บทที่ 4 สันดาน
เสียงแหบเรียกชื่อของคนที่กำลังคร่อมร่างอันเปล่าเปลือยของเธอไว้บนเตียงนอนนุ่ม สายตายั่วยุผสมกับความเร้าร้อนมองไปยังคนตรงหน้าด้วยจุดประสงค์ที่อยากปลดปล่อยเหลือเกินก่อนที่มือเรียวเล็กขาวเนียนจะค่อยๆ ทำหน้าที่ลูบไล้หน้าอกของคนตัวใหญ่ไล่ลงไปทีละน้อยๆ จรดเอวเธอก็จัดการปลดเข็มขัดออกอย่างช้าๆ บวกกับสายตาสีน้ำตาลเข้มก็ยังทำหน้าที่ดึงดูดคนที่ได้ชื่อว่าแฟนให้เข้ามาประกบริมฝีปากอย่างรวดเร็ว
“งั้นเรามาเริ่มกันเลย”
สายตาสีเทาหม่นที่ใส่เพียงแค่ชุดคลุมสีขาวใหญ่เผยหน้าอกสีขาวผ่องลึกลงไปยังหน้าท้องสวยนั่งบนโซฟาสีแดงเลือดนกหรูทอดมองไปยังเตียงใหญ่ที่มีร่างสวยนอนคว่ำหน้าเผยแผ่นหลังขาวเนียนครึ่งตัวที่ไร้สิ่งบดบังยิ่งเมื่อถูกแสงของดวงจันทร์ในยามค่ำคืนสาดส่องเข้าจากบานเคลื่อนกระจกใหญ่ที่ไม่มีผ้าม่านกั้นบังซึ่งได้ชื่อว่าเป็นจุดชมวิวกลางเมืองหลวงชั้นสูงสุดของคอนโดหรูมากระทบมันน่าสัมผัสเป็นอย่างยิ่ง
ผมนั่งมองพี่มิลล์ที่พึ่งได้หลับไปด้วยความอ่อนเพลียเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วนี้เองทั้งๆ ที่ตัวผมเองก็ยังคงสับสนว่าทำไมตัวเองถึงได้แม้ร่างกายของผู้หญิงคนนี้นักหนา
เธอมันน่ารำคาญจริงๆ
ปากก็ขยันบอกว่าอย่างงี้แต่ทำไมร่างกายของผมมันถึงไม่ให้ความร่วมมือนักนับตั้งแต่ที่ผมย่างก้าวออกจากคลับที่ไปซุกหัวอยู่ตั้งสองวันเต็มๆ ก็มุ่งตรงมายังคอนโดหวังว่าจะนอนหลับให้เต็มทีแต่ผลมันก็ไม่เป็นอย่างที่หวังกับได้...ออกกำลังกายในร่มเสียนี้สิ
หึ..
Rr…
และแล้วเสียงของเครื่องมือสื่อสารก็เข้ามาปลุกในห้วงของความคิด มันเป็นเบอร์ที่ผมจำได้อย่างขึ้นใจไม่เคยลืม..
“…”
[เทน..]
“โทรทำไม?”
[คิดถึงค่ะ โทรมาเพราะคิดถึง]
“หึ”
ริมฝีปากไม่รูปยกเหยียดขึ้นอย่างเคยชินพร้อมกับแววตาเข้มขึ้นมาอย่างน่ากลัวโดยที่คนปลายสายไม่รู้เลยสักนิด
[แพทคิดถึงเทนนะคะ คิดถึงมาก]
“มากขนาดนั้นเลยหรอ?”
[เราเจอกันได้ไหมค แพทจะทำให้เทนได้รู้ว่าคิดถึงมากมันเป็นยังไง]
“…”
[เจอกันนะคะ..]
ปลายสายยังรบเร้าที่จะอยากเจอยิ่งกว่าปลากระดี่ได้น้ำเสียอีกในขณะที่คู่สนทนานั้นเอาแต่เงียบงันเด็กอนุบาลคงรู้ว่าคำว่าคิดถึงมากของเธอมันสื่อว่าอะไร
“…”
[จะให้แพทไป...]
กึก!
สวบ!
“เทนขาทำไมถึงยังไม่นอนล่ะหรือว่ายังไม่อิ่ม” เสียงหวานดังขึ้นมาอย่างเงียบๆ พร้อมกับมารยาดัดจริต “แต่เราทำกันตั้งแต่หัวค่ำตอนนี้ก็เกือบรุ่งเช้า งั้นเราเอาถึงเช้าเลยไหมเทนขา”
หึ! นึกหรอว่าคนอย่างยัยมิลล์จะไม่รู้ว่าปลายสายมันเป็นอีแพท อีเชอรรี่ที่ชอบอ่อยผัวชาวบ้านดึกดื่นเที่ยงคืนยังไม่หลับไม่นอน รู้จักคนอย่างฉันน้อยไปเสียแล้ว
ทันทีที่ได้จังหวะฉันก็ลุกขึ้นจากเตียงนอนทั้งๆ ที่ร่างกายไร้สิ่งบดบังจึงคว้าผ้าผืนบางสีขาวที่อยู่ตรงหัวเตียงมาคลุมตัวอย่างหมิ่นๆ ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปนั่งบนตักแกร่งของเทนที่นั่งพิงโซฟาตัวใหญ่คุยโทรศัพท์อยู่จากนั้นก็เอามือทั้งสองสอดคล้องเข้าไปที่ลำคอทำสีหน้าเหมือนถูกรวบกวนให้ตื่นนอนทั้งๆ ที่ความจริงฉันยังไม่ได้หลับสักนิดเดียวเพราะมัวแต่แอบมองสายตาของเทนที่ทอดมองมายังร่างกายของตัวเอง
“…”
ผมมองสายตาสีน้ำตาลเข้มของคนที่เข้ามาคล้องลำคอของตัวเองทั้งๆ ที่มือข้างซ้ายก็ยังถือโทรศัพท์แนบหูเอาไว้ สีหน้าที่บ่งบอกว่าถูกรวบกวนการนอนด้วยเสียงของผมแต่ทำไมเสียงเธอถึงได้หวานขนาดนี้ล่ะ?
[เทนค่ะ! เทนเทนอยู่กับใครบอกแพทมานะ!]
“...”
เสียงเดือดของปลายสายที่โวยวายขึ้นมาอย่างไม่พอใจทำให้ฉันรู้สึกสะใจไม่น้อยแต่ต้องพยายามรักษาสีหน้าของตัวเองเอาไว้เพราะคนที่อยู่ใกล้เพียงคืบกำลังมองอยู่อย่างไม่ละสายตา
“อย่ามองแบบนี้สิ เค้าเขินน๊า..เทนขา”
