บท
ตั้งค่า

สบตา ครั้งที่ 5: ความเข้าใจผิดอันใหญ่หลวง [2/1]

นั่งเกร็งไปตลอดทาง ทั้งที่ระยะทางจากหอเดิมไปยังหอของคชาอยู่ห่างกันแค่หน้ามอกับหลังมอแท้ๆ แต่ผมรู้สึกราวกับว่ามันช่างยาวนานเหลือเกิน แล้วไอ้พี่ชิณณ์นะ คำว่าขับรถเป็นของเขาไม่ได้หมายความว่าขับรถได้ดีเลยแม้แต่น้อย แม่งมีลูกระนาดกี่ลูก ขับพุ่งทะยานเหินฟ้าทุกลูก แล้วผมที่นั่งตักคชาอยู่ก็กระเด้งกระดอนไปตามแรงเหวี่ยงอย่างไม่อาจหาที่ยึดได้

ผมหาที่ยึดไม่ได้ แต่แขนของคชายึดอยู่ที่เอว...

ยึดไม่พอ ออกแรงกอดด้วยตอนเห็นผมกระเด้งตัวลอย ก้นผมกับเป้ามันงี้แทบจะหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว

ฮู้ย... ขนลุกไปตั้งแต่หัวยันหาง ดีที่มาถึงหอคชาได้อย่างสวัสดิภาพแม้ว่าก้นจะชาไปบ้างก็ตาม แต่เอาเป็นว่าผมมาถึงในสภาพครบสามสิบสองประการก็แล้วกัน

และการที่ให้พี่ชิณณ์มาช่วยขนของมันเป็นการตัดสินใจที่ถูกไม่น้อย เพราะนอกจากจะไม่เหนื่อยมากแล้ว พี่ชิณณ์ยังชวนผมคุยไปเรื่อยเปื่อยทำให้ผมผ่อนคลายเป็นอย่างมาก ต่างกับตอนอยู่กับคชาที่เอาแต่ทำให้ผมหัวเสีย

อย่างว่าแหละนะ พี่ชิณณ์เป็นคนอัธยาศัยดีนี่

กระทั่งขนกล่องสัมภาระของผมทั้งหมดขึ้นมาที่ห้องของคชาจนครบ ผมก็ออกปากชวนพี่ชิณณ์ให้นั่งพัก ดื่มน้ำดื่มท่าในห้องของคชาก่อน ซึ่งคชาก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด ออกจะดีใจด้วยซ้ำที่เห็นพี่ชิณณ์ยังอยู่ แถมยังชูนิ้วโป้งให้ผมเป็นเชิงบอกว่า ‘ทำได้ดีมากอีกด้วย’

กูชวนตามมารยาทไหม เขาอุตส่าห์ช่วยขนจนเหงื่อซ่ก จะไล่ให้กลับไปเลยก็ยังไงอยู่ ที่แน่ๆ คือไม่ได้ชวนเพราะจะเป็นนางนกต่อให้มึงสักนิด

แต่ผมไม่อยากจะสนใจนักเพราะหลังจากนี้ไม่ใช่หน้าที่ของผมแล้ว เป็นหน้าที่ของคชาที่ต้องดูแลพี่ชิณณ์ แล้วดูท่าทางมันก็ไม่อยากให้ผมเข้าไปยุ่งการเทคแคร์แขกของมันด้วย เห็นมันขนขนมนมเนยจากตู้เย็นมาให้พี่ชิณณ์ที่นั่งอยู่บนโซฟากิน พร้อมกับชวนคุยโน่นนี่นั่น ผมก็ปลีกตัวออกมา ตั้งใจว่าจะจัดเสื้อผ้าเข้าตู้ก่อน

มือคว้ากล่องเสื้อผ้ามาใบหนึ่ง เปิดออกแล้วยกเสื้อผ้าที่พับเป็นระเบียบเรียบร้อยข้างในออกมาวางบนเตียงเป็นตั้ง แยกเสื้อกับกางเกงอย่างละกอง เตรียมจะเรียงเข้าตู้

ทว่าการคัดแยกเสื้อผ้าของผมก็ต้องมีอันถูกรบกวนจนได้เมื่อจู่ๆ พี่ชิณณ์ที่อยู่ในโซนห้องนั่งเล่นเดินเข้ามาในห้องนอน ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างผม

“จะเอาเสื้อผ้าใส่ตู้เหรอ”

ผมหันไปมองพลันพยักหน้า “ครับ”

“ให้พี่ช่วยไหม”

คิดอยู่แล้วว่าเดี๋ยวพี่ชิณณ์จะต้องเสนอตัว ผมเลยเตรียมจะหันไปบอกว่าไม่ต้อง แต่ไม่ทันแล้ว พี่ชิณณ์เอากล่องเสื้อผ้าอีกใบมาเปิดเป็นที่เรียบร้อย แถมกล่องนั้นยังเป็น...

“เอากางเกงในไว้ไหนดี”

โอ๊ย ไอ้พี่ชิณณ์ มึงอย่าวุ่นวายได้ไหม!

ไม่ถามอย่างเดียว ยกตั้งกางเกงในผมไว้ในมือแล้วเป็นที่เรียบร้อย ผมเห็นแล้วก็หน้าร้อนวูบเลยทีเดียว ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้สนิทกันถึงขนาดโชว์กางเกงในโดยไม่รู้สึกอะไรนะเว้ย!

ผมเลยรีบพุ่งไปแย่งตั้งกางเกงในนั้นมาจากมือคนตรงหน้าพลางว่าเร็วๆ

“พี่ชิณณ์นั่งเฉยๆ เถอะครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง”

พี่ชิณณ์หัวเราะกับท่าทางประดักประเดิดของผม ก่อนจะพูดออกมาอีก

“เอาน่า เดี๋ยวพี่ช่วย ไม่ต้องอายหรอก”

มึงไม่มีสิทธิ์มาพูดอย่างนี้นะเว้ย!

จังหวะเดียวกับที่คชาเดินเข้ามาพอดี เห็นผมกับพี่ชิณณ์นั่งอยู่ด้วยกันก็เอ่ยปากถาม

“ช่วยไอ้เอ๋อจัดเสื้อผ้าเหรอครับ”

ดูมัน พูดกับพี่ชิณณ์ซะเพราะแต่ยังเรียกผมด้วยสรรพนามไม่รื่นหูเหมือนเดิม แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากก้มหน้าก้มตาเก็บกางเกงในของตัวเองไปซ่อนอยู่อีกมุม ปล่อยให้พี่ชิณณ์พยักหน้ารับ

“อื้ม คชาก็มาช่วยด้วยสิ จะได้เสร็จเร็วๆ”

มึงวุ่นวายคนเดียวไม่พอ ยังจะชวนไอ้เวรนั่นมาวุ่นวายอีกเหรอ!

ผมนี่โคตรอยากจะออกปากไล่เลย แล้วก็เดาได้ด้วยว่าคชาก็คงจะไม่อยากมาช่วยผมหรอก แต่เพราะพี่ชิณณ์ชวนไง มันก็เลยทิ้งตัวลงนั่งร่วมวงอย่างช่วยไม่ได้

“มีอะไรให้กูช่วยล่ะ” แล้วมันก็เอ่ยปากถามผม

ผมกำลังจะตอบว่าไม่มี แต่พี่ชิณณ์ก็สวนขึ้นมาก่อน

“คชาพูดจาไม่เพราะเลย” มองหน้าคชาเล็กน้อยด้วย ทำเอาคชาเหวอไปเลย “พูดมึงๆ กูๆ กับมาวินตลอดเลยเหรอ”

“เอ่อ...คือ...” อึกอักไปทันตา เหลือบมองผมอย่างขอความช่วยเหลือด้วย

ตอนนี้แหละที่ผมเห็นว่าพี่ชิณณ์มีประโยชน์ล่ะ

สมน้ำหน้ามึงไอ้คชา กูบอกแล้วว่าให้รู้จักพูดเพราะๆ ก็ไม่เชื่อ คะแนนติดลบแน่มึง

“ก็...ครับ” เพราะผมไม่ช่วย สุดท้ายมันก็ต้องยอมรับไป หน้างี้เสียไปเลย

พี่ชิณณ์ยิ้มน้อยๆ “เพื่อนสนิทกันนี่เนอะ จะพูดมึงกูกันก็ไม่แปลก”

คราวนี้คชาพอจะยิ้มออกมาบ้าง

“แต่ถ้าใช้คำพูดแบบมาวิน คชาจะดูมีเสน่ห์มากกว่านี้ขึ้นเยอะเลยนะ” หมายถึงเรียกแทนตัวเองว่า ‘เรา’ เรียกแทนอีกฝ่ายว่า ‘นาย’

คชาหน้าเจื่อนไปอีกระลอก ส่งสายตาให้ผมรัวๆ ว่าให้พูดอะไรหน่อย แต่ผมไม่พูดหรอกเพราะผมเองก็เคยตกลงกับมันแล้วว่าให้พูดกับผมเพราะๆ ไม่ต้องเพราะมากก็ได้ เอาแค่ฟังแล้วรื่นหูก็พอ ดีซะอีกที่พี่ชิณณ์เป็นคนพูด คชามันน่าจะเชื่อฟังกว่าที่ผมพูด ก็มันต้องสร้างภาพลักษณ์ให้พี่ชิณณ์มองว่ามันเพอร์เฟ็กต์ไปทุกด้านนี่นา

แล้วก็ได้ผลเสียด้วยเมื่อมันพ่นลมหายใจออกมาเล็กน้อยแล้วถามผมขึ้นอีกครั้ง

“มาวิน มีอะไรให้เราช่วยไหม”

หวาย ไอ้คนสร้างภาพ!

ผมแอบหัวเราะในใจรัวๆ เลยขณะที่พี่ชิณณ์ยิ้มกว้าง

“พูดอย่างนี้ดูมีเสน่ห์กว่าอีก”

คราวนี้คชายิ้มออกมาบ้าง มันคงหวังว่าพี่ชิณณ์จะมองว่ามันมีเสน่ห์ล่ะมั้ง

ผมไม่ได้ใส่ใจนัก นอกจากตอบคำถามของมันไปตามเรื่อง

“ไม่เป็นไร เราทำเองได้”

“ให้คชากับพี่ช่วยเถอะมาวิน จะได้เสร็จเร็วๆ นะ” คราวนี้พี่ชิณณ์เป็นคนพูดโดยมีคชาเสริม

“นั่นดิ ให้กู...เราช่วยเถอะ จะได้เสร็จๆ” พูดไปก็ย่นคิ้วไป หน้าตาบูดเบี้ยวคล้ายกับว่าฝืนใจเต็มทน แต่รอยยิ้มของพี่ชิณณ์ก็ทำให้มันต้องกล้ำกลืน

ผมเห็นแล้วก็อึดอัดขึ้นมาประหลาดๆ เลยตัดบทให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไป

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราจัดการเอง นายพาพี่ชิณณ์ไปหาอะไรกินเถอะ เย็นมากแล้ว พี่ชิณณ์น่าจะหิวแล้วล่ะ”

ไล่ให้พวกมันไปหาอะไรยาไส้แม่งเลย คชาถึงกับเบิกตาโตที่ผมพูดเปิดโอกาสให้ พลันเหลือบมองพี่ชิณณ์อย่างรวดเร็วด้วยลุ้นระทึกว่าอีกฝ่ายจะตอบอย่างไร

“หิวน่ะใช่แต่พี่อยากให้มาวินไปด้วย พี่ว่าพี่ช่วยมาวินให้เสร็จเร็วๆ ดีกว่า จะได้ไปกินข้าวด้วยกัน”

พี่ชิณณ์ก็คือพี่ชิณณ์ นอกจากจะไม่ฟังแล้วยังจะเสนอหน้ามาคว้าตั้งเสื้อผ้าของผมที่อยู่บนเตียงไปถือไว้อีก ผมถอนหายใจออกมาราวกับยอมแพ้

“ก็ได้ครับ งั้นพี่ชิณณ์เอาไปไว้ในตู้นี้นะ”

คชาฮึดฮัดเล็กน้อยคล้ายกับว่าขัดใจที่แผนการไม่เป็นไปตามที่หวัง แต่จะให้ผมทำยังไงได้ล่ะ พี่ชิณณ์รั้นขนาดนี้ ผมก็ลำบากใจที่จะปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนกัน

ทว่า...การยินยอมให้พี่ชิณณ์ช่วยนั้นเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ ผมเพิ่งรู้สึกตัวก็ตอนที่พี่ชิณณ์ลุกขึ้น ตรงไปยังตู้เสื้อผ้าที่คชาแบ่งให้ผมใช้ ก่อนที่ในเสี้ยววินาทีนั้นผมจะนึกขึ้นได้ว่าข้างในตู้มันมีอะไรอยู่

ปะ...โปสเตอร์ฮิคารุซามะกับห่อหมกของเขา!

พี่ชิณณ์! เดี๋ยว!

คชาก็นึกขึ้นได้ในตอนนี้เหมือนกัน มองหน้าผมด้วยสีหน้าตกใจ หันไปหาพี่ชิณณ์เตรียมจะห้ามกันอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ทันแล้ว พี่ชิณณ์เปิดประตูตู้เป็นที่เรียบร้อย ก่อนเขาจะนิ่งงันไปเมื่อโปสเตอร์ขนาดเกือบเท่าคนจริงที่แปะอยู่ในตู้ปรากฎให้เห็นอย่างอล่างฉ่าง

แค่โปสเตอร์อย่างเดียวคงยังไม่สาแก่ใจ ยังมีบรรดาซีดีและข้าวของลิมิเต็ดอิดิชันด้านในนั้นอีก แน่นอนว่ารวมถึงไอ้หมอนข้างฮิคารุที่คชาเอาไปซ่อนไว้ก่อนที่พี่ชิณณ์จะเข้ามาในห้องนอนด้วย

พี่ชิณณ์นิ่งงัน สีหน้าตกตะลึงไม่ใช่น้อยก่อนจะขยับริมฝีปาก

“นี่มัน...”

แล้วก็เงียบไป ปล่อยให้ผมกับคชาหน้าซีด เหงื่อเม็ดเป้งไหลเป็นน้ำตกเจ็ดสาวน้อยทันที

หมดกันภาพลักษณ์ของไอ้คชา ลาก่อน มึงมาได้แค่นี้...

ผมอดสงสารมันไม่ได้เลยที่ความลับของมันถูกเปิดเผยอย่างไม่ได้ตั้งใจ ทว่าผมกลับคิดผิดเพราะพี่ชิณณ์ไม่ได้คิดว่าของพวกนั้นเป็นของคชา แต่คิดว่ามันเป็นของ...

“มาวินชอบอะไรแบบนี้เหรอ”

...เป็นของผม!

โอ๊ย! เรื่องบ้าอะไรกันวะเนี่ย!

“มาวินเป็นเกย์งั้นเหรอ” พี่ชิณณ์หันมาถามอีกเพื่อความแน่ใจ

ตอนนี้ผมไม่รู้จะทำหน้ายังไงเลย ลืมคิดไปนิดว่าก่อนหน้าผมบอกว่าให้เอาเสื้อผ้าผมไปไว้ในตู้นั้น จึงไม่แปลกถ้าพี่ชิณณ์จะเข้าใจว่าข้าวของข้างในตู้เป็นของผม

ถูกถามมาอย่างนี้ผมก็ได้แต่อึกอัก ส่วนคชา พอเห็นว่าความเข้าใจผิดมาตกลงที่ผมแล้ว มันก็ได้ทีแสร้งทำเป็นตกอกตกใจ ครางออกมา

“นายเป็นเกย์เหรอเนี่ย ทำไมไม่เคยเห็นบอกเราเลย”

มึงไม่ต้องมาพูดสุภาพกับกูเลย ของมึงทั้งนั้นแหละไอ้คชา!

เผาแม่ง! จะเผาทิ้งให้หมด!

อยากจะเผาสมบัติของมันทิ้งให้รู้แล้วรู้รอด ถ้าหากว่าพี่ชิณณ์ไม่โน้มตัวเอาเสื้อผ้าผมเข้าไปวางบนที่ว่างในตู้ ก่อนจะผละออกมา

“ตู้ไม่ค่อยมีที่ว่างเลยเนอะ มิน่าทำไมมาวินถึงไม่อยากให้พี่ช่วยจัด ของเยอะอย่างนี้นี่เอง” หันมาพูดหน้าระรื่นใส่ผมอีก

ผมก็ไปต่อไม่ถูกเลย ได้แต่พยักหน้ารับไปเจื่อนๆ เท่านั้น

“ครับ พี่ชิณณ์กลับไปเถอะ ไม่ต้องช่วยผมหรอก” ออกปากไล่ด้วย

คือไม่ไหวแล้ว สงสารตัวเองเต็มทนเพราะนอกจากจะต้องเห็นพี่ชิณณ์แก้ผ้าเนื้อตัวเปล่าเปลือยตลอดเวลาแล้ว ยังถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเกย์โรคจิตที่มีรสนิยมแปลกๆ ด้วย ป่านนี้พี่ชิณณ์จะสังเกตหรือยังนะว่าฮิคารุซามะอะไรนี่หน้าตาคล้ายตัวเอง

ไม่ต้องถามเขาก็ได้คำตอบเมื่อจู่ๆ พี่ชิณณ์ก็พูดขึ้นมา

“ว่าแต่ผู้ชายคนนี้หน้าตาคล้ายพี่เนอะ”

นั่นไง! เอาแล้วมึงเอ๊ย!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel