู่ข้างๆฉันก็คือพี่เสือเพราะแบบนี้แหละฉันถึงไม่กล้าพูดอะไร

“ถ้ามีปัญหาอะไรก็บอกพี่เขานะ”

คุณลุงมองไปที่พี่เสือที่เอาแต่นั่งกินข้าวไม่สนใจจะคุยกับใคร ขนาดอยู่บ้านหลังเดียวด้วยกันฉันยังได้ยินเสียงพี่เสือแทบนับครั้งได้

“ค่ะ”

ฉันพยักหน้ารับ

“ยังไงน้าก็ฝากให้เสือช่วยดูแลน้องด้วยนะ”

ครืดดด!!!

“ผมอิ่มแล้วครับ”

อยู่ๆพี่เสือก็ลุกขึ้นแถมยังเลื่อนเก้าอี้เสียงดังโดยที่พี่เสือไม่เคยคิดจะพูดกับแม่ฉันเลย

“ไอ้ลูกคนนี้นิ ผมต้องฃอโทษแทนเสือมันด้วยนะมลผมเลี้ยงลูกไม่ดีเอง”

คุณลุงหันไปพูดกับแม่ฉันคงเพราะพี่เสือไม่เคยจะให้เกียรติแม่ฉันอย่าว่าแต่คุยดีๆเลยแค่ให้พี่เสือมองหน้าแม่ฉันยังยาก

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะมลต่างหากที่ไปจู้จี้กับลูกชายคุณเกินไปมลผิดเองค่ะ” แม่ก้มหน้าลงเหมือนรู้สึกแย่มากๆ

“ข้าวไปเรียนก่อนนะคะ”ฉั

นยกมือไหว้แม่กับคุณลุงก่อนจะรีบวิ่งตามพี่เสือออกไป

“พี่เสือรอข้าวด้วยค่ะ”

ฉันตะโกนตามหลังพี่เสือไปจนตามทัน คนบ้าอะไรอยู่แค่ม .6แต่สูงอย่างกับเสาไฟฟ้าดูเอาเหอะในขณะที่ฉันกึ่งเดินกึ่งวิ่งแต่คนขายาวกลับเดินชิวมาก

“มีอะไร”

เป็นน้ำเสียงและสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เหมือนทุกครั้งที่อ้าปากพูดกับฉันแต่ฉันก็ยังอยากคุยกับพี่เขาอยู่ดี ฉันยังเชื่อว่าความจริงใจของฉันกับแม่จะชนะใจพี่เสือได้ในสักวัน

“พี่เสือได้ลงแข่งบาสไหมคะ”

ฉันไปหยุดยืนตรงหน้าของพี่เสือก่อนจะเงยหน้าขึ้นถามเพราะพี่เขาตัวสูงกว่าฉันมาก วันมะรืนนี้ที่โรงเรียนมีงานกีฬาสีแล้วฉันได้ยินว่ารุ่นพี่ ม.6จะลงแข่งกันหลายคนฉันเลยถามดูเพราะเคยเห็นพี่เสือเล่นบาสที่โรงเรียนหลายครั้งอีกอย่างพี่เสือก็อยู่สีเดียวกับฉันด้วย

"ฉันจะลงแข่งหรือไม่ลงแข่งเกี่ยวอะไรกับเธอด้วย"

พี่เสือพูดกับฉันอย่างกับจะท้าฉันต่อยทำให้ความกล้าที่รวบรวมมาก่อนหน้านี้ลดหายไปกว่าครึ่งแต่ฉันก็ยังใจสู้ยิ้มให้พี่เขา

"เกี่ยวสิคะคือว่าข้าวเป็นเชียร์หลีดเดอร์ค่ะ"

ฉันยัดความกลัวกลับลงไปแล้วพูดด้วยสีหน้าที่เป็นมิตร ถึงฉันจะเป็นคนเล่นกีฬาอะไรก็ไม่เก่งแต่ฉันถนัดพวกเต้นแร้งเต้นกางานกีฬาสีครั้งนี้ฉันเลยลงสมัครเป็นกองเชียร์แทน

“แล้วยังไง”

เจ้าของใบหน้าเย็นชาตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงห้วนๆต่างจากใบหน้าหล่อๆนั่น

“ก็ถ้าพี่เสือลงแข่งข้าวจะได้รอเชียร์พี่เสืออยู่ข้างสนามไงคะ”

ฉันยืนยิ้มให้พี่เสือและเป็นรอยยิ้มที่ออกมาจากข้างใน

“ไม่จำเป็น อย่ามาทำตัวสนิทกับฉันแล้วตอนที่อยู่โรงเรียนก็ห้ามบอกคนอื่นว่าเธออยู่บ้านฉัน เข้าใจไหม”

พี่เสือจ้องหน้าฉันเหมือนอยากจะกินหัวฉันเข้าไป

“ทำไมล่ะคะ”

ฉันถามด้วยความไม่เข้าใจ แค่อยู่บ้านด้วยกันเพราะเหตุผลของผู้ใหญ่ทำไมจะต้องปกปิดไม่ให้คนอื่นด้วยล่ะ

"ก็เพราะว่าเธอมันน่ารังเกียจไง"

พูดจบพี่เสือก็เดินผ่านฉันไปแต่จริงๆพี่เสือแทบจะชนไหล่ฉันออกไปด้วยซ้ำ

ตอนนี้ฉันกับพี่เสืออยู่บนรถเมล์สายที่ฉันนั่งคนแน่นทุกวันบางวันฉันต้องยืนจนถึงป้ายที่จะลงวันนี้ก็เหมือนกันคนเยอะชนิดที่ต้องยืนเบียดกันเหมือนปลากระป๋อง

“ชิดในหน่อยจ้าชิดในหน่อย”

เสียงของป้ากระเป๋ารถเมล์ดังมาจากด้านหน้ารถ ไม่รู้ว่าจะให้ชิดในไปไหนที่ยืนอยู่ตอนนี้ก็แทบจะเหยียบเท้ากันอยู่แล้ว

เอี๊ยดดด!!!

พูดยังไม่ทันขาดคำอยู่ๆคุณลุงโชว์เฟอร์ก็เหยียบเบรกกระทันหันทำให้ทุกคนพากันเสียหลักก่อนที่ลุงแกจะทำตัวเป็นวัยรุ่นใจร้อนขับปาดซ้ายปาดขวาคันอื่นอย่างกับหนังเรื่องฟาสแปดแน่ะ

“ว๊ายยย! ”

พี่ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างฉันร้องขึ้นด้วยความตกใจเพราะจังหวะที่รถเบรคทำให้พี่เขาถลาจนเกือบจะล้มหัวขมำส่วนฉันก็เกือบไปเหมือนกันแต่โชคดีที่มีตัวพี่เสือรับไว้ไม่อย่างนั้นป่านนี้ฉันคงล้มหน้าฟาดไปกับเบาะนั่งแล้ว

ฉันพึ่งรู้ว่าเด็กผู้ชายมอปลายหน้าอกกว้างมากแถมยังดูแข็งแรงอีกก็ตอนที่ใบหน้าของฉันซบอยู่ที่หน้าอกของพี่เสือจังๆเพราะลีลาการขับรถของลุงโชว์เฟอร์

“ออกไปยืนห่างๆก่อนที่ฉันจะผลักเธอกระเด็นออกไป”

น้ำเสียงทุ้มต่ำที่มาพร้อมกับสายตารังเกียจฉันทำให้ฉันต้องออกมาจากความคิดเหลวไหลทันที นี่ถ้าพี่เสือพกแอลกอฮอล์มาด้วยคงจะเอาฉีดพ่นตรงที่โดนตัวฉันไปแล้วล่ะ

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง

ระหว่างที่รอเรียนชั่วโมงต่อไปฉันกับดาวก็นั่งคุยกันเรื่อยเปื่อย

“ข้าวแกเคยมีแฟนไหม”

ดาวที่ตอนนี้เป็นเพียงเพื่อนสนิทคนเดียวของฉันหันมาถามฉันด้วยสีหน้าที่อยากรู้และมันคงจะเป็นเรื่องปกติที่เพื่อนที่สนิทกันจะคุยกันเรื่องพวกนี้

“ไม่เคยอ่ะทำไมหรอ”

“จริงดิ”

ดาวทำหน้าเหมือนไม่ค่อยเชื่อ ฉันเท่าไหร่จริงๆตอนที่อยู่โรงเรียนเก่าก็มีคนมาจีบฉันบ้างนะแต่ฉันเป็นคนขี้อายเลยไม่กล้าคุยกับใครอีกอย่างพ่อก็หวงแล้วก็เข้มงวดเรื่องนี้กับฉันมากฉันเลยคุยกับใครที่โรงเรียนไม่ได้ อ่อ ลืมบอกไปว่าพ่อฉันเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่โรงเรียนเดิมของฉันส่วนแม่อยู่บ้านเฉยๆหรือถ้าจะเรียกให้ดูดีหน่อยก็คืออาชีพแม่บ้าน

“แล้วดาวล่ะเคยมีแฟนไหม”

ฉันถามกลับด้วยความอยากรู้บ้าง อย่างที่เคยบอกว่าดาวเป็นคนน่ารักจัดได้ว่าสวยระดับต้นๆของโรงเรียนเลยล่ะ ขนาดว่ามีรุ่นพี่หล่อๆมาขายขนมจีบให้ตั้งหลายคนเลยนะแต่ก็ไม่เห็นดาวจะสนใจใคร

“เคยสิใครๆก็เคยมีแฟนทั้งนั้นแหละ”

ดาวตอบด้วยรอยยิ้มที่สดใสแต่ใครๆที่ว่าคงต้องยกเว้นฉันไว้คนนึง

“นั่นสินะ”

ฉันเออออไปกับเพื่อนเพราะคงมีแค่ฉันล่ะมั้งที่ิอายุ16แล้วแต่ยังไม่เคยมีแฟน ดูอย่างเพื่อนผู้หญิงในห้องสิเหมือนจะมีแฟนกันแทบทุกคน ขนาดเด็กเรียนยังไม่ยกเว้น

“ตอนนี้เราชอบรุ่นพี่คนนึงอยู่อ่ะพี่เขาหล่อแล้วก็เทห์มากๆเลย”

อยู่ๆดาวก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ฉันตั้งใจฟังมากเพราะดาวพูดไปยิ้มไปด้วย

“จริงหรอ”

ฉันตกใจนิดหน่อย มิน่าล่ะดาวถึงไม่สนใจคนที่มาจีบที่แท้ก็มีคนที่ชอบอยู่นี่เอง

“เขาเป็นรุ่นพี่ม.6อยู่ห้องสามอ่ะ จริงๆเราชอบพี่เขามานานแล้วแล้วที่เราย้ายโรงเรียนมาก็เพราะพี่เขานี่แหละ”

ดาวดูเขินมากเวลาที่พูดถึงรุ่นพี่คนนั้นสงสัยดาวคงจะชอบรุ่นพี่คนนั้นมากจริงๆ ฉันชักจะอยากรู้แล้วสิว่าผู้ชายแบบไหนนะที่ตรงสเปคเพื่อนฉันที่ทั้งสวยแถมยังเรียนเก่งอีก ดาวกำลังจะพูดต่อแต่อาจารก็เข้ามาก่อนบทสนทนาของเราสองคนเลยต้องจบลง

ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยงฉันกับดาวมากินข้าวที่โรงอาหารด้วยกัน โรงเรียนจะให้นักเรียนมอต้นกับมอปลายพักกันคนละเวลาเพราะจะได้ไม่แออัดโรงอาหารเลยมีที่ว่างพอให้เลือกนั่งได้ตามใจ

“ไปนั่งตรงนั้นกัน”

ดาวจูงมือฉันไปที่โต๊ะที่อยู่ห่างจากร้านข้าวค่อนข้างไกลทั้งที่ใกล้ๆก็มีตั้งหลายโต๊ะแต่พอมาถึงฉันก็ตกใจจนหน้าซีดเพราะโต๊ะข้างๆมีกลุ่มของพวกพี่เสือนั่งอยู่

“อ้าว น้องดาว”

เพื่อนพี่เสือคนนึงทักดาวขึ้น ถ้าจำไม่ผิดรุ่นพี่คนนี้ก็คือคนที่จับหน้าอกฉันในห้องน้ำวันนั้น

“นี่พวกพี่พึ่งมากินข้าวหรอคะ”

ดาวตอบรุ่นพี่ที่ฉันพึ่งรู้ว่าชื่ออะไรแล้วเหมือนว่าดาวกับรุ่นพี่พวกนี้จะสนิทกันพอสมควร

“เออดิก็ไอ้ดิวนั่นแหละมัวแต่ลอกการบ้านไม่เสร็จสักทีพวกพี่เลยมากินข้าวช้า”

พี่เบส ฉันขอเรียกแบบนี้เลยแล้วกันนะ พี่เบสหันไปหารุ่นพี่อีกคนและรุ่นพี่คนที่พูดถึงก็คือคนที่ถกกระโปรงฉันขึ้น

“แล้วนี่เพื่อนใหม่ดาวหรอ”

พี่คนที่ชื่อเบสหันมามองฉัน ฉันก็หลบทันที

“อ่อ ใช่ นี่ข้าวเป็นเพื่อนคนที่ดาวเคยเล่าให้ฟังไง”

“อ๋อ”

พวกพี่เขาลากเสียงยาวๆก่อนจะหันมายิ้มให้ฉัน

“หวัดดีน้องข้าว”

“ค่ะ”

ฉันพยักหน้ารับทำเหมือนไม่เคยเห็นไม่เคยรู้จักรุ่นพี่พวกนี้มาก่อนเพราะพวกพี่เขาก็ทำเหมือนไม่เคยรู้จักฉันเหมือนกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel