2 ส่วนลึกของหัวใจ
The Sky Hotel
“ไม่อยากกลับบ้านเลย...”
หลังจากที่เมโกะซบร้องไห้ซบแผงอกของพัตเตอร์อยู่พักใหญ่ เธอก็ผละตัวเองออกมา ปาดน้ำตาแล้วมองหน้าเขา มองลึกเข้าไปข้างในดวงตาคู่เรียบนิ่งของเขา
“จะหนีปัญหาเหรอ?” เขาเอ่ยถามเธอ แม้จะรู้ไม่รู้ว่าสาเหตุที่ทำให้คนร้องไห้ยากอย่างเมโกะเสียน้ำตานั้นคืออะไร แต่เขาก็พอจะเดาออกว่าผู้เป็นแม่คงมีส่วนเกี่ยวข้อง
“หนีได้ไหม? หนีไปกับมึง...ได้ไหม?” เธอเลิกคิ้วถามเขาด้วยแววตาสั่นเครือ เหมือนจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง ขณะที่พัตเตอร์ได้แต่ถอนหายใจออกมาและหลบตาเธอ เขาไม่อยากกลับไปหวั่นไหวเพราะสายตาคู่นี้อีกแล้ว
“ชีวิตและทุกอย่างของมึงอยู่ที่นี่ จะหนีไปกับกูได้ยังไง?”
“ก็ทิ้งไปเลย แล้วไปอยู่กับมึงที่อังกฤษ อยู่กับมึงแล้วก็สบายใจ รู้สึกปลอดภัย”
“เมโกะ” พัตเตอร์เอ่ยชื่อของเธอ เป็นเชิงให้เธอหยุดพูด ก่อนที่เขาจะลุกออกไปยืนที่ระเบียง สูดอากาศเข้าปอดลึก ทอดสายตามองออกไปที่หมู่มวลตึกสูงระฟ้าเบื้องหน้า
“มึงยังโกรธอยู่ใช่ไหม? ที่กูปฏิเสธไปตอนนั้น...” ที่จริงแล้วเธอก็ไม่ได้อยากจะรื้อฟื้นเรื่องในอดีตขึ้นมาพูด แต่ลึกๆเธอก็แอบคิดไม่ได้ว่าเหตุผลที่อยู่ๆพัตเตอร์ย้ายไปเรียนต่อที่อังกฤษกลางคัน มันเป็นเพราะเธอ...เพราะเธอบอกกับเขาว่าเธอไม่เคยรู้สึกอะไรกับเขามากไปกว่าการเป็นเพื่อน ขณะที่เขาสารภาพออกมาว่าชอบเธอ ต่อหน้าเพื่อนทุกคนในแก๊ง
“ไม่” เขาเอ่ยตอบเสียงเรียบนิ่ง
“แล้วทำไมมึงเปลี่ยนไป? ทำไมมึงไม่มองหน้ากูเหมือนเดิม? ทำไมถึงเย็นชาแล้วก็ตีตัวออกห่างแบบนี้...มึงทำเหมือนว่าไม่อยากจะข้องเกี่ยวอะไรกับกูอีก”
“แล้วมึงอยากให้กูเป็นเหมือนเดิมไปทำไม?” พัตเตอร์หันกลับมาเผชิญหน้ากับเมโกะพร้อมคำถาม
“ก็...เราเป็นเพื่อนกัน” เมโกะหลุบตามองต่ำ
“ไม่ใช่หรอก...ไม่ใช่เพราะเราเป็นเพื่อนกัน แต่มันเป็นเพราะมึงเห็นแก่ตัวต่างหาก มึงอยากให้กูวิ่งตามมึงไปทุกที่ อยากให้กูคอยเอาใจ อยากให้กู...ชอบมึงไปตลอด ทั้งๆที่มึง...ไม่คิดจะรู้สึกกับกูมากไปกว่านั้น” พัตเตอร์ตอบแทน เขามองเธอออก มองเธอขาดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
“ไอ้พัต...สรุปคือมึงยังโกรธกูอยู่จริงๆ”
“ไม่ได้โกรธ มึงไม่ผิดที่ไม่รู้สึกกับกู แต่จะให้กูกลับไปเป็นเหมือนเดิมมันก็ไม่ใช่...เพราะกูตัดใจจากมึงไปแล้ว ตอนนี้กูก็รู้สึกแบบเดียวกับมึง...เราสองคนเป็นได้แค่เพื่อนกันจริงๆ กูให้มึงได้เท่าที่มึงให้กูนั่นแหละเมโกะ”
“ถ้าอย่างนั้นเราก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมสิ เที่ยวกันได้ ดื่มกันได้ นอนหลับข้างๆกันได้” เมโกะยังคงไม่เข้าใจ เธอยังอยากที่จะเรียกร้องให้พัตเตอร์กลับไปเป็นเหมือนเดิม
“...”
“นะไอ้พัต...กลับมาเป็นเหมือนเดิม ย้ายกลับมาเมืองไทย โทรมาหากูทุกเช้า ปลุกกูไปเรียน...ไปกินข้าวด้วยกัน ฟังเพลงที่เราชอบด้วยกัน แบบที่เราทำด้วยกันเมื่อก่อนไง...สำหรับกู...มันมีแค่มึงคนเดียวที่ทำได้ มีแค่มึง...ที่กูอยู่ด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น กลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมเถอะนะพัตเตอร์” นี่เป็นครั้งแรกที่คนอย่างเมโกะจะขอร้องใคร
“ไม่ได้” ทว่าเขากลับปฏิเสธเธอ
“ทำไม?”
“เพราะถ้าทำแบบนั้น...กูอาจจะกลับไปชอบมึงอีกไง” และเหตุผลของพัตเตอร์ก็ทำให้เมโกะพูดอะไรไม่ออก ไปต่อไม่ถูก สุดท้ายเธอก็ทำได้เพียงนั่งเงียบๆอยู่ตรงนั้น
พัตเตอร์เดินนำเมโกะมาที่ลิฟต์ หลังจากที่ทั้งสองนั่งเงียบอยู่ที่สวนหย่อมอยู่นาน ฝ่ายชายก็เอ่ยปากชวนเธอกลับ เพราะมันได้เวลาที่เขาจะต้องกลับไปพักผ่อนแล้ว
“แล้วมึงจะบินกลับลอนดอนเมื่อไหร่?” เมโกะเอ่ยถามขณะที่เข้าไปในลิฟต์
“พรุ่งนี้”
“ไอ้พัต? มึงเพิ่งมาเมื่อวานเองไม่ใช่เหรอ...?”
“ก็กูมางานแต่งงานของคุณนิ่มกับไอ้ฟ้า งานแต่งจบแล้วกูก็กลับ”
“งั้นถ้าวันนี้กูไม่ได้ขอให้มึงออกมาคุยกับกู...เราสองคนก็คงจะไม่มีเวลาได้คุยกันเลยใช่ไหม?” เมโกะอดที่จะน้อยใจไม่ได้
“ก็คงงั้น”
“มึงใจร้ายนะไอ้พัต...บางทีมึงก็ไม่มีทางเลือกอะไรให้กูเลย...มึงทำให้กูรู้สึกว่าถ้าไม่ได้เป็นแฟนมึง กูก็เป็นเพื่อนไม่ได้ด้วย” เมโกะเงยหน้าขึ้นไปมองพัตเตอร์ที่ตัวสูงกว่าเธอมาก
“เราก็เป็นเพื่อนกันอยู่” เขาเอ่ยตอบ
“เพื่อนเหี้ยไร?! เพื่อนที่ไหนเขาเย็นชาแบบมึง?! เพื่อนแบบไหนที่กลับมาเมืองไทยทั้งทีแต่กลับไม่คิดจะอยู่นานๆเพื่อที่จะได้ไปเที่ยวไปดื่มกับเพื่อน?!” แล้วคนเจ้าอารมณ์ก็เริ่มโมโหขึ้นมา
“งั้นขึ้นไปดื่มกันที่เลาจ์ของโรงแรม มึงจะได้สบายใจสักที” ว่าแล้วพัตเตอร์ก็กดลิฟต์ขึ้นไปที่ชั้นบนสุดของโรงแรมในทันที
Sky Lounge
พัตเตอร์เดินเข้าไปนั่งที่โซฟาสไตล์หลุยส์ ในเลาจ์สุดหรูหราที่ตกแต่งในสไตล์หลุยส์ตามแบบฉบับของอังกฤษ แล้วเขาก็แปลกใจขึ้นมาไม่น้อย เมื่อเห็นว่าเมโกะเข้ามานั่งที่ข้างๆเขา แทนที่จะไปนั่งที่โซฟาฝั่งตรงข้าม
“มานั่งนี่ทำไม? ไปนั่งตรงนั้นสิ” เขาชี้โซฟาอีกตัวให้เธอดู
“นั่งตรงนั้น เดี๋ยวมีคนเห็นกู...ไม่อยากเป็นข่าว” ถึงแม้ว่าเมโกะจะไม่ค่อยสนใจเรื่องดราม่าไร้สาระ แต่อะไรที่ทำได้ เธอก็อยากจะกันไว้ดีกว่าแก้
“งั้นกูไปนั่งเอง” พัตเตอร์ทำท่าจะย้ายที่นั่ง
“ไม่ต้อง! ทำไม...มึงไม่อยากนั่งข้างๆกูเหรอ?” เธอรั้งท่อนแขนแกร่งของเขาให้กลับมานั่งลงตามเดิม
“ไหน...อยากดื่มกับเพื่อนไม่ใช่เหรอ? สั่งสิ...” แล้วชายหนุ่มก็ได้แต่ถอนหายใจ ไม่ตอบคำถามของหญิงสาว แต่กลับบอกให้เธอสั่งเครื่องดื่มในตอนที่พนักงานเข้ามารับออร์เดอร์
“เอา...คอสโมก็แล้วกัน” เมโกะเอ่ยสั่งค็อกเทลยอดนิยมของสาวๆอย่างคอสโมโพลิแทน
“ของผมขอเป็นกาแฟดำครับ” ขณะที่พัตเตอร์เลือกสั่งกาแฟ พนักงานรับออร์เดอร์เครื่องดื่ม ปรายตามองดาราดังอย่างเมโกะเพียงแวบเดียวแล้วเดินออกไป
“กาแฟ?” หญิงสาวเลิกคิ้วมองหน้าพัตเตอร์
“กูต้องขับรถ...แล้วก็ไม่อยากแฮงค์ไปขึ้นเครื่อง” เขาเอ่ยตอบ
“งั้นคืนนี้กูก็ต้องเมาคนเดียวอ่ะดิ?”
“แค่จิบก็พอมั๊ง? จะเอาให้เมาเลยเหรอ?” พัตเตอร์หรี่ตามองเมโกะ
“กูไม่ได้เมามานานแล้ว...พอไม่มีมึงอยู่ด้วย กูก็ไม่กล้าไปเมาที่ไหน...ไอ้วีนัสมันยังมีคุณลุงอินทรีย์คอยมารับมาส่ง ไอ้นิ่มก็มีสายฟ้า แต่กูไม่มีใคร...”
“หาผู้ช่วยที่ไว้ใจได้สักคนสิ คนที่จะหิ้วมึงกลับบ้านได้เวลาที่เมา”
“จ้างมึงได้ไหม? คนเดียวที่กูไว้ใจคือมึง” เมโกะจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของพัตเตอร์ ขณะที่พนักงานนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ
“แล้วผู้จัดการมึงที่ชื่อต้นไม้ล่ะ? เดี๋ยวนี้เขาไม่ต้องไปไหนมาไหนกับมึงแล้วเหรอ?” พัตเตอร์เปลี่ยนเรื่อง
“พี่ต้นไม้ไปดูแลไอ้วีแล้วไง ตั้งแต่ที่ไอ้วีนัสเริ่มดังนั่นแหละ” วีนัสเองก็มีชื่อเสียงในวงการบันเทิง จากการชักนำของเมโกะ จนได้มาอยู่ในเอเจนซี่เดียวกัน
“งั้นตอนนี้ใครดูแลมึงอยู่?”
“ไม่มี กูขอคุณคิมว่ากูจะดูแลตัวเอง...แค่ส่งงานมา ที่เหลือกูจัดการเอง” คิมที่เมโกะหมายถึง ก็คือคิมหันต์ เจ้าของเอเจนซี่และเป็นพี่ชายต่างแม่ของต้นไม้
“แม่มึงรู้เรื่องนี้หรือเปล่า?”
“รู้แล้ว...และก็โกรธมาก ทะเลาะกันจนบ้านจะแตก” เมโกะคว้าเครื่องดื่มขึ้นมากระดกรวดเดียวหมดแก้ว เมื่อเอ่ยถึงผู้เป็นแม่
“ที่มึงเครียดจนร้องไห้ เพราะทะเลาะกับแม่มึงเรื่องนี้เหรอ?”
“เปล่า” คนถูกถามส่ายหน้าตอบ แต่ก็ไม่คิดจะเล่าให้เขาฟังว่าเวลานี้เธอกำลังเจออยู่กับอะไร เพราะเธอ...ไม่พร้อมจะแชร์ความทุกข์กับใครทั้งนั้น
“งั้นเรื่องอะไร?”
“สั่งมาอีกสิ...แก้วเดียวไม่พอหรอก” เมโกะยกแก้วค็อกเทลเปล่าให้พัตเตอร์ดูพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่ฝ่ายชายก็ยกมือเรียกพนักงานให้มารับออเดอร์
“ขอคอสโมอีกแก้วครับ”
“สองเลย...” เมโกะแทรกขึ้นมา
“แก้วเดียวพอครับ” แต่พัตเตอร์ก็ยังยืนกับพนักงานว่าเขาต้องการเพียงแก้วเดียว
“ฉันขอสองแก้ว...ถ้าคุณเอามาแก้วเดียว ฉันจะเรียกผู้จัดการ”
“คอสโมสองแก้วนะครับ” สิ้นคำสั่งของเมโกะ พนักงานก็รีบรับออเดอร์แล้วเดินออกไปทันที
“กูว่าแค่แก้วเดียวมึงก็เริ่มจะเมาแล้วนะ” พัตเตอร์หันมามองใบหน้าอันแดงก่ำของเมโกะด้วยสายตาไม่พอใจเท่าไหร่นัก
“ยังหรอก...ถ้าเมาอ่ะ กูอาจจะร้องไห้ออกมาอีกรอบ แล้วขอร้องให้มึงไม่ไป ขอให้มึงอยู่กับกูที่นี่”
“ไม่มีประโยชน์หรอก” พัตเตอร์ส่ายหน้า
“มีสิ...มีมากเลยด้วย มึงไม่รู้หรอกว่ากูคิดอะไรอยู่ในหัวตอนนี้...” เมโกะจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของพัตเตอร์ไม่วาง
“ก็บอกมาสิ กูจะได้รู้”
“ถ้าจูบแล้ว...จะรั้งมึงไว้ได้ไหม?”
“หืม?” พัตเตอร์นิ่วหน้าขึ้นมาอย่างไม่ตั้งตัว เมื่อได้ยินคำตอบของเมโกะ
“คอสโมโพลิแทนสองที่ครับ” ขณะนั้นพนักงานก็นำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟพอดี
อึก! อึก!
เมโกะคว้าเครื่องดื่มขึ้นมากกระดกอย่างรวดเร็วจนหมดแก้วที่สอง แล้วตามด้วยแก้วที่สาม ดื่มจนหมดอย่างไม่รีรอ
“อะไรจะขนาดนั้นวะเมโกะ?” พัตเตอร์ขมวดคิ้วมองการกระทำของหญิงสาวอย่างไม่เข้าใจ เขารู้สึกว่าเธอกำลังมอมตัวเอง
“พัตเตอร์...” น้ำเสียงยืดยานดึงขึ้น...ก่อนที่จะเธอโน้มตัวเข้าไปใกล้เขามากกว่าที่เป็น ส่งมือไปกุมใบหน้าหล่อเหลาของเขาเอาไว้
“ถ้าบอกว่าเราไม่ต้องมีสถานะกันล่ะ? มึงโอเคไหม ให้เราเป็นมากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน จูบกันได้ถ้าอยากจูบ มึงจะรักกูก็ได้ กูไม่ห้าม แล้วกูจะไม่มีใคร จะมีแค่มึง เราจะไปไหนมาไหนเหมือนเมื่อก่อน ไปเที่ยว ไปดื่มด้วยกันแบบนี้ มีความสุขด้วยกันเท่าที่ต้องการ อยู่ด้วยกันแบบสบายใจ ไม่ผูกมัด แล้วเราจะไม่ต้องมีวันที่เลิกกัน แบบนั้นได้หรือเปล่า?” เธอเอ่ยถามเขาด้วยน้ำเสียงและแววตาที่อ่อนไหว เล็งเห็นถึงอนาคตว่าตัวเธอเองจะต้องมีวันที่ไม่เหลือใคร...ถ้าไม่มีแม่ ถ้าไม่มีเขา เธอก็คงไม่เหลือใครแล้วจริงๆ
“ความสัมพันธ์แบบนั้นเหรอที่มึงต้องการจากกู? ร่วมสุข...แต่ไม่ร่วมทุกข์ เป็น Friends with Benefit?” พัตเตอร์แสดงความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน
“อืม...มึงให้กูได้ไหม?”
“ให้ไม่ได้ เพราะกูไม่ต้องการแบบนั้น กูว่ามึงเมามากแล้วนะเมโกะ กลับกันเถอะเดี๋ยวกูไปส่ง”
“มึงปฏิเสธกู” เมโกะทำเสียงน้อยใจ
“อืม”
“งั้นตอนนี้เราหายกันแล้วใช่ไหม? กูเคยปฏิเสธมึง ส่วนมึงก็เพิ่งปฏิเสธกูไป งั้นก็เริ่มต้นใหม่ได้แล้วสิ”
“มันไม่เหมือนกัน...มึงยังไม่เข้าใจ แล้วกูคิดว่าอธิบายไปก็เท่านั้น กับคนที่ไม่รู้จักความรักอย่างมึง...”
“กูเหรอไม่รู้จักความรัก?”
“มึงรู้จักแต่คำว่าผลประโยชน์...ที่มึงพูดมาทั้งหมด มันแปลว่าอะไรรู้ไหม?”
“...”
“มันแปลว่ามึงต้องการกูไว้เพื่อความสุขเพียงอย่างเดียว มึงไม่ได้พร้อมจะแชร์ความทุกข์กับกู มึงอยากได้...แต่ไม่พร้อมจะให้ มันเป็นนิสัยของคนเห็นแก่ตัว และกูก็ทำอย่างที่มึงต้องการไม่ได้” พัตเตอร์มองหน้าเมโกะด้วยสายตาผิดหวัง เป็นอีกครั้งในจำนวนสิบๆครั้งที่เขาผิดหวังกับเธอ...ซ้ำๆ เสียใจกับเธอ...ซ้ำๆ
และสุดท้าย...เขาอาจคิดถูกแล้ว ที่คิดว่าจะต้องเก็บเธอไว้ในส่วนลึกของหัวใจ เพื่อที่วันหนึ่ง เขาจะสามารถกลับมาเป็นเพื่อนกับเธอได้อย่างบริสุทธิ์ใจจริงๆ
