บทที่2. จบตอน
“อ้อ.. พอแต่งตัวสวยหน่อย อ่อยผู้ชายติดหลายคนก็ทำเป็นลืมผัวเลยนะ”
“คุณจอม..” เจติยาเสียงสูงมองเขาอย่างไม่พอใจและไม่เข้าใจกับคำพูดของเขาโดยเฉพาะประโยคสุดท้ายนั้น
ลืมผัว... ใครคือผัวของเธอกันล่ะ และคนอย่างจอมทัพหวงความโสดจะตายไป เขาไม่ยอมรับใครเป็นภรรยาหรือยอมให้ตัวเองเป็นสามีของใครง่ายๆ หรอก และโดยเฉพาะกับเธอนั้น มันก็แทบจะไม่มีทางเป็นไปได้ สำหรับเขา เธอก็เป็นได้แค่คนในความลับเท่านั้นเอง
“ทำไม เดี๋ยวนี้เธอกล้าขึ้นเสียงใส่ฉันเหรอ ทำท่าฉุนเฉียวและเมินเฉยใส่ฉัน แล้วยังกล้าไประริกระรี้กับผู้ชายคนอื่นอีก มันน่านัก”
“แล้วถ้าเจจะทำแบบนั้น มันจะทำไมคะ ในเมื่อคุณจอมทำตัวไม่น่ารักกับเจ เจก็ต้องไม่พอใจสิคะ แล้วอีกอย่างเจยังโสด จะมีผู้ชายเข้ามาในชีวิตก็ไม่แปลก ที่สำคัญเจยังไม่มีสามีค่ะ คุณจอมจะมากล่าวหาหรือก้าวก่ายชีวิตเจไม่ได้”
“เก่ง.. เดี๋ยวนี้เก่ง ปากดีมากเจติยา..” จอมทัพทำเสียงเยาะ
“สรุปคุณจอมพาเจมาที่นี่ทำไมคะ..”
“ก็พามาทำอย่างที่เคยน่ะสิ”
เขาตอบหน้าตาเฉยพร้อมทั้งเดินเข้ามาหา เจติยาถอยหลังโดยอัตโนมัติในขณะที่ยังอึ้งกับคำตอบของเขา
“มะ หมายความว่ายังไงคะ”
“นี่เธอสมองกระทบกระเทือนรึเปล่าเจ อ๋อ.. คงอยากให้ฉันเตือนความจำสินะ”
“มะ ไม่ใช่นะคะ ว้าย.. คุณจอมจะทำอะไรคะ ปล่อยเจนะ เจจะกลับบ้าน”
เจติยาหวีดร้องออกมาอย่างตระหนกเมื่อเขาก้าวเข้ามาประชิดแล้วช้อนร่างเธอขึ้นมาอยู่ในวงแขนแข็งแรงที่แสนคุ้นเคย แต่สถานะตอนนี้มันไม่ได้เป็นอย่างวันวานและท่าทางของเขาก็น่ากลัวเหลือเกิน
“เธอจะไม่ได้กลับจนกว่าฉันจะเสร็จในตัวเธอ
“แต่ คุณจอมคะ อุ๊ย อุ๊บ...”
เสียงคัดค้านหายไปเพราะเรียวปากหยักร้อนผ่าวของเขาทาบลงมาปิดเสียงคัดค้านขัดแย้งของเธอไว้ จุมพิตที่รุนแรงเหมือนลงทัณฑ์นั้นทำให้เจติยารู้สึกเจ็บแปลบที่เรียวปากอิ่มของตน แต่เพียงครู่เดียวก็กลับจูบตอบเขาอย่างง่ายดายเพียงแค่มือหนาของเขาลูบไล้สะโพกตึงแน่นเปล่าเปลือยของเธอเท่านั้น...
แล้วจอมทัพถอดชั้นในตัวน้อยของเธอออกตอนไหนกัน เจติยาคิดอย่างเลือนๆ แต่ก็จำได้ว่า จอมทัพเป็นนักถอดเสื้อผ้าที่มีความเร็วปานเทพ และสุดท้ายเธอนอนเปลือยเปล่าอยู่ใต้ร่างแกร่งของเขาที่มีสภาพไม่ต่างจากเธอแม้แต่น้อย....
“เธอเป็นของฉันเจ.. เจจ๋าบอกสิว่าเธอเป็นของฉัน และเป็นของฉันตลอดไป..”
เสียงห้าวแหบพร่ากระเส่าซ่านดังชิดใบหูแดงก่ำพอๆ กับแก้มสาวนวลปลั่ง สีแดงเรื่อแดงลามเลียไปทั้งกายสาวเปลือยเปล่าจนกายสาวแดงก่ำไปทั้งเรือนกายที่ส่ายพลิ้วด้วยความซ่านรัญจวน
“คุณจอม... มะ ไม่นะคะ”
“เธอเป็นของฉัน เจ.. เจเธอเป็นของฉัน..”
จอมทัพกระซิบแผ่วพร่าขณะสอดไซ้ขยับนิ้วแกร่งเข้าสู่หลืบเร้นอิสตรีที่ฉ่ำเยิ้มด้วยน้ำหวาน ยั่วเย้าให้เธอเตลิดหลงไปในกระแสสสวาทที่เชี่ยวกราก จุมพิตที่แผดเผาปั่นป่วนอารมณ์สาวให้กระเจิดกระเจิงไปด้วยความซ่านเสียว ร่างบางส่ายพลิ้วราวใบไม้ต้องพายุที่โหมกระหน่ำ
เจติยาครางพลิ้วราวจะขาดใจแอ่นกายเข้าหามือและปากของเขาอย่างเต็มอกเต็มใจเมื่อใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงไปหากลีบดอกไม้สดฉ่ำกลางกายสาว เพียงเท่านั้นสติของเธอก็กระเจิดกระเจิงหลงลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ติดตามเขาไปอย่างง่ายดาย ไม่ว่าเขาจะพาเธอไปทิศทางไหน เจติยาก็ไม่อาจจะปฏิเสธสิ่งที่เขาชักนำได้ทำได้เพียงส่งเสียงคร่ำครวญด้วยความซ่านกระสันรัญจวน
ในขณะเดียวกันจอมทัพนั้นตอนนี้เขาเองก็ร้อนระอุไปด้วยความต้องการที่อัดแน่น ปวดร้าวแข็งขึงจนปวดปร่าไปทั้งแก่นกายแกร่ง เขาพร้อมจะกระโจนเข้าสู่เกมสวาทอันเร่าร้อน ความร้อนที่มันเดือดพล่านอยู่ในกายหนุ่มราวลาวาจากปล่องภูเขาไฟ จนน่าหวั่นใจว่ามันจะทำให้เขามอดไหม้ไปด้วยเปลวลาวาแห่งความปรารถนั้น ร่างสาวงดงาม อวบอิ่มเต็มตึงไปด้วยสัดส่วนที่ยั่วยวนให้เขาหลงใหลได้อย่างง่ายดาย แน่นอนว่าทุกอย่างที่เป็นเจติยานั้นร้อยรัดเขาไว้จนดิ้นไม่หลุด และเขาก็ไม่อาจจะปล่อยให้เธอหลุดลอยจากไปได้ เขาจะต้องได้ครอบครองเธอ ได้เป็นเจ้าของเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น
ริมฝีปากร้อนผ่าวแตะแต้มไปทั้วทั้งเรือนกายสาวงดงาม แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอย่างเต็มที่ และเจติยาก็ไม่อาจจะต้านทานอำนาจแห่งมนตราเสน่หานี้ได้ แล้วเพลิงเสน่หาที่ไต่ระดับความร้อนแรงนั้นก็แผดเผาหนุ่มสาวที่กอดรัดกันด้วยความเสน่หาให้แตกซ่านไปด้วยความสุขสม...
เจติยาตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นด้วยความเมื่อยล้าไปทั้งตัว เมื่อจอมทัพไม่ยอมให้เธอได้หยุดพักจนกว่าเขาจะพอใจ และกว่าเขาจะพอใจในรสสวาทอันเร่าร้อนก็เกือบจะเช้าและเธอก็หลับไปทันทีที่บทรักอันร้อนแรงบทสุดท้ายในค่ำคืนนั้นของเขาจบลง
“นี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย.. อือออ.. เมื่อยไปหมดทั้งตัวเลย คุณจอมคนบ้าเอ๊ย..”
หญิงสาวซุกหน้าลงกับหมอนใบใหญ่อย่างคนที่ยังคงง่วงงัวเงียอยู่ ก่อนจะค่อยๆ ยันกายลุกนั่งแล้วมองเตียงที่ยับย่นและร่องรอยของคนที่นอนเคียงข้างมาตลอดคืนด้วยหัวใจที่เต้นแรง แก้มสาวซับสีเลือดแดงซ่าน และกายสาวก็ร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง
“บ้า จังคุณจอมทำแบบนี้กับเราได้ยังไง ทำไม..”
หญิงสาวพูดกับตัวเองแล้วมองนาฬิกาบนผนังก็ต้องตาเบิกกว้างเมื่อมันเกือบจะเที่ยงแล้ว...
“ตายล่ะ วันนี้เราตื่นสาย ตายแล้วๆ วันนี้จะต้องได้ลางานแน่ๆ โบนัสฉันล่ะทีนี้ แต่ อ้อ.. วันนี้วันหยุดนี่นา เฮ้อออ.. ยายเจ สติแตกไปแล้ว..”
