บทที่ 3
ฉันเข้าไปในห้องน้ำ ทำธุระเรียบร้อยแล้วก็ออกมายืนส่องกระจก พิจารณาตัวเองอีกทีตั้งแต่หัวจรดเท้า วันนี้สวยหวานน่ารักใช่เล่นทีเดียว ต้องขอบคุณน้ำขิงที่ช่วยเลือกชุดให้
เสื้อแขนกุดสีครีมอ่อนแบบเอวลอยอวดหน้าท้องแบนราบ กับกระโปรงยีนสั้นเหนือเข่าเผยให้เห็นช่วงขาเพรียวสวย และรองเท้าส้นสูงที่แทบไม่มีโอกาสได้ใส่ ผมที่ยาวเกือบถึงเอวม้วนมวยขึ้นไว้กลางศีรษะ ปล่อยปอยผมเล็กๆ ลงมาเคลียข้างแก้ม แต่งหน้าโทนส้มจางๆ แต่ยิ่งมองก็ยิ่งหลงตัวเอง
คนอะไร น่ารักจริงๆ...
เอาเถอะ หมดเวลาหมุนซ้ายหมุนขวาทำตาปรือจือปากแล้ว ควรออกไปสมทบกับน้ำขิงเสียที เผื่อว่าต้องช่วยกันลากคุณวัลลภกลับออกไปจากที่นี่ แต่ทันทีที่เดินมาถึงประตู มันก็เปิดผลัวะออกมาจากภายนอกอย่างแรง จนฉันแทบถอยหนีไม่ทัน
“ทำ...”
ฉันกำลังจะถามว่าทำไมถึงเข้ามาในห้องน้ำหญิง ทั้งที่ตัวเองเป็นผู้ชาย แต่ขยับปากพะเยิบได้นิดเดียว อีกฝ่ายก็ตะปบมือหยาบกร้านที่เต็มไปด้วยกลิ่นบุหรี่มาปิดปากฉันแน่น
ตายโหง! ซวยแล้วงานนี้!
ฉันตาเหลือกด้วยความกลัว เมื่อผู้ชายตัวหนาสูงท่วมหัวคนนั้น ลากตัวฉันกลับเข้าไปข้างใน ตั้งท่าจะพาเข้าไปในห้องส้วมที่แยกกันเป็นห้องๆ ฉันยกเท้ายันประตูไว้ แต่ก็คงไม่รอดแน่งานนี้
ฉันหลับหูหลับตาดิ้นแรงๆ แล้วตะโกนด้วยเสียงแปดหลอดที่คาดว่าคงไม่มีมาใครได้ยิน มันอุดปากอุดจมูกฉันแน่นมาก จนรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ แต่สวรรค์คงยังไม่อยากให้ฉันตายทั้งที่ยังโสด ในที่สุดมันก็ปล่อยฉันลงบนพื้น
มันไม่ได้ปล่อยเพราะอยากปล่อยหรอก แต่มีใครคนหนึ่งมากระชากคอเสื้อมันจากทางข้างหลังต่างหาก ฉันเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขายาวสีเดียวกัน กำลังปล่อยหมัดกระแทกหน้ามันซ้ำๆ จนมันร่วงลงไปนอนโอดโอยอยู่บนพื้น
“เป็นอะไรไหม!”
เขาถามด้วยน้ำเสียงหอบสะท้าน เดินมาใกล้ๆ ก้มตัวต่ำลงเพื่อสอดมือเข้าใต้รักแร้ฉัน เขาอุ้มฉันขึ้น ไม่ใช่พยุงนะ อุ้มเลยแหละ เพราะขาของฉันไม่ได้อยู่บนพื้น แต่แค่แป๊บเดียวเขาก็วางฉันลง แล้วเลื่อนมือมาจับไหล่ทั้งสองข้างเอาไว้
เมื่อดวงตาที่พร่าพรายเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาสว่างไสวขึ้นอีกครั้ง ฉันก็เงยหน้ามองจนคอตั้งบ่า อยากเห็นว่าเทพบุตรชุดขาวที่มาช่วยฉันไว้ได้ทันคนนี้คือใครกัน ดวงตากะพริบถี่ๆ ก่อนจะตาเหลือกและอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง!
เขา! สุดหล่อในคืนฝนพรำของฉันนี่เอง!
“หัวกระแทกอะไรหรือเปล่า” เขาเลื่อนมือขึ้นมาคลำเบาๆ
“ปะ...เปล่าค่ะ หนู...หนูไม่เป็นไร”
ฉันรีบโคลงศีรษะปฏิเสธก่อนที่มืออบอุ่นนั้นจะทำให้หัวใจระเบิดออกเป็นเสี่ยงเสียก่อน เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วมองสบตากับฉัน
“คราวหลังอย่ามาเข้าห้องน้ำคนเดียวอีกนะ ผับนี่ไม่ได้มีการดูแลเข้มงวดเหมือนที่อื่น ผมเห็นมันมองคุณนานแล้ว ตั้งแต่คุณเข้ามาข้างใน” เขาสอนแล้วเล่าให้ฟังอีกด้วย ฉันยกมือขึ้นลูบอกตัวเองเบาๆ เหลือบตามองไอ้ร่างยักษ์ที่นอนสะลึมสะลืออยู่บนพื้นด้วยความกลัว
จริงๆ ก็ดีขึ้นแล้ว แต่ควรดูอ่อนแอในสายตาผู้ชายหล่อๆ นิดนึง ฉันเลยรู้สึกแข้งขาอ่อนแรงขึ้นมา ยืนไม่อยู่จนเซไปปะทะกับอกกว้างผึ่งผายของเนื้อคู่ กลิ่นน้ำหอมของเขาทำเอาฉันต้องสูดหายใจลึกๆ แล้วผ่อนออกมาเบาๆ ด้วยสีหน้าเลื่อนลอย
“คุณคงยังตกใจอยู่ มาเถอะ...ผมจะพาออกไปหาเพื่อน”
เขาสอดมือมารอบเอว แล้วช่วยพยุงฉันให้เดินตุปัดตุเป๋ออกจากห้องน้ำไป มีชายชุดดำสองคนรีบเดินตรงมาหาผู้ชายของฉัน แต่พอเขายกมือขึ้น พวกนั้นก็ค้อมศีรษะแล้วก้าวถอยไป
“ไปจัดการคนที่อยู่ในห้องน้ำให้ถึงมือตำรวจ”
“ครับ คุณแทน”
คุณแทน...ในที่สุดฉันก็ได้รู้เสียทีว่าสุดหล่อในคืนฝนพรำนั้นมีชื่อว่าอะไร คุณแทนของมีน รูปงามนามไพเราะ พ่อยอดขมองอิ่มของมีน พ่อทูนหัว พ่อเทพบุตร!
“เอ่อ พี่ขา”
เขาเลิกคิ้วนิดหนึ่งเมื่อได้ยินฉันเรียกด้วยความสนิทสนม ดูจากการที่มีบอดีการ์ดตามมาดูแลในผับเล็กๆ ย่านมหาวิทยาลัยแบบนี้ เขาคงไม่ธรรมดาแน่ แต่จะทำไมล่ะ ฉันอยากตีสนิทนี่นา เรียกพี่นั่นแหละฟังดูเป็นกันเองจะตายไป
“ครับ”
โอย หล่อแล้วยังเสียงนุ่มพูดจาน่าฟังอีก
“คือ...ช่วยพาหนูออกไปสูดอากาศข้างนอกหน่อยได้ไหมคะ หนูยังไม่อยากเจอเพื่อนในสภาพนี้ เดี๋ยวจะหมดสนุกกัน”
“ได้สิ ผมไปส่งที่บ้านให้เลยก็ได้”
ครั้งแรกฉันเคยลังเลไม่กล้าไว้ใจ และนั่นทำให้นึกเสียใจมาจนถึงทุกวันนี้ ผู้ชายตรงหน้าดูอบอุ่นและใจดีเกินกว่าจะเป็นคนเลว สุดท้ายฉันเลยพยักหน้าตอบตกลงโดยไม่ต้องเล่นตัว
