บทที่ 2
“กรี๊ด!” เป็นอีกครั้งที่เสียงร้องหลุดพ้นออกมาจากปาก
ไปรยาแทบดิ้นพล่านด้วยความทรมาน แต่ทำอย่างนั้นไม่ได้เพราะเขาตรึงสะโพกเธอไว้แน่น ไม่ยอมให้สิ่งใดมาขัดขวางช่วงเวลาแห่งความหฤหรรษ์ เริ่มขยับกายเบาๆ เพิ่มจังหวะการเสียดเสียวขึ้นทีละน้อย ทั้งเชื่องช้าและใจเย็น ไม่ตะกละตะกลาม แต่ก็เผ็ดร้อนสมกับที่รอคอยวันนี้มานานแสนนาน
ความบริสุทธิ์ของเธอทำให้หัวใจเขากระตุกวาบ...
การเป็นคนแรกและคนสุดท้าย มันคือสิ่งที่เขาต้องการมาตลอด และประทับใจเหลือเกินที่ไปรยาดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งพรหมจรรย์อันหอมหวานถูกส่งถึงมือเขาตามที่คาดหวังไว้ แต่ก็น่าเสียดาย... ที่สถานการณ์คืนนี้ไม่ได้สวยงามราบรื่นดั่งที่เคยวาดฝัน ซึ่งนั่นจะโทษเขาเพียงคนเดียวไม่ได้
เธอเองนั่นแหละที่ทำให้มันต้องเป็นไปแบบนี้...
ชายปริศนาขบกรามแน่น กลั้นเสียงครางไม่ให้หลุดรอดออกมาจากริมฝีปาก เมื่อเธอพยายามจิกข่วนใบหน้าของเขาเป็นพัลวัน มือใหญ่ข้างหนึ่งจึงรวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างกดลงบนที่นอนเหนือศีรษะ อีกมือที่ว่างอยู่จับเรียวขาขาวเนียนให้แยกกว้างยิ่งกว่าเดิม กระแทกกระทั้นเข้าใส่ทั้งที่รู้ดีแก่ใจว่าเธอคือสาวบริสุทธิ์ไร้รอยราคี ไปรยากัดริมฝีปากแน่น มือจิกผ้าปูเตียงจนมันยับย่น น้ำตาไหลพรากเพราะเจ็บปวดเหมือนถูกคมมีดเชือดเฉือน
ชายหนุ่มหยุดตัวเองลงชั่วคราว เพื่อพลิกร่างบางให้เปลี่ยนเป็นนอนคว่ำหน้า จากนั้นจึงแทรกตัวเองเข้าหาเธออีกครั้ง มือใหญ่รั้งสะโพกงอนงามไว้แน่น เมื่อช่องทางรักถูกบดเบียดได้มากยิ่งขึ้น หญิงสาวก็เจ็บจนแทบขาดใจมากขึ้นด้วย เขาระบายความโกรธลงบนตัวเธออย่างไร้ความปราณี
เขากระแทกกระทั้นตัวเองเข้าหารัวเร็วๆ จนกระทั่งคลื่นความสุขแตกพร่างเข้าสู่แอ่งนุ่มไปจนหมดทุกหยาดหยด เขากดสะโพกฝากฝังตัวเองอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่ง เมื่อไปรยาร้องไห้สะอึกสะอื้นและเริ่มดิ้นรนอีกครั้ง เขาจึงถอนกายห่างออกไป
“ฮือๆ...ไอ้คนสารเลว! ทำไมแกถึงทำกับฉันแบบนี้! ฉันไม่เคยไปทำอะไรให้แก ทำไมแกถึงต้องมาทำลายชีวิตฉันด้วยฮะ!”
เธอก่นด่าเพียงแค่นั้นพร้อมกับถดถอยห่างออกไป ร้องไห้น้ำตาไหลอาบใบหน้าด้วยความเจ็บปวดเสียใจ ไม่คิดเลยว่าจะโชคร้ายถึงเพียงนี้
“แน่ใจเหรอว่าไม่เคยสร้างศัตรูมาก่อน ลองคิดให้ดีๆ สิไปรยา เธอติดค้างอะไรใครเอาไว้หรือเปล่า” เสียงทุ้มเข้มไพเราะนั่น ทำให้หญิงสาวชะงักไปในทันที
ดวงตากลมโตฉายแววตื่นตระหนกสุดขีด แม้จะไม่เห็นใบหน้าเขาอย่างชัดเจน แต่เสียงที่เอ่ยออกมาได้ให้คำตอบกับเธอแล้วว่าเขาคือใคร
“คุณ...” เธอพึมพำ ตัวสั่นเทาเมื่อพบว่าเจ้าชีวิตได้ตามหาตัวเธอจนเจอแล้ว
“ชู่ว...ไม่เอาน่า อย่าเรียกกันห่างเหินแบบนั้นสิ” เขาทำเสียงยียวน ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเพื่อดึงกางเกงยีนสีดำขึ้นมาสวม จากนั้นก็เดินไปใกล้หัวเตียงเพื่อกดปุ่มเปิดโคมไฟ
ภายในห้องดูอบอุ่นขึ้นทันทีด้วยแสงสีส้มนวลตา และนั่นทำให้เขาได้มองเห็นเลือดจำนวนหนึ่งเปรอะเปื้อนอยู่ระหว่างขาทั้งสองของหญิงสาว ชายหนุ่มหน้าชาไปทั้งแถบ เริ่มได้สติขึ้นมาว่าตัวเองทำรุนแรงเกินไปแล้ว
ไปรยาตัวแข็งทื่อ จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มของอีกฝ่ายด้วยความตกใจ ได้รู้ได้เห็นเต็มสายตาเลยทีเดียวว่าเป็น ‘เขา’ อย่างที่คิดจริงๆ
เสียงทุ้มมีเสน่ห์แบบนี้คือเอกลักษณ์ที่ยืนยันว่าไม่มีทางเป็นคนอื่นไปได้อยู่แล้ว เธอรีบคว้าผ้าห่มขึ้นคลุมกาย ไม่ต้องการให้สายตาของเขามองสำรวจเรือนร่างมากไปกว่านี้อีก
“ไม่เห็นต้องทำหน้าตื่นขนาดนั้นเลยคนสวย นี่ผัวนะ...ไม่ใช่ผี” แม้จะรู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเอง แต่ชายหนุ่มยังคงควบคุมสีหน้าท่าทางได้เป็นอย่างดี เขาเอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะ ก่อนจะคลานขึ้นมาบนเตียงเพื่อแกล้งให้คนตัวเล็กใจแกว่งเล่น
“ถอยไป!”
ไปรยาตวาดลั่น กระชับมาห่มแนบกายไว้แน่นกว่าเดิม
“ถอยก็โง่น่ะสิ แค่ครั้งเดียวมันยังไม่คุ้มหรอก”
“อะไรนะ!” ดวงหน้างามซีดเผือด หัวใจเต้นรัวเป็นจังหวะอัดกระแทกอยู่ในอก
“คืนนี้เรายังมีเรื่องที่ต้องทำกันอีกเยอะทีเดียว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา...เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า!” สิ้นคำพูดนั้น มือหนาก็คว้าผ้าห่มแล้วกระชากออกห่างร่างเปลือยทันที
“กรี๊ด!”
หญิงสาวร้องลั่น รีบยกแขนขึ้นกอดตัวเองเอาไว้ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยปิดส่วนสงวนได้มากมายนัก ดวงตาคมกริบทอประกายร้อนแรง ในตอนที่ไล่มองเรือนร่างอรชรงดงามนั้นอย่างพิจารณา แม้จะเคยเห็นทุกซอกทุกมุมในตัวเธอมาก่อนแล้ว แต่เขาก็ไม่มีวันเบื่อที่จะมองอีกครั้ง
ไปรยาจะไม่มีวันหนีหายไปจากชีวิตของเขาได้อีกแล้ว!
