บทที่3.
เจติยาถอนใจหนักๆ กับความวิตกกังวลของตัวเองจนสติเตลิดไปหมด หญิงสาวตั้งสติแล้วยันกายลุกขึ้นโดยมีผ้าห่มคลุมกายเปลือยเปล่าไว้พลางมองหาเสื้อผ้าของตนแต่กลับไม่พบแม้แต่ชั้นใน ใบหน้านวลซีดลงไปอีกเมื่อคิดว่าคงไม่มีทางออกไปจากที่นี่ได้ในสภาพแบบนี้แน่นอน
“ตื่นแล้วหรือ ตื่นแล้วก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวสิ แล้วก็มากินข้าว”
เสียงประตูห้องเปิดออกพร้อมทั้งร่างสูงใหญ่ของจอมทัพยืนกอดอกอิงกรอบประตูมองมาที่เธอด้วยแววตาอ่านไม่ออก
“คือ เอ่อ.. แต่เจ ไม่มีเสื้อผ้าใส่..” หญิงสาวเสียงอ่อย ตอนนี้เธออยากร้องไห้กับสภาพของตัวเองมาก
“รีบอาบน้ำแต่งตัวซะ เสื้อผ้าอยู่ในตู้จะใส่ตัวไหนก็เลือกเอา ฉันจะรอที่ข้างนอก”
เขาบอกแล้วเดินออกไปเงียบๆ และยังปิดประตูให้อีกด้วย เจติยามองตามชายหนุ่มไปอย่างไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์เขานัก แต่เธอไม่มีเวลาจะคิดอะไรมาก ตอนนี้เหนียวตัวและเมื่อยล้าไปหมด ได้อาบน้ำให้สบายเนื้อสบายตัวก็คงดีไม่น้อย เจติยารีบอาบน้ำทำธุระส่วนตัวไม่นานก็ออกมาที่ตู้เสื้อผ้าหลังงามหรูหราของเขา ซึ่งในตู้ใบนี้มันเคยมีเสื้อผ้าของเธออยู่ด้วย และเธอคิดว่าเขาคงไม่เก็บไว้ดูต่างหน้าคงจะโยนมันทิ้งไปตั้งแต่วันแรกที่เธอขอจบความสัมพันธ์ในความลับกับเขาแล้ว และจอมทัพก็คงเกลียดเธอมาก...
เจติยาถอนใจเบาๆ มองบานประตูตู้เสื้อผ้าอย่างหม่นหมองและปวดร้าว ก่อนที่มือเรียวที่สั่นน้อยๆ จะค่อยๆ เลื่อนประตูแบบบานเลื่อนนั้นออกช้าๆ เพื่อจะหยิบเสื้อผ้าของเขามาใส่ไว้ก่อน แล้วค่อยรีบกลับคอนโดของตัวเอง แต่เมื่อบานประตูมันเลื่อนออกจนสุดหญิงสาวก็ต้องอ้าปากค้างตะลึงมองสิ่งที่อยู่ในตู้ใบนั้น
“นี่มันของของเรานี่นา.. เสื้อผ้ากับของใช้นี่ก็ของเรา..”
เจติยาหยิบข้าวของตรงหน้าขึ้นมาดูก็พบว่ามันคือเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ของตนที่มีอยู่ที่นี่ เธอจำได้ว่าจอมทัพบอกให้เธอเอาของใช้ส่วนตัวและเสื้อผ้ามาไว้ที่คอนโดของเขาได้ เวลาที่เธอมาที่นี่จะได้มีเสื้อผ้าเปลี่ยน ในตอนนั้นเธอเองก็คิดว่ามันเป็นเรื่องปกติของเขาและก็คงทำแบบนี้กับผู้หญิงที่เป็นคู่นอนกับเขาทุกคนนั่นล่ะ เจติยารู้สึกใจห่อเหี่ยวขึ้นมาทันทีเมื่อคิดถึงจุดนี้ หญิงสาวรีบปัดความคิดวุ่นวายออกจากหัวแล้วรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวเดินออกมาที่ห้องโถงกว้างขวางตกแต่งเรียบง่ายสบายตา ก่อนจะเดินไปยังห้องครัวทันสมัยเมื่อได้กลิ่นอาหารลอยมา นี่เขากำลังทำอาหารหรือ คนอย่างจอมทัพนี่นะ.. คิ้วเขียวขมวดยุ่งแต่ก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่เธอคิดไว้นั้นมันเป็นจริงเมื่อเห็นร่างสูงสง่าของเขาสมผ้ากันเปื้อน ยืนหยิบจับอะไรวุ่นวายอยู่หน้าเตา เจติยายืนมองเขานิ่งเหมือนต้องมนต์สะกด จนเมื่อเขาหันมาแล้วทำท่าเหมือนเก้อๆ ไปเล็กน้อย หญิงสาวจึงกระแอมในลำคอเบาๆ แล้วเดินไปหาเขา
“ทำอะไรคะ”
“เจียวไข่..” เขาตอบแล้วตักไข่เจียวหน้าตาน่ารับประทานใส่จาน เจติยาเห็นว่าบนโต๊ะรับประทานอาหารเล็กๆ ในครัวมีอาหารสองอย่างอยู่จนเดินไปดูพบว่ามันเป็นต้มจืดและผัดหน่อไม้ฝรั่งใส่กุ้งตัวโตน่ารับประทานและมันคือของโปรดของเธอ ใจสาวเต้นแรงไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาตั้งใจทำมันเพื่อเธอ คงไม่ใช่หรอก จอมทัพไม่ใช่คนใจดีขนาดนั้น...
“ตักข้าวสิ”
“อ้อ.. ค่ะ” เจติยาสะดุ้งน้อยๆ เมื่อเขาเอ่ยขึ้นพร้อมกับวางจานไข่เจียวลงบนโต๊ะ หญิงสาวกุลีกุจอหยิบจานมาตักข้าวให้เขากับตัวเอง พอได้กลิ่นอาหารเธอก็เริ่มหิวขึ้นมาทันที และไม่คิดจะอิดออดเล่นตัวตอนนี้หรอก เพราะเธอเองก็หิวมาก ทางที่ดีอิ่มท้องไว้ก่อนเป็นดี...
หนุ่มสาวนั่งรับประทานอาหารด้วยกันเงียบๆ ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันตลอดการรับประทานอาหาร เจติยาตักกับข้าวใส่จานให้เขาด้วยความเคยชิน จอมทัพชะงักเล็กน้อย แต่ไม่ได้พูดอะไร และเขาก็ตักผัดหน่อไม้ฝรั่งใส่จานให้เธอเช่นเดียวกัน จนเมื่อกินอิ่มแล้วเจติยาก็เก็บจานไปล้างทำความสะอาดครัวเงียบๆ หญิงสาวทำทุกอย่างด้วยความเคยชินเหมือนตอนที่ยังเป็นผู้หญิงในความลับของเขาอยู่ โดยไม่ได้รู้สึกตะขิดตะขวงใจ ในขณะที่จอมทัพเดินออกไปรอข้างนอกเมื่อเจติยาบอกว่าที่เหลือเธอจะจัดการเอง
เมื่อทำงานในครัวเสร็จแล้วเจติยาก็เดินออกมาที่ห้องนั่งเล่นซึ่งติดระเบียงกว้าง คอนโดของจอมทัพนั้นมีความเป็นส่วนตัวมาก จัดสรรพื้นที่อย่างลงตัวมีทั้งฟิตเน็ตส่วนตัวและพื้นที่ส่วนหย่อมเล็กๆ ที่ตกแต่งอย่างงดงาม และในตอนเช้าๆ เธอมักชอบมานั่งดื่มกาแฟที่สวน มองต้นไม้ดอกไม้ที่ตนเองสรรหามาปลูกเพิ่มเติม
เจติยาเดินไปดูกุหลาบ แล้วก็แคคตัสอีกหลายกระถางที่ตนขออนุญาตเขาเอามาปลูกเพิ่มในสวนของเขาด้วยสีหน้าที่สดใสขึ้น เธอนึกถึงวันที่จอมทัพซื้ออุปกรณ์มาทำชั้นวางแคคตัสให้เธอ วันนั้นเธอกับเขาช่วยกันทำชั้นวางด้วยกันอย่างมีความสุข แต่มันผ่านไปแล้ว ความสุขแบบนั้นเธอก็คงไม่มีโอกาสได้พบเจออีก หญิงสาวถอนใจแล้วเดินกลับไปหาจอมทัพที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ที่เธอกับเขาเคย...
แก้มสาวแดงจัด ร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้เมื่อนึกถึงว่าตนกับเขาเคยทำอะไรด้วยกันบ้างที่โซฟาตัวนั้น หญิงสาวเมินสายตามองท้องฟ้าสดใส วันนี้อากาศไม่ร้อนมากนักท้องฟ้าก็สีฟ้าสดเจิดจ้า
“คุณจอมคะ..” เธอเรียกคนที่ทำนิ่งเฉยอย่างกล้าๆ กลัวๆ เธอจะกลัวอะไรกันนะ หญิงสาวเอ็ดตัวเองในใจ
“มีอะไร” เขาถามห้วนๆ ไม่มองหน้าเธอด้วย เจติยารู้สึกอึดอัดกับท่าทางของเขานัก
“เจจะกลับแล้วนะคะ” คราวนี้จอมทัพเงยหน้าจากหนังสือในมือมองหน้าเธอด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก แต่มันทำให้เจติยายิ่งรู้สึกอึดอัด
“ฉันให้คนไปเก็บของที่คอนโดเธอมาแล้ว และฉันก็จัดการหาคนมาเช่าได้แล้วด้วย เดือนหน้าเขาจะเข้าอยู่”
“อะไรนะคะ.. หมายความว่ายังไง.. แล้วเจจะไปอยู่ที่ไหน แล้ว คุณทำแบบนี้ได้ยังไง นั่นมันบ้านของเจนะคะ คุณไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายชีวิตของเจ”
