บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

เขายืนนิ่ง ส่วนฉันทำตัวไม่ถูก เลยยิ้มแหยๆ แล้วตั้งท่าจะก้าวจากไป เข้าไปหาวัลลภกับน้ำขิงดีกว่า สงสัยคืนนี้คงได้หิ้วเครื่องดื่มกลับไปต่อกันที่หอ คนอกหักอยากเมาหนักๆ สักคืน!

แต่ฝีเท้าเป็นอันต้องชะงักนิ่ง เมื่อคุณแทนเดินตามมาคว้าข้อมือของฉันเอาไว้ ไม่พูดอะไรสักคำ นอกจากจูงฉันให้เดินตามเขากลับไปที่รถ เปิดประตูออก ดันไหล่ฉันเบาๆ ให้เข้าไปนั่ง แล้วตัวเขาก็เดินอ้อมรถไปขึ้นทางด้านคนขับ

“อ่า...”

“อยู่แถวไหนครับ”

“แถวหอ...นี่เองค่ะ เดี๋ยวมีนบอกทางให้” ฉันบอกชื่อหอพักที่อยู่ไม่ไกล

“หิวไหมครับ?”

“ก็...นิดหน่อยค่ะ”

เปล่าเลย จริงๆ แล้วฉันหิวมาก หิวแบบกินควายได้ทั้งตัวเลยตอนนี้ เพราะเมื่อเย็นไม่มีอะไรตกถึงท้อง เข้ามาในผับก็มีแต่ขนมขบเคี้ยวกับแอลกอฮอล์เบาๆ เท่านั้น

“มีโจ๊กเจ้าอร่อยอยู่แถวนี้ ไปกินก่อนกลับแล้วกันครับ”

เหลือเชื่อเลย พอได้ยินว่ากำลังจะได้กินข้าวด้วยกัน เจ้าหัวใจที่ฟีบแบนของฉัน มันกลับพองโตคับอกขึ้นมาเสียดื้อๆ ถึงเขาจะมีแฟนแล้ว แต่ก็ช่างมันเถอะน่า...แค่กินข้าวด้วยกันมื้อเดียวเอง ไม่ได้ไปกินตับกันเสียหน่อย

ถือว่าไม่ใช่เรื่องผิด...

ในเมื่อคิดแบบนี้แล้วสบายใจ ฉันก็ท่องไว้แบบนั้นจนกระทั่งรถจอดสนิทลงตรงหน้าร้านโจ๊ก ไม่รู้ความซวยอะไร จู่ๆ ฝนก็โปรยปรายลง ถึงจะไม่แรงจนทำให้เปียกไปทั้งตัวได้ในพริบตา แต่มันก็ทำให้เป็นหวัดได้แน่นอน พอทีกับไอ้น้ำมูกใสๆ ไหลย้อยเนี่ย

“ไปกันเถอะ” เขาหันมาชวน หลังจากมองเห็นว่ามีโต๊ะว่างข้างในร้านเหลืออยู่โต๊ะหนึ่งพอดี

“แต่คุณจะเปียกเอานะคะ”

“ผมมีร่ม”

เขายิ้ม เอื้อมมือไปทางเบาะหลังเพื่อหยิบร่มมาถือไว้ จากนั้นก็ดับเครื่องรถ เปิดประตูลงไปแล้วกางร่มสีใสที่ฉันคุ้นตาไว้เหนือหัว เขาเดิมอ้อมมาทางฉัน เปิดประตูรถให้แล้วยังกางร่มให้ด้วย นั่นทำให้ฉันกับเขาต้องเดินตัวติดกันอยู่ภายใต้ร่มอันเดียว

กลิ่นหอมจากตัวเขาทำให้ฉันรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ถึงจะเป็นรักแรกที่ไม่มีวันสมหวัง แต่อย่างน้อยก็ยังมีความทรงจำดีๆ ให้ยิ้มได้เมื่อนึกถึงเขา ฉันจะไม่ลืมเลยว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษมากแค่ไหน

ระหว่างที่นั่งรอโจ๊กหมูไข่ลวกใส่ขิงเยอะๆ กันอยู่ ฉันก็นึกได้ว่ายังไม่ได้บอกเพื่อนเรื่องที่หายออกมากับผู้ชาย เลยหยิบโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความง่ายๆ...

‘ออกมาจากผับแล้วนะ ไม่ต้องห่วง สบายดี ไว้ค่อยคุย’

พอส่งข้อความแล้ว โทรศัพท์ก็สั่นรัวๆ อยู่ในกระเป๋าทันที แต่ฉันไม่สนใจ เพราะวินาทีนี้ผู้ชายต้องมาก่อน เอ๊ย! มารยาทต้องมาก่อน จะให้คุยโทรศัพท์ต่อหน้าผู้ใหญ่คงดูไม่เหมาะนัก

“กินเยอะๆ นะ คุณผอมมาก” เขาบอกในตอนที่ชามโจ๊กถูกวางลงบนโต๊ะ

ฉันพยักหน้ารับยิ้มๆ บอกตัวเองในใจว่าจะกินให้เกลี้ยงเลย เพราะโอกาสที่จะได้มานั่งกินโจ๊กกับคนที่แอบชอบท่ามกลางบรรยากาศฝนปรอยแบบนี้ มันคงไม่มีอีกแล้ว

“ผมชื่อแทนไทนะครับ” เขาแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ

“มีนาค่ะ เรียกว่ามีนก็ได้”

“เรียนอยู่ปีไหนแล้ว”

“ปีสองค่ะ คณะมนุษยศาสตร์”

“สาขาอะไรครับ ภาษาอังกฤษหรือเปล่า?”

“รู้ได้ยังไงคะ หน้าตามีนเหมือนคนอ่อนภาษาจะตาย”

“ไม่หรอกครับ”

เขาหัวเราะน้อยๆ ทำช้อนในมือฉันเกือบร่วง ยิ้มว่าหล่อประหารแล้ว พอหัวเราะนี่ทำให้โลกสดใสขึ้นมาเลยเชียว ฉันไม่แปลกใจสักนิดที่แม่แพรวพนิตนั่นจะหึงหวงเขามากขนาดนั้น

“แล้วคุณแทน...”

“ผมแก่กว่ามีนสิบปี เรียกผมว่าพี่ก็ได้ แต่อย่าเรียกลุงนะ” เขาตักโจ๊กใส่ปาก เคี้ยวตุ้ยๆ อย่างสุภาพแล้วเงยหน้าขึ้นมองสบตายิ้มๆ

“ไม่น่าเชื่อเลยค่ะ ดูเหมือนยังไม่ถึงสามสิบเลย”

“ขอบคุณที่ชมครับ” เขาหัวเราะอีกแล้ว

ฉันยิ้มตอบ ดวงตาเป็นประกายในยามที่จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาขาวผ่องนั่น ผู้ชายวัยนี้แหละที่ฉันชอบ อบอุ่น อ่อนโยน มีความเป็นผู้ใหญ่ สามารถดูแลและให้ความรักที่มั่นคงได้

น่าเสียดายที่ฉันไม่ได้สวยพอที่จะทำให้เขาตกหลุมรักบ้าง ไม่อย่างนั้นฉันคงได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุด คิดแล้วก็นึกอิจฉาแพรวพนิตเหลือเกิน รู้ตัวไหมนะว่ากำลังจะได้ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบไปครอง หวังว่าคงไม่โง่ทำตัวงี่เง่าจนเขาระอาแล้วกัน

ไม่อย่างนั้นฉันเสียบต่อแน่!

“พี่แทนมาแถวมหาลัยบ่อย บ้านอยู่แถวนี้เหรอคะ” ไหนๆ เขาก็ขอให้เรียกพี่แล้ว ฉันก็ไม่มีอะไรต้องเกรงใจ

“ไม่เชิงครับ แต่แพรว...คนที่โวยวายหน้าผับเมื่อกี้น่ะ เรียนอยู่ที่นี่ เลยต้องคอยตามดูพฤติกรรมไม่ให้นอกลู่นอกทาง ตอนมอปลายว่าดื้อแล้วนะ พอเข้ามหาวิทยาลัยปีหนึ่งแล้วยิ่งดื้อ พอสอบเสร็จก็หาเรื่องปวดหัวให้เลย”

อ๋อ...แพรวพนิตอ่อนกว่าฉันจริงๆ ถึงจะแค่ปีเดียว แต่เธอดูเด็กมากทั้งหน้าตาแล้วก็พฤติกรรม ตอนแรกคิดว่าเป็นนักเรียนมัธยมเสียอีก แต่จะว่าไป...พ่อเทพบุตรขุดขาวของฉันนี่ก็นิยมหญ้าอ่อนอยู่ไม่น้อย ถ้าไม่มีแพวพนิต มีนาก็คงมีหวังอยู่บ้างสิน่า

จากที่รอวันได้พบเจอกันอีกครั้ง

ตอนนี้กลายเป็น...เฝ้ารอวันที่เขาเลิกกับแฟนสินะ

คิดแล้วเศร้า พอเศร้าสีหน้าแววตาก็เปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว ฉันลอบถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินโจ๊กในชามไปเรื่อยๆ แม้จะไม่รู้รสความอร่อยเลยก็ตาม และถ้าฉันเงยหน้าขึ้นมาสักนิดล่ะก็... คงได้เห็นว่าตอนนี้อีกฝ่ายกำลังลอบมองฉันอย่างไร

ดวงตาของแทนไทกำลังยิ้มและเปล่งประกายทีเดียว...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel