บทที่6
ภาพชายหนุ่มและหญิงสาวที่กำลังปลอบโยนกัน ทำให้คุณหนูตัวร้ายถึงกับชะงัก แผนที่คิดจะหนีเป็นอันต้องหยุดชั่วคราว แอบมองทางหน้าต่างเอียงหูฟังอีกนิดว่าสองคนนั้นคุยอะไรกันแน่
หากสองคนนี้เพิ่งรู้จักกัน และสนิทกันรวดเร็วอย่างนี้... แปลว่าผู้ชายหน้าเหี้ยมทำตัวให้ผู้หญิงคนนั้นไว้เนื้อเชื่อใจได้ แปลว่าเก่งไม่เบาแฮะ... ซอนด้าคิดแล้วยิ้มเหมือนมีแผนอะไรดีๆ อยู่ในใจ
ร่างบางถอยหลบเพื่อไม่ให้สองคนด้านนอกเห็น แต่จังหวะที่ก้าวออกมาไม่ได้ดูข้างหลังว่ามีโต๊ะวางอยู่จึงชนเข้าอย่างจัง
เพล้ง! แจกันใบไม่ใหญ่นัก หล่นพร้อมกับกรอบสี่เหลี่ยม ที่หล่อนไม่ได้ดูว่าเป็นกรอบอะไรสักอย่างก่อนหน้านี้ หล่นแตกกระจัดกระจายเต็มพื้น สาวสวยลูกครึ่งปิดปากที่กำลังอ้าค้าง ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมา เพราะความตกใจปนหวาดกลัว ทำให้เสียงที่เคยเจื้อยแจ้ววิ่งหายลงท้องไม่เหลือให้ดังออกมา
พลั่ก! ประตูห้องถูกเปิดออก พร้อมใบหน้าตื่นตกใจของหนุ่มสาวที่อยู่ข้างนอกก่อนหน้านี้โผล่เข้ามา
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ คุณซอนด้า!?” ใบหน้าหวานของคนที่เข้ามาใหม่ ขาวซีดแสดงถึงความตกใจอย่างเห็นได้ชัด
“เอ้อ...คือ...” สาวสวยอึกอัก ก้มมองผลงานของตัวเองที่พื้น ใบหน้าซีดเซียวไม่ต่างกับหญิงสาวอีกคน
“ไม่เป็นไรค่ะ เดินออกมาให้ห่าง เดี๋ยวระตีจะเก็บกวาดให้ค่ะ” เอ่ยจบหล่อนก็เดินแยกหายออกไป
สวยแต่ซุ่มซ่าม... ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหน้า ส่งสายตาตำหนิสาวสวยที่ก่อแต่เรื่องทันที
ซอนด้าที่ยืนหน้าเสียถึงกับควันออกหู ส่งสายตาอาฆาตให้กลับมา เมื่อเห็นใบหน้าชายหนุ่มเหมือนจะต่อว่าเธอทางสายตา
ศึกทางสายตาสงบลง เมื่อหญิงสาวอีกคนโผล่มาพร้อมไม้กวาด และที่โกยขยะ สาวลูกครึ่งขยับหลีกให้อีกคนได้ทำความสะอาดอย่างสะดวก โดยมีหล่อนยืนมองอยู่ห่างๆ
เศษแจกันถูกเก็บใส่ที่โกยขยะเรียบร้อย เหลือแต่กรอบสี่เหลี่ยมคว่ำหน้าอยู่ สาวสวยหน้าหวานค่อยๆหยิบจับ เหมือนกลัวว่าของสิ่งนั้นจะแตกเสียหายมากไปอีก
อาการที่ดูหวงแหนกรอบสี่เหลี่ยมทำเอาสาวลูกครึ่งสำนึกผิด เอ่ยบอกไปว่า “ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉันได้กลับบ้านเมื่อไหร่ จะซื้อใช้ให้นะ”
ใบหน้าหวานถลึงตามองทันที ทำเอาสาวสวยลูกครึ่งถอยหลังอย่างตกใจ สีหน้าเหยเกอยากจะร้องไห้ไม่ปาน เมื่อคิดว่าอีกคนไม่ให้อภัยเธอแน่แล้ว ในมือถือกรอบรูปที่คว่ำหน้าอยู่เดินตรงมาหาหล่อน สีหน้าไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งที่เธอพูดไป
ชายหนุ่มก็รู้สึกไม่ต่างกับสาวลูกครึ่ง รีบขยับตัวเข้ามากั้นระหว่างกลางหญิงสาวสองคน “เอ่อ... คือ ผมขอโทษแทนคุณหนูด้วยนะครับ ยังไงผมจะซื้อชดใช้ให้นะครับ” ชายหนุ่มออกตัวขอโทษแทนคนทำทันที และยืนยันจะชดใช้ให้แทนอีกคน ทั้งสามรวมใจกันเงียบนิ่ง ต่างคนต่างอยู่ในความคิดของตัวเอง
แฮะ นี่เราออกรับแทนยัยคุณหนูตัวร้ายได้ไง... ภูผาคิด
นายหน้าเหี้ยมออกตัวแทนเราด้วยหรือ... ซอนด้าคิด มองไปยังชายหนุ่ม
เฮ้ย! ยัยคุณหนูหน้าตาลูกครึ่ง พูดไทยได้ชัดเจน เหมือนเป็นคนไทยเลย... ระตีคิด อึ้งทึ่งมองผ่านไปยังคนที่ยืนอยู่อีกด้านของชายหนุ่ม
แต่แล้วความเงียบก็สะดุดลง เมื่อระตีเอ่ยขึ้นว่า “สงสัยคนในภาพคงจะมีเรื่องแน่เลย” เสียงหวานเอ่ยขึ้นลอยๆ ทำเอาคนที่ได้ยินถึงกับมองหน้ากันอย่างงงๆ “นิ คุณซอนด้า!” เสียงแรกที่ดังออกมา ทำเอาคนที่มองหน้ากันอยู่ถึงกับหันขวับ ทำหน้าแตกตื่นมองคนเรียกทันที “มีอะไรหรือคะ” สาวหน้าหวานกลืนน้ำลายลงคอ ไม่แน่ใจว่าสองคนนั้นกำลังตกใจอะไรกันอยู่ “คือ... ระตีจะบอกว่าทึ่งในภาษาไทยของคุณมากก็เท่านั้นเอง” ทำหน้าเจื่อนเล็กน้อย
เสียงถอนหายใจดังๆ ออกมาพร้อมกันของหนุ่มสาวอย่างไม่ได้นัดหมาย ทำให้ระตีหันมองหน้าสองคนอีกครั้ง แต่ได้การยักไหล่เบาๆ พร้อมกันเป็นคำตอบอย่างพร้อมเพียง
ระตีออกอาการขำ ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะตัวเตี้ย ตั้งกรอบรูปไว้ที่เดิม พร้อมเอ่ยว่า “ไว้ได้กรอบใหม่เมื่อไหร่ค่อยมาเปลี่ยน” แล้วเดินไปหยิบไม้กวาดกับเศษแจกัญที่เก็บเรียบร้อยแล้วออกไปด้านนอกห้อง
“คุณพ่อ!”
“อะไร?” ชายหนุ่มร้องถามอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นหญิงสาวเรียกหาพ่อ แล้วก็ต้องหน้าเสีย เมื่อหันมามองหญิงสาวที่ทำหน้าเกือบร้องไห้
“คนในกรอบรูปคือคุณพ่อซอนด้านี่คะ” ใบหน้าตื่นเต้น มองรูปภาพที่ตอนนี้กรอบกระจกมีรอยร้าว ไม่ได้แยกแตกออกจากกันจนดูไม่ได้
ไม่รู้หล่อนจะดีใจหรือเสียใจดี เมื่อเห็นรูปผู้เป็นพ่ออยู่ที่นี้ด้วย แต่ตอนนี้หล่อนอยากรู้เรื่องทั้งหมด ว่าใครเป็นอะไร และเกี่ยวอะไรกับเรื่องของพ่อของเธอบ้างในตอนนี้ และที่สำคัญพ่อหล่อนเป็นอะไรกับเจ้าของบ้านหลังนี้?
แต่ชายหนุ่มกลับรู้สึกเฉยๆ เพราะเขารู้มาบ้างแล้วว่าที่นี้เป็นบ้านของพ่อหล่อน และไม่แปลกหากบ้านหลังนี้จะมีรูปเจ้าของอยู่ในบ้านของตัวเอง
ซอนด้าเดินตามหาผู้หญิงที่เธอได้ยินหล่อนเรียกตัวเองว่าระตี แต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่พบ จึงกลับมาหา ชายหนุ่มที่นั่งอยู่เก้าอี้ด้านนอก ในใจของหล่อนตอนนี้อยากรู้ความจริงทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตั้งแต่พบผู้ชายหน้าเหี้ยม และหล่อนก็ถูกพาตัวมาที่บ้านหลังนี้ ด้วยเหตุผลอะไร!
ไม่แปลกหากทุกอย่างเป็นเหตุผลของผู้เป็นพ่อ แต่น่าจะบอกให้หล่อนรู้เรื่องบ้าง ไม่ใช้ปล่อยให้หล่อนกลัวเกือบฉี่ราดแบบนี้...คิดแล้วก็ออกอาการโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ใบหน้าบึ้งตึงใส่คนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ
