บท
ตั้งค่า

5 สะใจ

“หวัดดีน้องข้าว”

“ค่ะ”

ฉันพยักหน้ารับทำเหมือนไม่เคยเห็นไม่เคยรู้จักรุ่นพี่พวกนี้มาก่อนเพราะพวกพี่เขาก็ทำเหมือนไม่เคยรู้จักฉันเหมือนกัน

“ข้าวนี่พี่ดิวเป็นพี่ชายเราเองส่วนนี่พี่เบส พี่นัทแล้วก็นั่น…..พี่เสือ”

ดาวแนะนำให้ฉันรู้จักทีละคนโดยที่ไม่รู้เลยว่าฉันรู้จักรุ่นพี่พวกนี้ดีแล้ว

“อ่อ หวัดดีค่ะ”

ฉันจำใจทักทายรุ่นพี่พวกนั้นเพราะหนึ่ง….ฉันยังไม่สามารถเล่าอะไรให้ดาวฟังตอนนี้ได้ สอง….หนึ่งในรุ่นพี่นิสัยไม่ดีเป็นพี่ชายแท้ๆของดาวฉันเลยไม่รู้ว่าควรจะพูดหรือไม่พูดอะไรออกไป ถ้าฉันบอกว่าพี่ชายดาวทำอะไรกับฉันดาวจะรู้สึกแย่กับพี่ชายตัวเองแค่ไหน

“พี่เสือคะดาวซื้อน้ำมาเผื่อค่ะ”

ดาวยื่นแก้วน้ำอัดลมไปให้พี่เสือ ก็ว่าอยู่ว่าทำไมดาวถึงซื้อน้ำมาสองแก้วที่แท้ก็จะเอามาให้พี่เสือนี่เอง เดี่ยวก่อนนะ อย่าบอกนะว่ารุ่นพี่ที่ดาวพูดถึง คือพี่เสือ

“โห่อะไรวะพวกพี่นั่งอยู่กันตั้งหลายคนมีของไอ้เสือคนเดียว ไอ้ดิวมึงดูน้องมึงดิโคตรลำเอียงเลยว่ะ”

พี่คนที่ชื่อนัทเป็นคนพูดถ้าฉันจำไม่ผิดวันนั้นในห้องน้ำมีแค่พี่คนนี้ที่ไม่ได้ทำอะไรฉันนอกจากยืนมองเฉยๆ

“ขอบใจนะ”

พี่เสือรับแก้วน้ำของดาวไปแถมยังยิ้มให้ด้วย เป็นรอยยิ้มที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนอยู่ๆฉันก็รู้สึกอิจฉาดาวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก พี่เสือกับฉันอยู่บ้านหลังเดียวกันแท้ๆแต่พี่เขากลับไม่เคยยิ้มให้ฉันเลยแล้วเวลาที่พี่เสือยิ้มนะ หล่อมากๆเลยล่ะ

“เออจริงสิข้าวแกบอกว่าแกกับแม่ย้ายมาอยู่กับใครนะ”

ในระหว่างที่นั่งกินข้าวกันอยู่ดาวก็หันมาถามฉันซึ่งฉันไม่คิดว่าอยู่ๆดาวจะถามเรื่องนี้แล้วยังถามตอนที่อยู่ต่อหน้าพี่เสือด้วย ไม่ต้องเดาก็รู้ใช่ไหมว่าพี่เสือแอบส่งสายตาพิฆาตมาที่ฉันด้วย

“แฟนใหม่ของแม่เราน่ะ”

ฉันพูดเบาๆก่อนจะรีบกินรีบไปเพราะฉันไม่อยากนั่งอยู่ตรงนี้นาน

“อ่อ แล้วแฟนใหม่แม่แกเขามีลูกคนนึงใช่ไหม”

ดาวถามฉันต่อ

“อือ ”

ฉันพยักหน้า มือที่กำลังจับช้อนส้อมอยู่มันก็สั่นๆ

“ผู้หญิงหรือผู้ชายหรอ อายุเท่าไหร่นะ”

ดาวถามต่อด้วยความสนใจ

“แหมดาวถามเพื่อนขนาดนั้นอนาคตจะทำงานอยู่ฝ่ายทะเบียนราษรฎ์ไง”

พี่คนที่ชื่อนัทเป็นคนแซว

“ก็ถามให้พวกพี่นั่นแหละพอดีว่าดาวจำได้ว่าข้าวเคยบอกว่าอายุเยอะกว่าเผื่อว่าเป็นผู้หญิงจะได้ให้เพื่อนดาวติดต่อให้พวกพี่ไงไม่ดีหรอ”

“พี่เขาเป็นผู้ชายน่ะเรียนอยู่ ม.6”

ฉันตัดสินใจบอกความจริงเพื่อจะได้จบบทสนทนานี้แต่มันก็ผิดคาดเพราะนอกจากดาวจะไม่จบแล้วยังถามฉันต่ออีก

“จริงดิอยู่โรงเรียนเราหรือเปล่า”

“ป่ะเปล่าคนละโรงเรียนน่ะ”

ฉันฝืนยิ้มก่อนจะก้มหน้าลงกินข้าว

“โห….เสียดายจังนึกว่าอยู่โรงเรียนเดียวกับเราซะอีก”

ฉันได้แต่ยิ้มตอบเพราะไม่รู้ว่าจะพูดหรือทำตัวยังไงดี ปกติดาวเป็นคนคุยเก่งชวนฉันคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่ตลอดแต่วันนี้ฉันว่าดาวชวนฉันคุยเก่งกว่าทุกวัน

หลังจากที่กินข้าวเสร็จฉันกับดาวก็แยกจากกกลุ่มของพวกพี่เสือตั้งแต่ที่โรงอาหารแต่ก่อนจะไปห้องเรียนฉันเกิดปวดท้องฉี่เลยให้ดาวไปที่ห้องก่อนแต่ในตอนที่ฉันกำลังจะเดินไปห้องน้ำก็มีใครบางคนฉุดมือฉันเข้าไปหลังตึกซึ่งเป็นตึกที่อยู่ด้านหลังสุดเลยไม่ค่อยมีนักเรียนอยู่บริเวณนี้เท่าไหร่หรือถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือเป็นบริเวณที่ค่อนข้างลับตาคน

“พี่เสือ”

พอฉันเห็นว่าคนที่ดึงแขนฉันมาคือพี่เสือฉันก็ตกใจ

“เมื่อกี้เธอจะพูดอะไรกันแน่”

คนตัวสูงจ้องหน้าฉันอย่างเอาเรื่อง

“ข้าวจะพูดอะไรคะ”

ฉันไม่เข้าใจว่าพี่เสือหมายถึงอะไร

“ก็ตอนที่ดาวถามถึงเรื่องแม่เธอกับพ่อฉันไง เธอคงอยากบอกให้คนอื่นรู้มากสินะว่าเธอออยู่บ้านฉันแล้วลูกของผัวใหม่แม่เธอก็คือฉัน”

“ไม่ใช่นะคะข้าวไม่เคยอยากบอกให้คนอื่นรู้”

ฉันส่ายหน้า ถึงฉันจะอยากให้พี่เขายอมรับฉันกับแม่แต่ฉันก็ไม่เคยอยากป่าวประกาศเรื่องแบบนี้ให้ใครรู้หรอก

“ก็ดีเพราะถ้าฉันรู้ว่าเธอเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นฉันเอาเรื่องเธอแน่”

“ถ้าคนอื่นรู้ว่าข้าวอยู่บ้านเดียวกับพี่เสือมันน่าอายมากหรอคะแล้วทำไมพี่เสือถึงไม่ชอบข้าวขนาดนี้”

ฉันรู้ดีว่าการยอมรับคนอื่นมาแทนที่พ่อแม่ตัวเองมันเป็นเรื่องที่ยากและต้องใช้เวลาเพราะฉันเองก็ยังยอมรับคุณลุงให้มาแทนที่พ่อฉันไม่ได้เหมือนกันแต่ก็ไม่จำเป็นต้องเกลียดกันขนาดนี้ก็ได้นิ

พี่เสือยังไม่รู้ว่าฉันเป็นคนยังไงด้วยซ้ำทำไมถึงได้ตั้งต้นเอาแต่เกลียดฉันตั้งแต่วันแรกที่เจอกันด้วยล่ะแต่ระหว่างที่ฉันกำลังตัดพ้อพี่เสือผ่านแววตาพี่เสือก็มองหน้าฉันแปลกๆ

“อยากรู้หรอ”

“ค่ะข้าวอยากรู้”

ถึงสายตาของพี่เสือจะไม่ค่อยน่าไว้ใจแต่ฉันก็ยังยืนยันคำพูดตัวเองด้วยการพยักหน้า

“งั้นเธอก็แกะกระดุมเสื้อออกสิแล้วฉันจะบอก”

พอได้ยินประโยคพวกนี้บวกกับสายตาของพี่เสือที่มองลงมาแถวๆหน้าอกฉันแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากทำให้ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่เสือถึงได้มองฉันแปลกๆ

“พี่เสืออย่าล้อข้าวเล่นสิคะ”

“ฉันไม่ได้ล้อเล่น ทำไมทีวันนั้นเธอยังให้พวกเพื่อนฉันดูเลยนิ”

“ข้าวไม่ได้ให้พวกพี่เขาดูสักหน่อยก็เพื่อนพี่เสือนั่นแหละที่”

ฉันหยุดเอาไว้แค่นี้เพราะฉันไม่อยากพูดถึงเรื่องวันนั้นอีก

“แกะกระดุมออกหรือต้องให้ฉันช่วย”

ฉันไม่เคยคิดเลยว่าปกติคนที่ชอบทำหน้าเย็นชาไม่ก็ทำหน้าดุๆใส่ฉันตลอดเวลาจะทำหน้าลามกกับเขาก็เป็น ตอนนี้พี่เสือทำให้ฉันเริ่มจะกลัวจริงๆแล้ว

“ย่ะ....อย่านะคะ”

ฉันเอามือขึ้นมาปิดตรงหน้าอกด้วยความหวงแหนตัวฉันก็สั่นๆเพราะตอนนี้พี่เสือยืนแทบจะชิดฉันอยู่แล้วแถมยังเอาหน้าลงมาใกล้หน้าฉันมากด้วยแต่อยู่ๆพี่เสือก็แสยะยิ้มออกมาก่อนที่ใบหน้าหล่อๆนั่นจะจ้องฉันด้วยสายตาดูถูก

“เธอคิดว่าคนอย่างฉันจะดูอะไรของเธอให้เสียลูกกะตาจริงๆหรอ อย่างเธอต่อให้เอาฟรีๆฉันก็ไม่เอาให้เปลืองน้ำฉันหรอก”

ฉันเชื่อแล้วว่าพี่เขาคงจะเกลียดฉันจริงๆเพราะจะมีผู้ชายสักกี่คนที่เขาพูดกับผู้หญิงแบบนี้ ฉันค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองคนใจร้าย ขอบตาที่ผ่าวร้อนทั้งสองข้างเป็นเพราะฉันอยากร้องไห้แต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้แล้วจ้องหน้าพี่เสือกลับ

“ข้าวก็ไม่เอาพี่เสือเหมือนกันนั่นแหละค่ะผู้ชายอะไรปากร้ายแถมยังไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย”

ไม่รู้อะไรเข้าสิงฉันถึงกล้าพูดทั้งที่กลัวแทบตายแต่ฉันรู้อยู่อย่างนึง ตอนนี้พี่เสือกำลังจ้องลงมาที่ฉันเหมือนอยากกินหัวฉันเข้าไป

ติ๊งดิ่งดิงดิ่ง…..

ในตอนนั้นออดของโรงเรียนก็ช่วยชีวิตฉันเอาไว้ก่อนที่มือถือของพี่เสือจะมีคนโทรเข้ามา

“เออรู้แล้วเดี๋ยวกุไปตอนนี้แหละ”

พี่เสือจ้องเขม่นก่อนจะเดินออกไป

ชั่วโมงสุดท้ายของวันนี้เป็นวิชาโฮมรูมอาจารย์ให้พวกฉันออกมาเก็บขยะและรดน้ำต้นไม้ดอกไม้หน้าตึกเรียน ฉันช่วยกันทำกับเพื่อนๆในห้องจนเสร็จแต่ในตอนที่ฉันกำลังจะกลับไปที่ห้องอยู่ๆก็ไม่รู้ว่ามีน้ำจากไหนเทลงมาใส่ฉัน

“ขอโทษนะไม่รู้ว่ามีคนยืนอยู่เป็นอะไรมากไหม”

พอฉันเงยหน้าขึ้นไปหาต้นเหตุก็เห็นพี่เสือยืนอยู่แต่สีหน้าตอนที่พูดคำโทษดูยังไงมันก็เหมือนคนสะใจมากกว่า เพื่อนๆในห้องก็พากันมองฉัน บ้างก็หัวเราะฉันแต่ก็ยังมีหลายคนที่เข้ามาดูฉันหนึ่งในน้นก็คือดาว

“เป็นไงบ้างข้าวดูซิเปียกหมดเลย”

ดาวถามฉันด้วยความเป็นห่วง

“เราไม่เป็นไรหรอก”

ฉันลูบผมที่เปียกปอน แม้ว่าน้ำที่เทลงมามจะไม่เยอะอะไรแต่มันก็ทำให้หน้ากับหัวฉันเปียกไปหมด

“อย่าโกรธพี่เสือเลยนะพี่เขาคงมองไม่เห็นจริงๆ”

ดาวช่วยพูดแทนพี่เสือพูด ดาวยอมรับกับฉันแล้วว่าคนที่ชอบคือพี่เสือจริงๆ

“อือ ช่างมันเถอะเราไม่เป็นอะไรหรอก”

ฉันกับดาวเดินขึ้นห้องทันทีแต่ในระหว่างที่เดินขึ้นบันไดก็สวนทางกันกับพวกพี่เสือ

“กุว่าน้ำน้อยไปนะเว้ยไอ้เสือดูดิเสื้อน้องไม่เห็นเปียกเลยว่ะ”

รุ่นพี่ที่ชื่อเบสเป็นคนพูด

“ไอ้สาดเบสมึงพูดแบบนี้ได้ไงวะเห็นไหมว่าไอ้เสือมันทำน้องเปียกไปหมดแล้ว”

พี่นัทคนที่ฉันบอกว่าวันนั้นไม่ได้ทำอะไรฉันต่อว่าให้เพื่อนทันทีแต่คนที่ทำให้ฉันเปียกไม่ต่างจากลูกหมากลับทำเหมือนตัวเองไม่ได้ผิดเพราะนอกจากพี่เสือจะไม่พูดอะไรแล้วยังเดินเอามือล้วงกระเป๋าผ่านฉันไปอย่างหน้าตาเฉย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel