chapter 4/1 ผู้มีพระคุณ
ตอนที่ 4 ผู้มีพระคุณ
คฤหาสน์หลังใหญ่สีขาวบริเวณสร้างเป็นเนินโค้งดูสวยงาม
เบื้องขวามีสวนสีเขียวชอุ่มแทรกแซมด้วยพืชไม้ดอกหลากชนิดถูกตัดแต่งเป็นรูปทรงต่าง ๆ ราวกับสีจากพู่กันที่แต่งแต้มลงบนกระดาษสีขาวให้ดูมีสีสันมากยิ่งขึ้น
“เออๆ ผู้หญิงคนเดียวก็จัดการไม่ได้ กระจอกจริงพวกมึง”เสียงบ่นใส่ปลายสายอย่างเกรี้ยวกราดของโซนิคในห้องรับแขกสะเทือนถึงหูเจ้าของบ้านเช่นจีรศักดิ์จนต้องรีบออกมาดู
“อะไรกันโซนิคเสียงดังไปถึงด้านบนเลย” เสียงชายชราวัยหกสิบต้น ๆ เอ่ยถามลูกชายที่เหมือนกำลังโวยวายด้วยความไม่พอใจเรื่องอะไรสักอย่างจนคนใช้ในบ้านวิ่งหนีหายไปไม่มีใครกล้าเข้าไปทำความสะอาดหรืออะไรทั้งสิ้น
“เพื่อนน่ะครับพ่อ มันทำงานออกมาไม่ค่อยออกมาตามแผนสักเท่าไหร่ผมเลยเซ็ง ๆ”
“หัดใจเย็น ๆ กับเขาซะบ้างสิลูก พ่อเข้าใจว่าแกน่ะตั้งใจเรียนตั้งใจทำงาน แต่เมื่อเกิดปัญหาเราก็ไม่ควรโวยวาย ควรใช้สติในการแก้ปัญหาจะดีกว่านะลูก”
จีรศักดิ์ตบบ่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนให้ใจเย็นลงกว่าเดิม เผื่อวันข้างหน้าจะได้ บริหารธุรกิจต่อจากเขา เวลาเจอปัญหาอะไรต่าง ๆ ลูกชายคนโตจะได้แก้ปัญหาโดยใช้สติปัญญามากกว่าอารมณ์ ก่อนจะพาลูกชายมานั่งตรงโซฟาสีเทาในห้องรับแขก
โซนิคพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย ซึ่งเขามักจะแสดงท่าทีแบบนี้บ่อยเวลาอยู่ต่อหน้าพ่อ ทำให้จีรศักดิ์ชอบใจที่ลูกชายคนโตเป็นเช่นนี้ จนในความรู้สึกทุกคนจึงดูเหมือนว่าจีรศักดิ์รักแฝดคนพี่มากกว่าแฝดน้อง
“เจี๊ยบ”
“คะ คุณท่าน?”
“ซีเมลมาถึงหรือยัง?”
สาวใช้วัยยี่สิบปลาย ๆ ที่กำลังเช็ดกระจกอยู่รีบกุลีกุจอเข้ามาหานายใหญ่ของบ้านทันทีที่ได้ยินเจ้านายเรียกชื่อ แต่เมื่อเจอคำถามของ
จีรศักดิ์เข้าไปเธอก็ได้แต่ส่ายหน้าเบา ๆ แทนคำตอบ
“เถลไถลใช้ไม่ได้ วันนี้เป็นวันทำบุญของแม่มันแท้ ๆ ยังไม่คิดจะให้เกียรติ แย่จริง ๆ” จีรศักดิ์ใช้มือตบลงโซฟาที่นั่งอยู่อย่างไม่พอใจ ที่วันนี้เป็นวันทำบุญครบสองปีของแม่เขายังไม่คิดจะมาให้ตรงเวลาอีก
คำตำหนิไหลออกจากริมฝีปากของจีรศักดิ์ได้ไม่ถึงสิบนาที
รถบีเอ็มดับบลิวสีน้ำเงินคันหรูเปล่งประกายล้อกับแสงแดดเข้ามาจอดเทียบท่าหน้าคฤหาสน์
“คุณซีเมลมาแล้วค่ะ คุณท่าน”
เจ้าของชื่อที่ถูกพูดถึงเมื่อสิบนาทีที่แล้วลงเปิดประตูลงจากรถ ก่อนย่างก้าวเข้ามาในคฤหาสน์ด้วยสภาพที่มีผ้าพันแผลพันไว้ตามจุด
ต่าง ๆ ของร่างกาย เดินถือกระเป๋าเป้สีดำด้วยมือขวากำลังจะตรงขึ้นไปยังชั้นบนของบ้าน
“กว่าจะมาได้นะไอ้ลูกตัวดี แม้แต่วันครบรอบวันตายแม่แกจะไม่ให้ความสำคัญกับเขาเลยหรือไง?”
คำต่อว่าของผู้เป็นบิดาส่งผลให้ผู้มาใหม่ชะงักฝีเท้าลงก่อนจะหันใบหน้ามาทางผู้เป็นพ่อด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“เปล่า ผมแค่แวะไปโรงพยาบาลมา”
“โรงพยาบาล” จีรศักดิ์ย้ำคำพูดของลูกชายคนเล็ก? ก่อนจะเข้าไปกระชากตัวลูกชายคนเล็กเข้าหาตัวโดยที่อีกฝ่ายไร้ซึ่งการตอบโต้
“แกไปทำอะไรมา ซีเมล สภาพแกถึงได้เหมือนหมาแบบนี้ !”
“…”
“ไอ้ซีเมล!! วันครบรอบวันตายแม่ แกก็ยังไม่เว้นเรื่องชั่ว ๆ แบบนี้อีกเหรอ หัดทำตัวอยู่ในโอวาทเหมือนพี่แกบ้างไม่ได้หรือไง!?” จีรศักดิ์ตวาดเสียงดังกว่าเดิมเมื่อคู่สนทนายังเมินเฉย ทำราวกับว่าคำพูดของเขาเป็นเพียงอากาศธาตุ
“มันจะไปรู้สึกอะไรล่ะพ่อในเมื่อ….มันเป็นคนทำให้แม่ตาย”
โซนิคจงใจเน้นประโยคท้ายเพื่อยั่วโมโหน้องชายฝาแฝดสุดฤทธิ์ ซึ่งมันก็ได้ผล เสียด้วย
ซีเมลทุ่มกระเป๋าเป้ลงที่พื้นอย่างหมดความอดทน เขาเกลียดที่สุดคือการที่ทุกคนในครอบครัวพร่ำโทษว่าการที่มารดาต้องตายเป็นเพราะเขา เขาเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นเขาย่อมรู้ดีที่สุดว่าการที่รถเสียหลักพุ่งชนรถอีกคันวันนั้นไม่ใช่แค่อุบัติเหตุ และก็ไม่ได้เกิดจากความประมาทของเขาแต่มีคนจงใจวางแผนให้มันเกิด
ซีเมลพุ่งไปกระชากคอเสื้อพี่ชายก่อนปล่อยหมัดลงแก้มซ้ายของโซนิคอย่างจัง ท่ามกลางอาการแตกตื่นของทุกคนภายในบ้าน
“มึงไม่มีสิทธิ์มาด่ากูด้วยคำนี้ คนที่ทำให้แม่ต้องตาย ไม่ใช่กู!”
เป็นผลทำให้เสาหลักของครอบครัวฟิวส์ขาดกระชากแขนลูกชายตัวดีหันกลับมาหาเขาก่อนเหวี่ยงฝ่ามือลงหนาที่ใบหน้าหล่อโดยไม่พูดไม่จา
เพี๊ยะ!!
“จนป่านนี้แล้วก็ยังไม่ยอมรับความผิด แกมันเลี้ยงเสียข้าวสุก
ไอ้เนรคุณ! ถ้าวันนั้นแกรู้ว่าขับรถไม่แข็งแกจะเอาแม่แกไปด้วยทำไม!! ฉันเข้าใจว่าช่วงนั้นแกไม่ลงรอยกับแม่ของแก แต่ทำไมต้องถึงขั้นฆ่าเขา!!!!”
จีรศักดิ์ตวาดซีเมลด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ผิดหวังกับลูกชายที่ทำผิดแล้วไม่ยอมรับในการกระทำของตัวเองตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้
“หึ จะกี่ปีกี่ชาติพ่อก็ยังหูเบาเหมือนเดิม ถ้าพ่อมั่นใจว่าผมเป็นคนทำ ก็เอาหลักฐานมาแล้วจับผมเข้าคุกไปเลย แต่ถ้ายังไม่มีพ่อไม่มีสิทธิ์มากล่าวหาว่าผมเป็น ฆาตกร”
“ผมว่าผมไปทำบุญให้แม่เองดีกว่า พ่อทำร่วมกับไอ้… ลูกชายสุดที่รักของพ่อไปเถอะ”
ลูกชายเล็กของบ้านกระแทกเสียงใส่ผู้เป็นพ่ออย่างเหลือทน เรื่องอื่นสำหรับซีเมลอาจจะพอหยวน ๆ ได้แต่สำหรับเรื่องแม่เขาจะไม่ทน เพราะ เขา ไม่ ผิด
ซีเมลหยิบกระเป๋าเป้ที่กองอยู่ที่พื้นขึ้นมาสะพายไว้บนหลังตาเดิม ก่อนขับรถออกจากบ้านไปทั้งที่มาถึงบ้านยังไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ
เพล๊ง!!
“โธ่เว้ย !!ไอ้ลูกชั่ววววว!!!” ประธานบริษัทยักษ์ใหญ่กวาดแจกันบนโต๊ะรับแขกร่วงแตกกระจาย ก่อนจะตะโกนด่าทอลูกชายคนเล็ก ด้วยความโกรธสุดขีด
ที่ผ่านมาไม่ใช่ว่าจีรศักดิ์ไม่พยายามหาหลักฐานเกี่ยวกับการตายของภรรยาเขา แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่พบต่างหาก ทั้งกล้องวงจรปิดที่บ้านที่เกิดเหตุก็พังเสียหายจนหมด
และความจริงแล้วเขาก็ไม่ได้ปักใจเชื่อว่าว่าซีเมลจงใจฆ่าแม่ของเขา เพราะว่าสองแม่ลูกมีความสัมพันธ์ที่ดี มีเหตุผลต่อกันมาโดยตลอด จะมีก็อาจเป็นความขัดแย้งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขาทะเลาะกันแม่ก่อนเดินทาง แต่ที่เศรษฐีหม้ายมักฟาดงวงฟาดงาใส่ลูกชายคนเล็กอยู่บ่อยครั้ง ก็คงหนีไม่พ้นความเสียใจที่ตนเองได้เสียภรรยาสุดที่รักไป และเขาจะไม่พาลโกรธถึงขั้นไม่เปิดตัวซีเมลให้ใครได้รู้ว่าเขาเป็นลูกชายอีกคนหนึ่งของบ้านขนาดนี้ ถ้าซีเมลไม่ทะเลาะกับแม่ของเขาในรถตามคำสันนิษฐานของโซนิคกับเขาจนเป็นเหตุให้เกิดการสูญเสียคนในครอบครัวอันเป็นที่รักไป
ซีเมลขับรถมุ่งตรงไปยังคอนโดหวังจะกลับไปนอนสักตื่นเพื่อไล่ความผิดหวังเสียใจที่ถูกผู้เป็นพ่อได้ฝากไว้ที่แก้มซ้ายของตน แต่ดูเหมือนว่าจะยากเสียแล้ว
CHAT LINE
ไลน์~~
