ตอนที่2 กาลเวลาไม่ช่วยอะไร 2
ทุกวันนี้การหมั้นหมายคล้ายสิ่งที่ผูกมัดอันไร้ค่า เมื่อเขาเจอคนที่ใช่มากกว่านิดา
เธอสวยและน่ารักทั้งยังเซ็กซี่ เวลาที่เธอส่งยิ้มให้เขาแต่ละที ทำเขาแทบคลั่งเจียนบ้า
“พิมพ์”
อารัญส่งเสียงเรียกเพื่อนร่วมฝึกงานแผนกเดียวกันทันทีที่เดินมาแล้วเห็นเธอยืนรอเขา
“รอนานหรือเปล่าครับ?”
พิรานันท์ ส่ายหน้าเบาๆ อย่างเอียงอาย “ไม่นาน”
ชายหนุ่มก้มมองลักยิ้มจุ๋มจิ๋มตรงแก้มบุ๋มของอีกฝ่ายยามคลี่ยิ้มมา เขาก็ให้รู้สึกใจสั่นหวั่นไหว ใกล้หลอมละลาย
“วันนี้พิมพ์สวยมากเลย”
วันนี้ หญิงสาวตรงหน้าไม่ได้แต่งกายด้วยชุดนักศึกษารัดรูปเผยส่วนเว้าส่วนโค้งและกระโปรงสั้นเปิดเผยขาอ่อนขาวๆ เนียนๆ เหมือนทุกวัน
เพราะวันนี้ที่แผนกของทั้งสองมีสัมมนานอกสถานที่ เธอจึงแต่งตัวเป็นชุดไปรเวทแบบจัดเต็ม
ทั้งสวยและเซ็กซี่ชวนขยี้ใจอย่างบอกใคร
ทั้งนี้กลุ่มคนที่ไปสัมมนาคือพวกพี่ๆ ในแผนกเท่านั้น ส่วนนักศึกษาได้หยุดงานสองวันเป็นกรณีพิเศษ
อารัญจึงนัดพิรานันท์ไปเที่ยวแบบสองต่อสอง
“ทำไมอาร์มแต่งชุดนักศึกษาล่ะ”
หญิงสาวถามแฟนหนุ่มอย่างสงสัย ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจ
อารัญจับมือนุ่มของพิรานันท์พาเธอเดินไปที่รถยนต์ของเขา พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม “อาร์มไม่ได้บอกเรื่องสัมมนาหรือหยุดงานให้ที่บ้านรู้น่ะสิ”
“อืม...” พิรานันท์ทำหน้าสลดนัยน์ตาเศร้า “พิมพ์ลืมไปว่าเรื่องของเราเป็นความลับ”
ชายหนุ่มดูแลเปิดประตูให้หญิงสาวขึ้นนั่งด้านข้างคนขับอย่างทะนุถนอม ก้มหน้าหอมแก้มแดงปลั่งของเธออย่างรักใคร่โหยหา ก่อนเดินอ้อมไปขึ้นนั่งที่หลังพวงมาลัยอย่างไม่รอช้า
“อย่าคิดมากสิพิมพ์ ขอเวลาอาร์มหน่อยนะ พิมพ์รอได้ไหมครับ?”
หญิงสาวพยักหน้าน้อยๆ “ค่ะ พิมพ์จะรออาร์มนะ”
คำตอบนั้นทำอารัญถึงกับอดใจไม่ไหว ต้องรั้งร่างนุ่มเข้ามากอดแนบอกอย่างอ่อนโยน ก่อนก้มหน้าจรดริมฝีปากจูบเธอเหมือนที่ชอบทำ
การบดกลีบปากแลกลิ้น คลอเคล้าและเต็มตื้นไปด้วยลมหายใจร้อนผ่าว การละเลียดชิมความหอมหวานจากโพรงปากของหญิงสาวเริ่มละเมียดละไมไปถึงซอกคอขาว บางส่วนของร่างกายเริ่มแข็งกร้าวปวดร้าวอย่างรวดเร็วจนชายหนุ่มต้องถอนใบหน้าออกมาเพื่อมองเธออย่างลึกล้ำ
อารัญเปล่งเสียงกระซิบแผ่วต่ำแหบพร่าชิดริมฝีปากที่แดงช้ำ จ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยอย่างเว้าวอน
“รีบไปกันเถอะ”
“อือ...”
พิรานันท์ก้มหน้าซ่อนแก้มแดงปลั่งเอาไว้ยากเย็น ความเห็นอกเห็นใจต่อเพศหญิงด้วยกันล้วนไม่มี
ทั้งๆ ที่รู้ว่าฝ่ายชายมีคู่หมั้นเป็นตัวเป็นตนแล้วและเธอเองก็รู้จักนิดาคนนั้นเป็นอย่างดีเพราะเรียนคณะเดียวกัน
หลายคลาสที่ได้มีโอกาสเรียนด้วยกันกับนิดาจนได้เจอกับอารัญที่เทียวรับเทียวส่งนิดาตั้งแต่เข้าเรียนปีหนึ่งจนถึงปีสี่
เธอก็รู้สึกพึงใจในตัวอารัญทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ
เรื่องนี้มันช่วยไม่ได้จริงๆ ที่เธอโชคดี ได้ฝึกงานแห่งเดียวกับอารัญ ได้ใกล้ชิดกันทุกวัน ช่วยเหลือกันเรื่องงานจนกระทั่งสนิทสนมถึงขั้นแนบแน่นถึงเนื้อถึงตัว
หญิงสาวซ่อนรอยยิ้มร้ายภายใต้ใบหน้าสวยหวาน
ผู้ชายคนนี้ฉันขอเถอะนะ ยัยนิดาจอมบื้อ...
