ตอนที่5 ให้โอกาสอีกสักครั้ง 1
แน่นอนว่างานของอารัญต้องทำร่วมกับพิรานันท์ เพราะทั้งสองเป็นนักศึกษาฝึกงานร่วมแผนกเดียวกัน ส่วนนิดาย่อมเป็นส่วนเกินแล้วในนาทีนี้
แต่เธอไม่สน หญิงสาวยืนรออยู่หน้าบริษัทอย่างคนที่ไม่อาจเข้าไปด้านในได้เพราะเป็นคนนอก
เมื่ออารัญขับรถมาจอดตรงทางเท้าหน้าบริษัทเธอก็ปรี่ขึ้นรถของอาร์มฝั่งด้านข้างคนขับแล้วยิ้มแฉ่งแข่งตะวัน ส่วนพิรานันท์นั่งด้านหลัง ในขณะที่อารัญนั่งประจำฝั่งคนขับ เขาหมุนพวงมาลัยขับรถออกไปด้วยอารมณ์ไม่ปกติ
ระหว่างทาง นิดายังคงส่งเสียงชวนคุยเจื้อยแจ้ว ทั้งน่ารักและสดใส ท่าทางไม่ได้ระแคะระคายอะไรทั้งสิ้น
ในขณะที่อารัญต้องทนฟังน้ำเสียงนั้นอย่างอึดอัด ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเขาเพลิดเพลินไปกับน้ำเสียงของคู่หมั้นคนนี้ ชนิดที่ไม่ยอมให้อีกฝ่ายหลับยามที่เขาขับรถไปทุกที่กับเธอ
อารัญลอบถอนหายใจเบื่อหน่ายพลางแอบมองกระจกหลัง
เห็นพิรานันท์เหลือบมองเขาเช่นกัน
ดวงตากลมโตของเธอคล้ายมีน้ำใสปริ่มๆ ตลอดเวลา ชายหนุ่มเห็นแบบนั้นก็ให้รู้สึกสงสารจับใจ อกสั่นหวั่นไหวเป็นระลอกคลื่นซัด ท้ายที่สุดก็พยายามสะกดเสียงตะคอก ให้เหลือแค่น้ำเสียงราบเรียบ
“นิด...”
“หืม...”
“อาร์มต้องใช้สมาธิขับรถนะ”
หมายความว่าให้นิดาหยุดส่งเสียงสดใสรบกวน
และนั่นก็มากพอให้กระแสความรู้สึกหนึ่งพลันตีขึ้นจนขอบตาของนิดาร้อนผ่าวอย่างไม่อาจหักห้าม
“อ้อ...โทษทีจ๊ะ” หญิงสาวอมยิ้มพยักหน้าไม่ดื้อรั้น ทว่าฝ่ามือที่แอบกำแน่นนั้นคงมีเพียงเธอที่รู้ว่าสั่นเทาแค่ไหน
เมื่อถึงบริษัทแต่ละที่ ที่อารัญกับพิรานันท์ต้องเข้าไปส่งเอกสารด้วยกัน
นิดาก็เพียงนั่งรอในรถอยู่เงียบๆ พยายามเก็บกดอาการรวดร้าวไว้ลึกสุดใจ
วันนี้จะเป็นวันสุดท้าย ที่เธอจะให้โอกาสเขา...
คนถูกมอบโอกาสสุดท้ายยังคงไม่รู้ตัว นาทีนี้อารัญกลัวพิรานันท์จะเสียใจจนคิดมากที่ต้องทนเห็นเขากับคู่หมั้น เนื่องจากมั่นใจว่านิดาไม่มีทางล่วงรู้ความสัมพันธ์ลับนี้แน่ หากแต่ผู้หญิงอีกคนรู้สถานะแท้จริงระหว่างเขากับนิดา ความรู้สึกของเธอทั้งสองคนย่อมแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ความเห็นอกเห็นใจที่ได้รับจากอารัญก็เช่นกัน
“แค่วันนี้นะ พิมพ์อย่าคิดมาก อาร์มไม่รู้ว่านิดจะมา ก็เลยผิดแผนไปหมด”
“อือ...” พิรานันท์พยักหน้า รีบยกมือปาดน้ำตาที่กำลังคลอเบ้า ก่อนผลิยิ้มอ่อนหวานยินยอม “พิมพ์รู้ตัวดีว่าควรอยู่ยังไงไม่ให้อาร์มต้องเดือดร้อน ไม่ต้องห่วงพิมพ์นะ”
เมื่อเห็นผู้หญิงที่เขาสามารถล่วงล้ำได้ถึงเนื้อด้านในแบบแนบชิดสนิทแน่นยามอยู่ด้วยกัน แต่เวลานี้กลับทำไม่ได้แม้แต่จับมือ อารัญก็ให้รู้สึกหงุดหงิดต่อนิดา
และรู้สึกผิดต่อพิรานันท์
ยิ่งเห็นเธอแอบร้องไห้เงียบๆ มาตลอดทาง ชายหนุ่มก็ถึงขั้นทนไม่ไหว เขาฉวยจังหวะที่เดินมาตามทางเท้าภายในบริษัทดึงมือนุ่มเข้ามุมอับระหว่างทาง ก้มหน้าจูบเธอ
“อ๊ะ! อาร์ม”
“ชู่ว์”
อารัญกดกลีบปากนุ่มหวานของพิรานันท์จูบอย่างหนักหน่วงก่อนจะเริ่มดูดดื่มขึ้นเรื่อยๆ ส่งลิ้นเกี่ยวกระหวัดอย่างวาบหวามหลงใหล
ลืมไปแล้วว่าคู่หมั้นกำลังนั่งรออยู่ในรถตากแดดทางด้านหน้าบริษัท
การจูบแลกลิ้นยิ่งนานยิ่งกำซ่าน สองแขนของอารัญคร่อมร่างระหงของพิรานันท์ จนแผงอกแข็งแรงแนบสนิทกับเนินอกหยุ่นนุ่ม สองร่างซ้อนทับกันจนมิดชิดกำแพง ศีรษะของพวกเขาแนบชิดแน่นแฟ้น คนหนึ่งแหงนหน้าพร้อมเปลี่ยนทิศทางตามองศาของอีกคน วงแขนเรียวเล็กของผู้หญิงเริ่มเลื้อยจากการลูบไล้แผงอกขึ้นคล้องคอแกร่ง
อารัญเริ่มทนไม่ไหว เขาถอนริมฝีปากออกแล้วซุกไซ้ซอกคอขาวที่หอมกรุ่นยั่วน้ำลาย แล้วลากลิ้นวกกลับขึ้นมาจูบกลีบปากอุ่นชื้นซ้ำอีกคราอย่างหิวกระหาย
เสียงลมหายใจค่อยๆ หอบถี่และเริ่มเร่งเร้าเคล้าอารมณ์แห่งตัณหา แต่ก่อนที่จะมีใครบังเอิญเดินมาเห็นเข้า ฝ่ายชายก็รีบกักเก็บและกดข่มความปรารถนาที่ไม่อาจได้รับการปลดปล่อย ค่อยๆ ถอนริมฝีปากที่มีลมหายใจร้อนผ่าวออกจากฝ่ายหญิง กดจูบอีกครั้งอย่างแสนเสียดาย
“เย็นนี้นะ”
“หือ...”
พิรานันท์เงยหน้าเผยริมฝีปากแดงก่ำสบประสานสายตาร้อนแรงของอารัญ ได้ยินเขาบอกเสียงสั่นพร่า
“เย็นนี้ หลังอาร์มไปส่งนิดแล้วจะรีบมาหาพิมพ์นะ”
คนสวยจึงคลี่ยิ้มหวาน พยักหน้าเขินอาย
“อือ...”
