บทที่2. ต่อ
“ไหนเงยหน้าสิ..” เขาบอกเสียงเข้มๆ เจติยาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมาแต่ไม่ยอมมองสบตา
“สบตาฉันด้วย”
“คุณจอมมีอะไรกับเจหรือคะ” นอกจากจะไม่ยอมสบตาแล้วยังมีคำถามที่ทำให้เขาหงุดหงิดตามมาอีกด้วย
“ทำไม.. อยากมีอะไรกับฉันมากขนาดนั้นเลยเหรอ”
“เจเปล่านะคะ..” แล้วเธอก็เงยหน้าขึ้นและมองสบตาเขาโดยอัตโนมัติ จอมทัพยิ้มบางๆ พอใจกับแก้มแดงๆ ของคนที่หลบตาเขาอีกครั้ง ร่างเล็กอรชรของเจติยาสูงเพียงอกกว้างของเขาเท่านั้น แต่ทุกสัดส่วนบนเนื้อตัวสาวนั้นอวบอิ่มเต็มตึงเต็มมือ
“เดี๋ยวฉันอาบน้ำก่อนจะออกมาจัดการกับเธอ และหากฉันออกมาแล้วไม่เห็นเธออยู่ที่เตียง รับรองได้ว่าเธออยู่ไม่เป็นสุขแน่” จอมทัพพูดดักเมื่อเห็นท่าทางของเธอ
“คุณขู่เจหรือคะ”
“เธอก็รู้ว่าฉันจริงจังกับทุกเรื่อง และไม่เคยขู่ใครเล่นๆ เธอก็รู้ดีนี่”
เจติยาอึ้งแล้วเมินหนีสายตาคม จอมทัพยกยิ้มพอใจก่อนจะถอดเสื้อผ้าโยนใส่ตะกร้าโดยไม่สนใจคนที่ยืนหน้าแดงก่ำอยู่ไม่ไกล
“อยากไปช่วยฉันฟอกสบู่ ขัดตัว มะ...”
“ไม่ค่ะ” เขาพูดไม่ทันจบด้วยซ้ำเธอก็เอ่ยขัดขึ้นทันที จอมทัพไหวไหล่อย่างเคยชิน
“แล้วไม่ต้องใส่อะไรนะ เพราะถ้าเธอใส่ชุดนรกนั่น ฉันจะฉีกมันเป็นชิ้นๆ แล้วเธอจะต้องโดนทำโทษหนักๆ ด้วย”
เขาไม่รอให้เธอตอบโต้ จอมทัพเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมทั้งผิวปากอย่างอารมณ์ดี
เจติยามองประตูห้องน้ำที่เปิดเอาไว้อย่างจงใจแล้วค้อนลมค้อนแล้งไปเรื่อยเปื่อย เธอไม่เข้าใจเลยว่าจอมทัพยังพาเธอมาที่นี่ทำไม ในเมื่อเขากับเธอนั้นจบความสัมพันธ์ในความลับต่อกันแล้ว และเขาก็ไม่ได้มีทีท่าอยากจะรั้งหรือเสียใจอะไรในตัวเธอด้วยซ้ำ เธอยังจดจำวันนั้นได้ดี วันที่บอกตัดความสัมพันธ์กับเขาเมื่อเดือนที่แล้ว และเหตุการณ์ในวันนั้นมันก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเธอเช่นนี้มาตลอดไม่อาจจะสลัดมันออกจากหัวได้เลย
“คุณจอมคะ เจอยากจบความสัมพันธ์ของเรา.. เอ่อ นับจากวันนี้เราเลิกพบกัน ไม่เจอกันอีก ตลอดไป...”
เธอตั้งกลั้นใจพูดคำนั้นไปเมื่อถึงวันที่จะต้องกลับจากเที่ยวพักผ่อนด้วยกันสี่วันสี่คืน ซึ่งเธอเองก็ตั้งใจไว้ว่าจะใช้เวลาที่มีในสี่วันนี้ตักตวงความสุขจากเขาให้มากที่สุด และก็ไม่ผิดหวังเมื่อจอมทัพปฏิบัติต่อเธอดีมาก เขาอ่อนโยนเอาอกเอาใจเธอราวเจ้าหญิง มีคำพูดอ่อนหวานน่ารักและทุกค่ำคืนเขาก็ปรนเปรอด้วยบทรักอันเร่าร้อนอ่อนหวานจนเธออิ่มเอมสุขแสนสุขจนแทบสำลัก เขาปฏิบัติต่อเธอเหมือนคนรักกันไม่มีผิด จนเธอแทบจะหลอมละลายและละทิ้งความตั้งใจของตนไปเสีย แต่สุดท้ายเธอก็สามารถทำในสิ่งที่ขัดต่อความรู้สึกของตนเองได้สำเร็จ เพราะเธอไม่อยากจะเจ็บมากไปกว่านี้นั่นเอง...
และเจติยาก็คิดว่าตัวเองทำถูกต้องแล้วที่ตัดใจพูดกับเขาไปแบบนั้นเพราะจอมทัพไม่ได้มีทีท่าอะไรนอกจากเรียบเฉยและบอกว่า ก็ดี แล้วเขาก็เดินออกจากห้องสวีตสุดหรูที่เป็นดังรังรักอันเร่าร้อนของเขาและเธอตลอดสี่วันสี่คืนที่ผ่านมาอย่างไม่มีทีท่าว่าจะอาลัยอาวรณ์สักนิด ใบหน้าหล่อเหลาเฉยชาและแววตาที่มองมาไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวเยื่อใยใด เขาทำเหมือนเธอเป็นคนอื่นเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่ได้นอนร่วมเตียงกับเขาในตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นเลยสักนิด
เธอหอบหัวใจช้ำๆ กลับมาถึงคอนโดของตัวเองได้อย่างปลอดภัย แต่อยู่ในสภาพของคนไม่มีหัวจิตหัวใจอยู่เกือบสัปดาห์ และหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเธอก็สามารถประคับประคองหัวใจตัวเองให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวและทำงานของตนไปเรื่อยๆ แบบคนซังกะตาย แต่ก็นั่นล่ะ ชีวิตของเธอไม่ได้มีอะไรหวือหวาอยู่แล้ว
แต่หลังจากที่พอทำใจให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวได้แล้วเธอก็อยากจะลองเปลี่ยนแปลงตัวเอง ใช้ชีวิตแบบสนุกสุดเหวี่ยง หรือทำอะไรแบบห่ามๆ อย่างนิรชาบ้าง เพื่อให้ตัวเองลืมความหมองเศร้าในใจ เธอเกือบจะทำได้แล้ว มีชายหนุ่มหลายคนเข้ามาในชีวิตของเธอ ให้เธอได้ลองเลือกดูว่าจะคบกับพวกเขาและลองให้โอกาสตัวเองเจอใครใหม่บ้าง เผื่อว่าจะได้พบรักแท้หรือคนที่รักเธอจริงๆ บ้าง แต่ทุกอย่างก็จบลงเมื่อจอมทัพปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งและลากเธอมาที่คอนโดของเขาหน้าตาเฉย...
แล้วความคิดของเจติยาก็ชะงักเมื่อร่างสูงใหญ่ทรงเสน่ห์ที่ยังคงมีอิทธิพลต่อการเต้นของหัวใจเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่เปล่าเปลือย ร่างแกร่งงดงามทรงพลังชื้นนิดๆ กลิ่นครีมอาบน้ำที่เธอชื่นชอบโชยกรุ่นกลิ่นมาพาให้ใจสาวหวั่นไหว เจติยารีบหันหลังให้ร่างเปลือยเปล่าเขย่าใจนั้นเสีย แต่ใจสาวก็ยังคงเต้นแรงอยู่นั่นเอง
“ฉันบอกไม่ใช่หรือว่าอย่าใส่ไอ้ชุดทุเรศๆ แบบนี้อีก”
น้ำเสียงของเขาไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับร่างสูงใหญ่เคลื่อนเข้ามาใกล้ เจติยารีบเงยหน้ามองเขาเพราะไม่อยากเห็นร่างกายอันเปลือยเปล่าส่วนใดของเขาให้ใจสาวหวั่นไหว และสรรพนามที่แสนเหินห่างนั้นมันก็ทำให้เธอรู้สึกเจ็บแปลบในใจได้เช่นกัน...
“แต่ เจ.. เอ่อ ไม่มีชุดเปลี่ยนนี่คะ”
“ก็ไม่ต้องใส่ไง.. ถอดมันออก”
ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มขุ่นจัด เจติยาทำอะไรไม่ถูก หากเธอถอดชุดนี้ออก แล้วเธอจะใส่ชุดไหนกลับล่ะ
“แต่..”
“จะให้ฉันกระชากมันออกจากตัวเธอ หรือว่าเธอจะถอดมันเอง”
“เจไม่เข้าใจว่าคุณจอมทำแบบนี้ทำไม เราไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้วนะคะ และเจก็ไม่จำเป็นต้องทำตามที่คุณจอมสั่งด้วย”
เจติยาเอ่ยออกมาอย่างอัดอั้น และเพื่อให้ตัวเองไปจากที่นี่โดยเร็ว เธอคิดว่าเขาอาบน้ำแล้วจะมาคุยกับเธอให้รู้เรื่องเสียอีก แต่เมื่อเป็นแบบนี้เธอก็ไม่จำเป็นต้องอยู่คุยกับเขา เพราะกลัวว่าจะพ่ายแพ้หัวใจตัวเอง...
