บท
ตั้งค่า

บทที่ 7

“เดี๋ยวนะ...ฟังฉันก่อนไหม”

“มันยากที่จะพูดถึง ฮือๆ ฉัน...ฉันขอโทษนะนังมีน” เพื่อนตุ๊ดสุดที่รักยังคงร้องไห้สะอึกสะอื้นต่อไป ไม่ได้การแล้ว ฉันควรหยุดเหตุการณ์ที่น่าอึดอัดนี้เสียที!

“ฉันไม่ได้โดนข่มขืนโว้ย!”

“ฮะ! อะไรนะ!” นังลิซซี่สะบัดหน้าหันมามองทันที หยุดส่งเสียงสะอื้นแล้ว แต่บนแก้มยังมีคราบน้ำตาเหลืออยู่

“จริงเหรอมีน!” น้ำขิงยิ้มออกในที่สุด

“จริงสิ ฉันเกือบโดนข่มขืน แต่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะพ่อสุดหล่อของฉัน เขาไปช่วยเอาไว้ได้ทันก่อน เขาพาฉันออกไปสงบสติอารมณ์ข้างนอก ฉันกลัวพวกแกจะหมดสนุกก็เลยไม่ได้บอกอะไรในตอนนั้น เขาอาสาจะพามาส่ง แต่เห็นฉันหิวเลยพาไปกินโจ๊กก่อน แล้วค่อยพามาส่งที่หอ แล้วเขาก็ยังให้ร่มนี่ไว้ด้วย!”

ฉันเบื่อกับการถามคำตอบคำ เลยเล่าให้ฟังแบบหมดเปลือกไปเสียทีเดียว ไม่ลืมหยิบร่มบนเตียงมายื่นอวดเพื่อนๆ ด้วยสีหน้าปลื้มปริ่มด้วย

“เดี๋ยวๆ พ่อสุดหล่อของแกใครยะ? แกโสดนี่!”

“ก็จะใครล่ะนังลภ ก็ผู้ชายในคืนฝนพรำนั่นไง!” ฉันช้อนตามอง แล้วทำหน้าเชิดใส่

“ถามจริง!”

วัลลภยกมือขึ้นทาบอก หน้าเหวอด้วยความตกใจ

“ตอบจริงย่ะ! เชื่อหรือยังว่ามันคือพรหมลิขิต ฉันกำลังตกอยู่ในอันตราย แต่เขาบุกเข้ามาช่วยได้ทัน เขาบอกว่าความสวยของฉันมันเตะตา เห็นไอ้หื่นกามนั่นมันจ้องมานานแล้ว พอเห็นฉันไปห้องน้ำคนเดียวมันเลยแอบตามไป รู้ไหม...พี่แทนซัดมันจนหมอบลุกไม่ขึ้นเลยนะ จากนั้นเขาก็ให้บอดีการ์ดหิ้วมันส่งตำรวจ”

ฉันโอ้อวดเพิ่มเติมเล็กน้อยถือเป็นการให้เครดิตตัวเองเรื่องความสวย วัลลภกลอกตาเหมือนไม่อยากเชื่อ แต่กลับรีบปรี่มานั่งข้างๆ ด้วยความสนใจใคร่รู้

“เขาชื่อคุณแทนเหรอ?”

“ใช่ เขาบอกว่าชื่อแทนไท แถมยังให้ฉันเรียกว่าพี่ด้วย”

“แทน...แทนไท โอ๊ย! ชื่อเพราะขนาดนี้ เบ้าหน้าจะดีขนาดไหนเนี่ย!” วัลลภส่ายไหล่ไปมาเหมือนปลาได้น้ำ จนน้ำขิงต้องยื่นมือไปบิดหูด้วยความหมั่นไส้

“แหม พอมีเรื่องผู้ชายนี่ระริกระรี้เชียวนะ”

“ธรรมดาสาวโสดป่ะ!”

“โสดแต่ควงไม่ซ้ำหน้าน่ะเหรอ” น้ำขิงแซว

“อย่าพูดไปนะนังขิง เดี๋ยวลิซซี่จะเสียราคา!” วัลลภมองค้อนจนตาแทบหลุด ก่อนจะหันมาเขย่าแขนฉันแรงๆ จนไหล่จะหลุดเช่นกัน

“เล่าต่อๆๆ เขาพูดอะไรกับแกบ้างมีน เล่ามาให้หมดนะ เอาแบบอย่าแต่งเติม ขอเรียลๆ ฟินๆ นี่ถึงขนาดให้ร่มมาด้วยเนี่ย แกเสียเวอร์จิ้นให้พี่แทนของฉันไปแล้วใช่ไหม!”

ฉันมองวัลลภแล้วถอนหายใจ ตอนแรกคิดว่าจะไม่เล่าเรื่องของแพรวพนิต แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจบอกไปจนหมดว่าพี่แทนของฉันไม่ใช่หนุ่มโสด แต่เขาคบหาอยู่กับนักศึกษาปีหนึ่งในมหาวิทยาลัยเดียวกัน

ฉันเตรียมหูชา คิดว่าเพื่อนทั้งสองคงตำหนิอย่างหนักที่ปล่อยใจให้กับคนมีเจ้าของ ยอมไปกินข้าวกับเขา นอนกอดร่มที่เขาให้ไปจนถึงเช้า แต่ก็เปล่า...วัลลภกับน้ำขิงไม่ได้ว่าอะไรสักคำ ตรงกันข้ามกลับยุยงให้ฉันแย่งเขามาเป็นของตัวเองอีกต่างหาก

แต่ไม่หรอก...เขาอยู่สูงเกินเอื้อมสำหรับฉัน

ปิดเทอมแล้วแทนที่จะได้รีบกลับบ้านที่สระบุรีเพื่อไปช่วยพ่อแม่ทำสวน แต่ฉันยังแกร่วอยู่แถวมหาวิทยาลัยเพราะวัลลภขอให้ช่วยย้ายข้าวของจากคอนโดมิเนียมไปยังบ้านจัดสรรแห่งหนึ่งซึ่งใกล้มหาวิทยาลัยมากกว่า

ครอบครัวของวัลลภมีฐานะมาก จึงไม่แปลกอะไรที่จะลงทุนซื้อบ้านให้ลูกอยู่อย่างสุขสบายระหว่างเรียนต่ออีกสองปีที่เหลือ วัลลภชวนฉันกับน้ำขิงให้ย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย น้ำขิงตอบตกลงทันที ส่วนฉันขอเวลาคิดอีกสักพัก เพราะเกรงใจเพื่อน

แต่จริงๆ กลัวจะจับฉลากได้หน้าที่ล้างจานต่างหาก!

เย็นวันนั้นหลังจากย้ายข้าวของเรียบร้อย วัลลภก็อาสาเป็นเจ้ามือเลี้ยงสุกี้ร้านดังในห้างฯ หรูแห่งหนึ่ง ฉันสั่งไม่ยั้งเหมือนกับน้ำขิง เพราะใช้พลังงานในการเก็บข้าวของจุกจิกของคนแต่งตัวเก่งอย่างวัลลภจนล้าไปทั้งตัว

พนักงานยังไม่ทันมาเสิร์ฟ ฉันก็เหลือบไปเห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งควงแขนกันเดินเข้ามาในร้าน ดวงตาเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย เพราะจำได้แม่นว่าผู้หญิงน่ารักหวานหยดคนนั้นคือแพรวพนิต ส่วนผู้ชายตัวสูง หล่อยิ่งกว่าดาราคนนั้นก็คือแทนไทนั่นเอง!

“วัลลภ...” ฉันรีบหันกลับไปมองเพื่อน

“ใครสอนให้เรียกชื่อเต็มยะ!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel