บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 บ้านช่องว่างเปล่ามีแต่กำแพง

หมิงจิ่วเหนียงเพิ่งจะสังเกตเห็นฮัวเอ๋อร์ที่ตกใจเกินเหตุ จึงรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่ ไม่ใช่ฮัวเอ๋อร์ แม่ไม่ได้ว่าเจ้า แม่ด่านกข้างนอกต่างหาก!”

ดวงตากลมโตสีดำเป็นประกายของฮัวเอ๋อร์เต็มไปแววน้ำตา เห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อคำพูดของนาง

เซียวเถ่ฉื้ออยากจะร้องไห้ก็ไม่มีน้ำตาให้ร้อง เจ้าของร่างเดิมสร้างปัญหาเอาไว้ นางต้องมาแก้ไข ฮัวเอ๋อร์ค่อย ๆ ชิดเข้าไปใกล้นางด้วย และมีความหวาดระแวงอยู่เต็มเปี่ยมไปด้วย นางรู้สึกช่างยากลำบากจริง ๆ

นางลุกขึ้นมานั่งบนเตียง สางผมไปอย่างลวก ๆ หลายที

แสงแดดส่องเข้ามาในบ้านมุงจากที่ผุพัง ทำให้นางมองเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

……บ้านหลังนี้ ไม่เพียงยากจนเท่านั้น ยังสกปรกและผุพังด้วย

เตียงที่นางนอนคือแผ่นไม้ที่วางอยู่บนก้อนหิน ชิดกับกำแพงด้านที่อยู่ทางทิศเหนือ สิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับเตียงแผ่นไม้คือโต๊ะเก้าอี้ที่ผุพัง หน้าโต๊ะมีรอยขูดขีดจนดูไม่ได้ ขาเก้าอี้ยาวสั้นไม่เท่ากัน คาดว่าน่าจะเก็บของเก่าที่คนอื่นเขาไม่เอาแล้วมา

ตรงกลางบ้านมีถ่านกองหนึ่งที่เผาเสร็จแล้ว ด้านข้างมีถ้วยชามหยาบกระด้างที่ปากบิ่นวางอยู่ นอนระเกะระกะอยู่บนพื้นด้วยสภาพที่แต่งต่างกัน

หมิงจิ่วเหนียงคนนี้นี่ ไม่เก็บแม้แต่ถ้วยเลย……นี่มันขี้เกียจมากแค่ไหนนะ!

ยังมีอีก การทำกับข้าวก็อยู่ในบ้านด้วยเช่นกัน และที่สำคัญแม้แต่น้ำมันกับเกลือก็ไม่มี

นางถอนหายใจออกคำหนึ่ง จ้องมองเสื้อผ้าที่ดูเลื่อน ๆ บนตัว แล้วงอตัวลงเปิดกล่องใต้เตียงออกมา

ในนั้นมีเสื้อผ้าอยู่สี่ห้าตัว เป็นของนางทั้งหมด……ถึงจะยากลำบากแค่ไหน หมิงจิ่วเหนียงก็ไม่ยอมให้ตัวเองเสียเปรียบ

เซียวเถ่ฉื้อไม่มีแม้แต่เสื้อตัวบนด้วยซ้ำ ส่วนเสื้อผ้าที่ฮัวเอ๋อร์ใส่ก็สกปรกจนดูไม่ได้ แถมรอยปะเต็มไปหมด งานเย็บบนนั้นหยาบกระด้างจนทำให้คนทนมองไม่ไหว เห็นได้ชัดว่าต้องเป็นฝีมือของเซียวเถ่ฉื้อแน่……

ชีวิตแบบนี้มันยากลำบากเกินไปแล้ว!

ท้องนางหิวจนร้อง“จ๊อก ๆ”ออกมา ส่วนเจ้าตัวเล็กด้านข้างก็หิวจนกัดนิ้วมือ……เอาล่ะ หมิงจิ่วเหนียง ภารกิจแรกของเจ้าก็คือ ทำให้ท้องของตัวเองและเทวดาตัวน้อยอิ่มให้ได้!

“มานี่ซิ” นางยิ้มเล็กน้อย แล้วกวักมือให้ฮัวเอ๋อร์

ฮัวเอ๋อร์ผอมจนเหมือนกับชาวบ้านที่อดยาก หัวโต ๆ บนใบหน้าเหลือแต่ดวงตาคู่โตสีดำเป็นประกาย เสื้อผ้าที่ตัวเล็กแล้วรัดแน่นอยู่บนร่างกาย ซี่โครงแต่ละซี่สามารถมองเห็นได้ชัด เห็นแล้วก็ทำให้คนรู้สึกจิตใจขมขื่น

ฮัวเอ๋อร์ตัวสั่นเล็กน้อย แต่พอผ่านไปครู่หนึ่ง ก็ยังรวบรวมความกล้าเอามือเล็ก ๆ ที่เหมือนตีนไก่ของเขาวางลงบนมือหมิงจิ่วเหนียง

หมิงจิ่วเหนียงยิ้มแล้วลองพูดขึ้นว่า “ไป เดี๋ยวแม่พาเจ้าไปล้างหน้าที่ข้างลำธารนะ จากนั้นก็ดูซิพอจะหาอะไรกินได้หรือเปล่า”

ฮัวเอ๋อร์พยักหน้าขึ้นอย่างแรง แม่ที่เป็นแบบนี้ เขารู้สึกชอบจังเลย!

ตอนที่หมิงจิ่วเหนียงจูงมือเขาเดินออกไปถึงพบว่า บนโต๊ะมีเงินวางอยู่ห้าอีกแปะด้วย

นี่เป็นเงินที่เซียวเถ่ฉื้อทิ้งไว้ให้นาง เมื่อวานเขาบอกว่าเขาได้รับเงินเดือนแล้ว!

หมิงจิ่วเหนียงเก็บเงินไม่กี่อีแปะที่น่าสงสารขึ้นมาแล้วซ่อนไว้ที่เอวให้เรียบร้อย แล้วมีความคิดเห็นใหม่ต่อเซียวเถ่ฉื้อ

ปากร้ายก็ปากร้ายไปหน่อย แต่ใจไม่ได้แข็งขนาดนั้น

ชีวิตเล็ก ๆ ของนางมีทางรอดแล้ว! ขอแค่นางไม่สร้างปัญหา ที่พึ่งเซียวคนนี้ก็สามารถเป็นที่พึ่งพาได้

หมิงจิ่วเหนียงพาฮัวเอ๋อร์ไปล้างหน้าล้างมือที่ริมลำธาร พวกแม่บ้านในหมู่บ้านที่มาซักผ้าซุบซิบนินทานาง ถกเถียงกันต่อหน้าต่อตานางเลย

“นั่นมันภรรยาของช่างตีเหล็กเซียวไม่ใช่หรือ? วันนี้นางตื่นเช้าขนาดนี้เลยหรือ ข้าว่าพระอาทิตย์คงจะขึ้นทางทิศตะวันตกแล้ว!”

“นางพาลูกชายออกมาด้วย แถมยังยิ้มให้ลูกชายอีก คงอยากจะผลักลูกชายให้ตกลงไปจมน้ำตายในลำธารแน่เลย?”

ร่างกายของฮัวเอ๋อร์สั่นเทาขึ้นเล็กน้อย

หมิงจิ่วเหนียงโมโหขึ้นมาเลย มือเท้าเอวแล้วด่าขึ้นว่า “อีผู้หญิงลิ้นยาวที่ชอบซุบซิบนินทา ดูแลตัวเองให้ดีก่อนเถอะ! ลูกชายเจ้าต่างหากที่จะตกลำธารจมน้ำตาย”

“เจ้าคนบ้านเซียว เจ้ากล้าด่าคนหรือ!” แม่บ้านที่ถูกด่าก็ไม่พอใจขึ้นมา หยิบไม้ที่ใช้ทุบผ้าขึ้นมาแล้วก็มาชี้หน้าหมิงจิ่วเหนียง

หมิงจิ่วเหนียงรู้ว่า อยู่ในหมู่บ้านนี้ พวกคนที่ถูกเนรเทศมาอย่างพวกเขานั้น มีฐานะที่ต่ำต้อยที่สุด แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้หมายความว่านางจะยอมถูกรังแกได้ง่าย ๆ

หมิงจิ่วเหนียงยื่นมือไปจับไม้ของนางไว้ “ทำไม เจ้าด่าข้าได้ แต่ข้าด่าเจ้าคืนไม่ได้งั้นหรือ? ถ้าไม่พอใจ ก็ให้สามีเจ้าไปหาสามีข้าโน้น! ข้าขี้เกียจแล้วยังไง? สามีข้าตามใจข้าแบบนี้! มีปัญญาเจ้าก็ไปให้สามีเจ้าตามใจเจ้าแบบนี้ซิ!”

พอนึกถึงรูปร่างของเซียวเถ่ฉื้อแล้ว แม่บ้านก็รู้สึกใจสั่นและหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมาทันที

หมิงจิ่วเหนียงหึเสียงเย็นขึ้นมาคำหนึ่ง แล้วผลักแม่บ้านคนนั้นอย่างแรงทีหนึ่ง ถึงปล่อยมือออก

อย่าคิดว่านางไม่รู้นะ คนแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวเซียวเถ่ฉื้อ คงจะมารังแกถึงบ้านตั้งนานแล้ว

สู้ไม่ไหว ยังอยากมาเต้นเร่า ๆ อยู่ต่อหน้าตัวเอง นี่มันรนหาที่เองชัด ๆ!

แม่บ้านคนอื่นเห็นแบบนี้ก็รีบประนีประนอม แม่บ้านหลายคนซักเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วแล้วก็รีบจากไป

หมิงจิ่วเหนียงก้มหน้ามองฮัวเอ๋อร์ที่ยังหวาดกลัวอยู่เล็กน้อย แล้วเช็ดหน้าให้เขาทีหนึ่งและพูดขึ้นว่า “ฮัวเอ๋อร์เจ้าจำไว้นะ คนที่สู้ไหวก็ต้องสู้ ไม่งั้นคนอื่นจะคิดว่าเจ้าอ่อนแอ ถ้าคนที่สู้ไม่ไหว เราก็ต้องรีบหนี ลูกผู้ชายแก้แค้นสิบปีก็ไม่สายรู้ไหม? แล้วอีกอย่าง ยังมีพ่อกับแม่อยู่ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น เข้าใจไหม?”

ฮัวเอ๋อร์จ้องมองมารดาที่แตกต่างไปจากเดิมทุกอย่าง แล้วพยักหน้าอย่างแรง

เขาชอบมารดาในตอนนี้มากจริง ๆ เขารู้สึกเหมือนราวกับตัวเองฝันไป กลัวจะตื่นจากฝันนี้มากจริง ๆ

ตรงด้านหลังกอต้นอ้อ เซียวเถ่ฉื้อที่มาตักน้ำให้ช่างตีเหล็ก พอได้ยินคำพูดพวกนี้ของนางจบ ก็จากไปอย่างเงียบเชียบ เหมือนกับตอนขามา

“จะทำยังไงกับอาหารเช้าดี?” หมิงจิ่วเหนียงรู้สึกยากลำบาก

เงินห้าอีแปะที่เซียวเถ่ฉื้อให้มา พอจะกินอาหารเช้าได้มื้อหนึ่งอยู่ แต่ถ้าใช้ไปหมดก็จะไม่เหลืออะไรแล้วนะ

นางไม่อยากเสียเงินที่ได้มาอยู่ในมือไปเร็วขนาดนี้ แต่ท้องก็ยังประท้วงอยู่

“ซ่อนไข่ได้หรือยัง?” นางได้ยินก๊าบ ๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นมา

“ข้าไม่เป็นเหมือนเจ้าสักหน่อยที่มีคู่ ไข่พวกนี้มันไม่มีเชื้อ มีอะไรให้น่าซ่อนกัน? แล้วอีกอย่าง ไข่กองนี้ของข้าก็ซุกอยู่ในดินโคลนนี้มาตั้งครึ่งเดือนแล้ว ยังไม่มีคนมาพบเห็นเลย ตอนนี้ข้าจะไปหานกเป็ดน้ำตัวผู้สักตัวมาเสพสมก่อนแล้ว!”

พอคำพูดจบลง ตรงกอต้นอ้อริมฝั่งตรงข้ามก็มีนกเป็ดน้ำสองตัวบินออกมา

หมิงจิ่วเหนียงรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก แล้วก็จูงมือฮัวเอ๋อร์ขึ้นมาอย่างอดทนรอไม่ไหว แล้วเดินข้ามสะพานลอยไปอีกฝั่งหนึ่ง

ไข่นกเป็ดน้ำจ๋า ข้ามาแล้ว!

เมื่อกี้นางมองเห็นตำแหน่งแค่พอประมาณ ดังนั้นจึงให้ฮัวเอ๋อร์ยืนรออยู่ริมฝั่ง ตัวเองถอดรองเท้าผ้าออก แล้วเหยียบลงไปบนดินโคลนในกอต้นอ้อ และยื่นมือลงไปควานหาไข่นกเป็ดน้ำ

ร่างกายที่อ้วนท่วมของนางนี้ การงอตัวลงแบบนี้ไปนั้น เป็นการสร้างความลำบากให้กับนางจริง ๆ

หายใจหอบไปแล้วนางก็ปาดเหงื่อที่ไหลเข้าไปในตาทีหนึ่ง ทั้งคนก็กลายเป็นคนหน้าลายไปทันที

ฮัวเอ๋อร์จ้องมองนาง จากนั้นมุมปากก็คลี่ยิ้มขึ้น แล้วมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมา

ตอนที่เขายิ้มขึ้นมายังมีลักยิ้มด้วย ดูสวยงามมาก จนทำให้หมิงจิ่วเหนียงมองจนนิ่งอึ้งไปเลย

อยู่ ๆ นางก็เปลี่ยนความคิดไป กวักมือแล้วพูดขึ้นว่า “มานี่ ลูก มาช่วยแม่หาไข่นกเป็ดน้ำกัน! ถ้าหาไข่นกเป็ดน้ำได้ เดี๋ยวแม่จะย่างไข่นกเป็ดน้ำให้เจ้ากินนะ”

ที่แท้ท่านแม่กำลังหาไข่นกเป็ดน้ำอยู่นี่เอง

ฮัวเอ๋อร์เหยียบลงไปบนโคลนอย่างระมัดระวัง แต่ไม่นานก็ปล่อยเนื้อปล่อยตัวไป กลิ้งจนทำให้ตัวเองกลายเป็นลูกหมูสกปรกตัวหนึ่งไป

“ไข่นกเป็ดน้ำยังหาไม่ทันเจอ เจ้าก็กลายเป็นไข่ดินโคลนไปซะแล้ว” หมิงจิ่วเหนียงยืดเอวขึ้นมาแล้วก่นด่าอย่างขำขัน

รอยยิ้มบนใบหน้าฮัวเอ๋อร์แข็งทื่อไป ในดวงตามีแต่ความเหลือเชื่อ มือยังคงฝังอยู่ในดินโคลนเช่นเดิม

หมิงจิ่วเหนียงตกตะลึงขึ้นมา “ฮัวเอ๋อร์ ถูกอะไรกัดหรือเปล่าลูก?”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel